How to use the PenetrometerThe read

How to use the Penetrometer
The readings taken with the penetrometer are called the cone index. The readings should be taken when the whole profile is at field capacity (approximately 24 hours after a soaking rain). The best time of the year for the compaction measurement is the spring because the whole profile has usually been thoroughly moistened during the winter. If the soil is too wet (muddy), compaction could be underestimated because the soil acts as a liquid. If the soil is too dry, compaction could be overestimated because roots will be able to penetrate the soil when it dampens. The idea behind using the penetrometer at field capacity is that this is the best-case scenario for roots. Hopefully, the soil will be at field capacity at various times during the growing season. During these periods, roots will be able to penetrate soil that has low penetration resistance. Penetration resistance will increase when the soil dries out, and root growth can then be expected to be limited. However, when the moisture content of the soil increases again, penetration resistance will decrease, and root growth will resume.

The penetrometer rod should be driven in the soil at a rate of approximately 1 inch per second. As you push the penetrometer into the soil, record the depth at which the 300 psi level is exceeded, using the gradients on the penetrometer rod. This level is the top of the compacted zone. Continue pressing the penetrometer down. Record the depth at which the penetration falls below 300 psi. This is the bottom of the compacted zone. For each measuring point, there are two numbers: the top of the compaction zone and the bottom of the compaction zone. If penetration resistance never increases above 300 psi, you will have blanks in both spaces, indicating no severe root-limiting compaction. If the penetration resistance increases above 300 psi, but never falls below 300 psi, there is no bottom to the compaction zone.

Cone index should be measured respective to tillage relief, wheel tracks, plant rows, and other recognizable patterns in the field. For example, if you know the areas of wheel traffic, take transects in and out of the track, and report them separately. If there are subsoiled zones in the field, measure penetration resistance in and out of the subsoiled zone. If there are planted rows, take measurements in and between the rows, and report them separately. Take separate readings for trafficked and non-trafficked areas.

The number of readings in a field depends on the accuracy you desire. As a first approximation, take some preliminary readings at a few places in the field to develop a sampling strategy. The cone index values are likely to be quite variable, so multiple readings are required per field. It is recommended to take one reading every 100 to 150 feet, or three to four readings per acre to develop a solid recommendation. This is a useful spacing if no recognizable patterns are present. If you recognize patterns, you may wish to increase the number of readings and report them separately as suggested above. It is extremely useful to compare the cone index values in the field with measurements in undisturbed areas such as fence rows.

After completing the sampling, a recommendation can be formulated using table 1.

The measurement of the lower boundary of the compaction zone determines the depth of subsoiling. If subsoiling is recommended, run the subsoiler 1 inch below the compaction zone. Setting the subsoiler much deeper will not provide additional benefits. If subsoiling is done, it is important to eliminate the cause of compaction to avoid recompaction. Subsoiling should only be considered to be a measure of last resort, not an annual management practice. These recommendations are based on research conducted at the University of Kentucky. With time, we hope to validate them in Pennsylvania.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีการใช้ Penetrometerอ่านกับ penetrometer เรียกว่าดัชนีกรวย การอ่านควรดำเนินการเมื่อโพรไฟล์ทั้งหมดในฟิลด์กำลังการผลิต (ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังฝนแบบ) ปีสำหรับการกระชับข้อมูลประเมินและสุดท้ายคือ ฤดูใบไม้ผลิเนื่องจากโพรไฟล์ทั้งหมดมีมักจะถูกทำ moistened ในช่วงฤดูหนาว ถ้าดินไม่เปียก (โคลน) เกินไป ไม่สามารถ underestimated กระชับข้อมูลได้เนื่องจากดินที่ทำหน้าที่เป็นน้ำยา ถ้าดินแห้งเกินไป สามารถ overestimated กระชับข้อมูลเนื่องจากรากจะสามารถเจาะดินเมื่อมัน dampens ความคิดหลังใช้ penetrometer ที่ฟิลด์กำลังการผลิตคือ เป็นกรณี best-case สำหรับราก หวังว่า ดินจะเป็นที่ฟิลด์กำลังการผลิตที่เวลาต่าง ๆ ในระหว่างฤดูกาลเติบโต ในระหว่างรอบระยะเวลาเหล่านี้ รากจะสามารถเจาะดินที่มีความต้านทานต่ำเจาะ เจาะความต้านทานจะเพิ่มขึ้นเมื่อดินแห้งออก และรากเจริญเติบโตแล้วจะคาดว่าจะจำกัด อย่างไรก็ตาม เมื่อชื้นของดินเพิ่มอีก จะลดการต้านทานการเจาะ กรากเจริญเติบโตจะกลับมาร็อด penetrometer ควรจะขับเคลื่อนในดินในอัตราประมาณ 1 นิ้วต่อวินาที เท่าที่คุณผลักดัน penetrometer ที่ในดิน บันทึกความลึกที่ระดับ 300 psi เกิน ร็อด penetrometer ใช้การไล่ระดับสี ระดับนี้เป็นด้านบนของโซนที่กระชับ กด penetrometer ที่ลงต่อไป บันทึกความลึกที่เจาะจะลดลงต่ำกว่า 300 psi ด้านล่างของโซนกระชับอยู่ แต่ละจุดวัด มีหมายเลขสอง: ด้านบนของโซนกระชับข้อมูลและด้านล่างของโซนกระชับข้อมูล ต้านทานการเจาะไม่เคยเพิ่มข้าง 300 psi คุณจะได้ช่องในช่องว่างทั้งสอง ระบุไม่กระชับข้อมูลจำกัดรากอย่างรุนแรง ถ้าความต้านทานการเจาะเพิ่มขึ้นเหนือ 300 psi แต่ไม่เคยลดลงต่ำกว่า 300 psi มีไม่ล่างโซนกระชับข้อมูลกรวยดัชนีควรจะวัดตามลำดับเพื่อบรรเทา tillage ล้อแทร็ค แถวโรงงาน และรูปแบบอื่น ๆ เป็นที่รู้จักในฟิลด์ ตัวอย่าง ถ้าคุณรู้ว่าพื้นที่จราจรล้อ นำ transects ออกติดตาม และรายงานแยกต่างหาก ถ้ามีโซน subsoiled ในฟิลด์ วัดความต้านทานการเจาะออกโซน subsoiled ถ้ามีจะปลูกแถว ใช้วัดใน และ ระหว่างแถว และรายงานแยกต่างหาก ใช้เวลาอ่านแยกต่างหากสำหรับเหตุการณ์ และไม่ค้าจำนวนอ่านในฟิลด์ขึ้นอยู่กับความแม่นยำที่คุณต้องการ เป็นประมาณแรก ใช้อ่านเบื้องต้นบางอย่างที่ไม่กี่ที่ในฟิลด์เพื่อพัฒนากลยุทธ์การสุ่มตัวอย่าง ค่าดัชนีกรวยจะเป็น ตัวแปรมาก เพื่ออ่านหลายจำเป็นต่อ แนะนำจะอ่านหนึ่งทุก 100-150 ฟุต หรืออ่าน 3-4 ต่อเอเคอร์เพื่อพัฒนาคำแนะนำของแข็ง นี้จะเป็นประโยชน์ระยะถ้ามีรูปแบบที่ไม่รู้จัก ถ้าคุณรู้จักรูปแบบ คุณอาจต้องการเพิ่มจำนวนการอ่าน และรายงานที่แยกต่างหากเป็นแนะนำข้างต้น มีประโยชน์อย่างมากในการเปรียบเทียบค่าดัชนีกรวยในฟิลด์ มีการวัดในพื้นที่อย่างมากเช่นแถวรั้วได้หลังจากเสร็จสิ้นการสุ่มตัวอย่าง แนะนำสามารถจะถูกกำหนดโดยใช้ตาราง 1วัดขอบเขตล่างของโซนกระชับข้อมูลกำหนดความลึกของ subsoiling ถ้า subsoiling ขอแนะนำ รัน subsoiler 1 นิ้วด้านล่างโซนกระชับข้อมูล ตั้ง subsoiler ลึกมากจะไม่ให้ผลประโยชน์เพิ่มเติม ถ้าทำการ subsoiling มันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อกำจัดสาเหตุของกระชับข้อมูลเพื่อหลีกเลี่ยงการ recompaction Subsoiling เฉพาะควรเป็น วัดสุดท้าย ไม่มีปีการจัดการปฏิบัติการ คำแนะนำเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับงานวิจัยที่ดำเนินการที่มหาวิทยาลัยเคนทักกี เวลา เราหวังว่าจะตรวจสอบพวกเขาในเพนซิลวาเนีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการใช้ Penetrometer
อ่านที่ถ่ายด้วย Penetrometer จะเรียกว่าดัชนีกรวย การอ่านจะต้องดำเนินการเมื่อรายละเอียดทั้งหมดอยู่ที่ความจุสนาม (ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากที่ฝนแช่) เวลาที่ดีที่สุดของปีสำหรับการวัดการบดอัดเป็นฤดูใบไม้ผลิเพราะรายละเอียดทั้งหมดได้รับมักจะชุบอย่างละเอียดในช่วงฤดูหนาว ถ้าดินเปียกเกินไป (โคลน) บดอัดจะได้รับการประเมินเพราะดินที่ทำหน้าที่เป็นของเหลว ถ้าดินแห้งเกินไปการบดอัดอาจจะเกินไปเพราะรากจะสามารถที่จะเจาะดินเมื่อมันลด คิดที่อยู่เบื้องหลังการใช้ Penetrometer ที่ความจุข้อมูลว่าขณะนี้เป็นกรณีที่ดีที่สุดสำหรับราก หวังว่าดินจะเป็นที่ความจุข้อมูลในหลาย ๆ ครั้งในช่วงฤดูปลูก ในช่วงนี้รากจะสามารถที่จะเจาะดินที่มีความต้านทานการเจาะต่ำ ต้านทานการรุกจะเพิ่มขึ้นเมื่อดินแห้งออกและเจริญเติบโตของรากจากนั้นจะสามารถคาดว่าจะถูก จำกัด แต่เมื่อปริมาณความชื้นของดินเพิ่มขึ้นอีกครั้งต้านทานการรุกจะลดลงและการเจริญเติบโตของรากจะกลับ. แกน Penetrometer จะถูกผลักดันในดินในอัตราประมาณ 1 นิ้วต่อวินาที ในขณะที่คุณผลักดัน Penetrometer ลงไปในดินบันทึกความลึกที่ระดับ 300 psi เกินโดยใช้การไล่ระดับสีในแท่ง Penetrometer ระดับนี้จะอยู่ด้านบนของโซนอัด กด Continue Penetrometer ลง บันทึกความลึกที่เจาะลงต่ำกว่า 300 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว นี่คือด้านล่างของโซนอัด สำหรับแต่ละจุดวัดมีสองหมายเลข: ด้านบนของโซนการบดอัดและด้านล่างของโซนการบดอัด ถ้าความต้านทานการเจาะไม่เคยเพิ่มขึ้นสูงกว่า 300 psi คุณจะมีช่องว่างในพื้นที่ทั้งสองแสดงให้เห็นไม่มีการบดอัดราก จำกัด อย่างรุนแรง ถ้าเพิ่มความต้านทานการรุกเหนือ 300 psi แต่ไม่เคยต่ำกว่า 300 ปอนด์ต่อตารางนิ้วมีด้านล่างไปยังเขตการบดอัดไม่. ดัชนีกรวยควรจะวัดที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมดินโล่งอกแทร็ล้อ, แถวอาคารและรูปแบบที่เป็นที่รู้จักในสาขาอื่น ๆ ตัวอย่างเช่นถ้าคุณรู้ว่าพื้นที่ของการจราจรล้อที่ใช้ตัดขวางเข้าและออกจากการติดตามและรายงานพวกเขาต่างหาก หากมี subsoiled โซนในสนามวัดความต้านทานการรุกเข้าและออกจากโซน subsoiled หากมีการปลูกแถวใช้วัดทั้งในและระหว่างแถวและรายงานพวกเขาต่างหาก ลองอ่านที่แยกต่างหากสำหรับการค้ามนุษย์และพื้นที่ที่ไม่ใช่การค้ามนุษย์. จำนวนของการอ่านในด้านขึ้นอยู่กับความถูกต้องที่คุณต้องการ ในฐานะที่เป็นครั้งแรกประมาณใช้เวลาอ่านเบื้องต้นบางสถานที่ไม่กี่ที่ในด้านการพัฒนากลยุทธ์การสุ่มตัวอย่าง ค่าดัชนีกรวยมีแนวโน้มที่จะเป็นตัวแปรมากดังนั้นการอ่านหลาย ๆ ที่จำเป็นต่อข้อมูล ก็จะแนะนำให้ใช้เวลาหนึ่งอ่านทุก 100-150 ฟุตหรือ 3-4 อ่านต่อเอเคอร์ในการพัฒนาข้อเสนอแนะที่เป็นของแข็ง นี้เป็นระยะห่างที่มีประโยชน์หากไม่มีรูปแบบที่เป็นที่รู้จักที่มีอยู่ ถ้าคุณรู้จักรูปแบบที่คุณอาจต้องการที่จะเพิ่มจำนวนของการอ่านและรายงานแยกตามข้อเสนอแนะดังกล่าวข้างต้น มันจะมีประโยชน์มากในการเปรียบเทียบค่าดัชนีกรวยในเขตที่มีการวัดในพื้นที่ที่ไม่ถูกรบกวนเช่นแถวรั้ว. หลังจากเสร็จสิ้นการสุ่มตัวอย่าง, คำแนะนำได้สูตรโดยใช้ตารางที่ 1. การวัดขอบล่างของเขตการบดอัดเป็นตัวกำหนดความลึก ของ subsoiling หาก subsoiling ขอแนะนำให้เรียกใช้ไถดินดาน 1 นิ้วด้านล่างโซนการบดอัด การตั้งค่าไถดินดานลึกมากจะไม่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม หาก subsoiling จะทำก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะขจัดสาเหตุของการบดอัดเพื่อหลีกเลี่ยงการ recompaction Subsoiling ควรจะถือว่าเป็นตัวชี้วัดของรีสอร์ทไม่ปฏิบัติจัดการประจำปี คำแนะนำเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับการวิจัยดำเนินการที่มหาวิทยาลัยเคนตั๊กกี้ กับเวลาที่เราหวังว่าจะตรวจสอบพวกเขาในรัฐเพนซิลวาเนีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีการใช้วัสดุ
อ่านถ่ายด้วยวัสดุที่เรียกว่าดัชนีกรวย การอ่านควรถ่ายเมื่อข้อมูลทั้งหมดที่ความจุสนาม ( ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังเปียกฝน ) เวลาที่ดีที่สุดของปีสำหรับการใช้ สปริง เพราะรายละเอียดทั้งหมดได้มักจะถูกให้ชุ่มในช่วงฤดูหนาวถ้าดินมันเปียกเกินไป ( โคลน ) , การไม่สามารถ underestimated เพราะดินทำหน้าที่เป็นของเหลว ถ้าดินแห้งเกินไป การจะประเมินค่า เพราะรากจะสามารถเจาะดินเมื่อทำให้ . ความคิดที่อยู่เบื้องหลังการใช้วัสดุที่ความจุสนามนี่เป็นสถานการณ์กรณีที่ดีที่สุดสำหรับราก หวังว่าดินจะเต็มความจุสนามในช่วงเวลาต่าง ๆ ในช่วงฤดูปลูก . ในระหว่างรอบระยะเวลาเหล่านี้ รากจะสามารถเจาะดินที่มีความต้านทานการเจาะต่ำ ความต้านทานจะเพิ่มขึ้นได้เมื่อดินแห้งออกและการเจริญเติบโตของรากสามารถคาดว่าจะถูก จำกัด อย่างไรก็ตาม เมื่อปริมาณความชื้นของดินเพิ่มขึ้นอีก ทะลุ ความต้านทานจะลดลงการเจริญเติบโตของราก และจะกลับมา

วัสดุแกนควรเคลื่อนในดิน ในอัตราประมาณ 1 นิ้วต่อวินาที เท่าที่คุณผลักดันวัสดุลงในดิน บันทึกความลึกที่ระดับเกิน 300 psi ใช้ไล่ระดับสีบนวัสดุคันเบ็ด ระดับนี้เป็นด้านบนของกะบะ โซน ต่อไปกดวัสดุลงบันทึกความลึกที่เจาะต่ำกว่า 300 psi . นี้เป็นด้านล่างของกะบะ โซน สำหรับแต่ละจุดวัด มีตัวเลขสอง : ด้านบนของการบดอัดและโซนด้านล่างของโพรง โซน ถ้าทะลุต้านทานไม่เคยเพิ่มสูงกว่า 300 psi , คุณจะมีช่องว่างในช่องว่างทั้งสอง ระบุไม่รุนแรงอัดรากจำกัด .ถ้าความต้านทานการเจาะเพิ่มสูงกว่า 300 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว แต่ไม่เคยต่ำกว่า 300 psi ไม่มีล่างอัดโซน

กรวยดัชนีควรวัดที่เกี่ยวข้องกับดินชื้น ล้อแทร็ค โรงงานแถว ๆรู้จักรูปแบบในเขตข้อมูล ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทราบว่า พื้นที่ของการจราจรที่ล้อ ใช้ transects ในและออกของการติดตามและรายงานแยกต่างหากหากมี subsoiled โซนในเขตวัดความต้านทานการเจาะใน และ นอกเขต subsoiled . ถ้าไม่มีที่ปลูกแถวที่ใช้การวัดและระหว่างแถว และรายงานแยกต่างหาก เอาค่าแยกต่างหากสำหรับการค้าและไม่ใช่พื้นที่ค้า

จำนวนการอ่านในเขตข้อมูลขึ้นอยู่กับความถูกต้องที่คุณต้องการ เป็นประมาณก่อนเอาค่าเบื้องต้นบางอย่างในสถานที่ไม่กี่ในด้านการพัฒนาและกลยุทธ์ กรวยค่าดัชนีมีแนวโน้มที่จะแปรผันมาก ดังนั้นการอ่านหลายจะต้องต่อสนาม ก็จะแนะนำให้ใช้เวลาในการอ่านทุก 100 ถึง 150 ฟุต หรือ 3-4 ผลต่อไร่ เพื่อพัฒนาเป็นคำแนะนำที่เป็นของแข็ง นี้เป็นประโยชน์ที่ระยะห่างถ้าไม่มีรูปแบบที่รู้จักอยู่ถ้าคุณจำรูปแบบ คุณอาจต้องการที่จะเพิ่มจำนวนของการอ่านและรายงานแยกตามคำแนะนำข้างต้น มันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเพื่อเปรียบเทียบค่าดัชนีกรวยในเขตวัดในพื้นที่ที่ไม่ถูกรบกวน เช่น แถวรั้ว . . .

หลังจากเสร็จสิ้นการสุ่มตัวอย่าง การแนะนำสามารถกำหนดโดยใช้ตาราง 1 .

วัดจากขอบล่างของการกำหนดความลึกของเขต subsoiling . ถ้า subsoiling แนะนํา วิ่งลง 1 นิ้ว ด้านล่างอัดโซน การลงลึกมาก จะให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ถ้า subsoiling เสร็จแล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะขจัดสาเหตุของการบดอัดเพื่อหลีกเลี่ยงการบดอัดซ้ําต่อ .subsoiling ควรจะถือว่าเป็นมาตรการสุดท้าย ไม่ใช่ปีการจัดการการปฏิบัติ คำแนะนำเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับการวิจัยดำเนินการที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเคนตั๊กกี้ กับเวลาที่เราหวังว่าจะตรวจสอบพวกเขาในเพนซิลเวเนีย