Two sisters were motoring through C

Two sisters were motoring through Cape Cod late one stormy night in the early 1900's when their car broke down in an unpopulated area. Seeing an old, neglected house nearby, they went to the door and tugged on the bell-pull. When no one answered, they looked through a nearby window whose shutter was banging in the bitter wind. The window was broken. Through the window, they could see a library. The dust lay heavy over everything.

The women decided to take shelter for the night and find someone to tow the car the next day. They brought blankets in from the car, their feet leaving tracks in the thick dust of the floor as they settled in for the night.

Sometime later, they were both suddenly awakened. A bedraggled sailor, dripping wet, was standing next to the fireplace as if he were looking to dry himself before a non-existent fire. The sailor was glowing in the dark. The braver of the sisters finally called out a strangled: "Who is there?"

The sailor muttered something they could not make out and disappeared. Deciding it was a dream, the sisters lay back down to sleep. But the next morning, they found a patch of wet salt water by the fireplace, and a piece of seaweed. And there were no footprints in the dust by the fireplace save their own.

The sisters hurried out to their car. Soon, they were given a tow to the nearest village by a passing motorist. There they asked about the abandoned house. They were told the house had been empty for years. The people who owned it had a son who was driven from home by his father and had drowned at sea. The family had moved away because they claimed strange things kept happening at night.

A few months later, one of the sisters told her tale at a dinner party. A museum curator seated near her volunteered to test the seaweed for her. The curator sent her a message several days later. The message simply said that the seaweed she had found in the abandoned house was a rare type of seaweed only found on dead bodie

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สองสาวขึ้นบนผ่าน Cape Cod สายพายุดี 1900 ก่อนเมื่อรถของพวกเขายากจนลงในพื้นที่ unpopulated พวกเขาเห็นเป็นบ้านเก่า ที่ถูกละเลยในบริเวณใกล้เคียง ไปที่ประตู และ tugged บนดึงเบล เมื่อไม่มีใครตอบ พวกเขามองผ่านหน้าต่างในบริเวณใกล้เคียงมีชัตเตอร์ถูกพวกลมขม หน้าต่างถูกตัดขาด ผ่านหน้าต่าง พวกเขาสามารถดูรี ฝุ่นวางหนักมากกว่าทุกสิ่งผู้หญิงตัดสินใจพักพิงในยามค่ำคืน และหาคนพ่วงรถวันถัดไป พวกเขานำผ้าห่มในจากรถยนต์ เท้าของพวกเขาออกจากแทร็กในฝุ่นหนาของชั้นเป็นพวกเขาชำระในเวลากลางคืนบางครั้งในภายหลัง พวกเขาได้ทั้งสองก็ตื่นตัว ทหารเรือ bedraggled ขจีเปียก ถูกยืนอยู่ถัดจากเตาไฟเหมือนกับว่าเขากำลังมองให้แห้งตัวก่อนไฟไหม้ไม่มีอยู่ มีการเรืองแสงในมืด Braver ของน้องสาวสุดเรียกการผูก: "ใครอยู่ที่นั่น"ที่ muttered สิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำให้ออก และหายไป ตัดสินใจถูกความฝัน น้องสาวการวางกลับลงไปนอน แต่ตอนเช้าถัดไป พวกเขาพบแพทช์เปียกน้ำเกลือ โดยเตาไฟ และชิ้นส่วนของสาหร่าย และมีรอยเท้าไม่มีในฝุ่นจากเตาไฟบันทึกของตนเองน้องสาวที่รีบออกไปที่รถของพวกเขา เร็ว ๆ นี้ พวกเขาได้รับใยเป็นหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุด โดยการผ่านมอเตอริสต์ มีผู้ถามเกี่ยวกับบ้านละทิ้ง พวกเขามีบอกบ้านได้เปล่าปี คนที่เป็นเจ้าของมันมีลูกชายที่ถูกขับเคลื่อนจากที่บ้าน โดยบิดา และมีจม ในทะเล ครอบครัวได้ย้ายไป เพราะพวกเขาอ้างว่า สิ่งประหลาดยังคงเกิดขึ้นในเวลากลางคืนไม่กี่เดือนต่อมา หนึ่งของน้องสาวที่บอกเรื่องของเธอในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ที่นั่งใกล้เธอ volunteered เพื่อทดสอบสาหร่ายทะเลสำหรับเธอ ภัณฑารักษ์ที่ส่งเธอข้อความหลายวันต่อมา ข้อความเพียงแค่บอกว่า สาหร่ายที่เธอได้พบในบ้านละทิ้งชนิดของสาหร่ายที่พบเฉพาะ ในบอดี้ตายหายาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พี่สาวสองคนได้ใช้เครื่องยนต์ผ่านเคปคอดปลายคืนหนึ่งมีพายุในต้นปี 1900 เมื่อรถของพวกเขายากจนลงไปในพื้นที่ห่างไกล เห็นเก่าบ้านละเลยที่ใกล้เคียงพวกเขาเดินไปที่ประตูและดึงบนระฆังดึง เมื่อไม่มีใครตอบว่าพวกเขามองผ่านหน้าต่างที่ใกล้เคียงที่มีชัตเตอร์ได้ต่อสู้ในลมขม หน้าต่างที่ถูกทำลาย ผ่านหน้าต่างที่พวกเขาจะได้เห็นห้องสมุด ฝุ่นวางหนักกว่าทุกสิ่งที่ผู้หญิงตัดสินใจที่จะใช้ที่พักพิงสำหรับคืนและหาคนที่จะลากรถในวันถัดไป พวกเขานำผ้าห่มมาจากรถที่เท้าของพวกเขาออกจากแทร็คในฝุ่นหนาของชั้นที่พวกเขาตั้งรกรากอยู่ในคืนนี้บางครั้งต่อมาพวกเขาทั้งสองตื่นขึ้นมาอย่างกระทันหัน กะลาสีเปื้อนหยดเปียกได้รับการยืนอยู่ข้างเตาผิงราวกับว่าเขากำลังมองหาที่จะแห้งตัวเองก่อนที่จะเกิดไฟไหม้ไม่ได้มีอยู่ เซเลอร์ที่ได้รับการเรืองแสงในที่มืด กล้าหาญของน้องสาวที่เรียกว่าในที่สุดก็ออกรัดคอ "ใครอยู่ที่นั่น?" กะลาสีพึมพำอะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่สามารถทำออกมาและหายไป การตัดสินใจที่มันเป็นความฝันน้องสาววางกลับลงไปนอนหลับ แต่เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาพบว่าแพทช์ของเกลือน้ำเปียกโดยเตาผิงและชิ้นส่วนของสาหร่ายทะเล และมีรอยเท้าไม่มีในฝุ่นข้างเตาผิงบันทึกของตัวเองน้องสาวรีบออกไปที่รถของพวกเขา เร็ว ๆ นี้พวกเขาได้รับการดึงไปยังหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดโดยคนขับรถยนต์ผ่าน ที่นั่นพวกเขาถูกถามเกี่ยวกับบ้านร้าง พวกเขาบอกว่าบ้านที่ได้รับการว่างเปล่ามานานหลายปี คนที่เป็นเจ้าของก็มีลูกชายที่ถูกขับออกมาจากบ้านโดยบิดาของเขาและได้จมน้ำในทะเล ครอบครัวได้ย้ายออกไปเพราะพวกเขาอ้างว่าสิ่งแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นเก็บไว้ในเวลากลางคืนไม่กี่เดือนต่อมาซึ่งเป็นหนึ่งในพี่สาวน้องสาวบอกเล่าเรื่องราวของเธอที่งานเลี้ยงอาหารค่ำ ดูแลพิพิธภัณฑ์นั่งใกล้เธออาสาที่จะทดสอบสาหร่ายสำหรับเธอ ภัณฑารักษ์ส่งข้อความของเธอหลายวันต่อมา ข้อความเพียงแค่บอกว่าสาหร่ายทะเลที่เธอได้พบในบ้านร้างเป็นชนิดที่หายากของสาหร่ายทะเลที่พบได้เฉพาะบนร่างผู้ตาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สองสาวเป็นเครื่องยนต์ผ่านแหลมค็อดสายหนึ่งพายุคืนในช่วงต้น 1900 เมื่อรถเสียในพื้นที่ unpopulated . เห็นคนแก่ หลงบ้านใกล้เคียง พวกเขาไปที่ประตูและดึงกระดิ่งบนดึง เมื่อไม่มีใครตอบ เขามองผ่านหน้าต่างในบริเวณใกล้เคียงที่มีชัตเตอร์คือ กับลมขม หน้าต่างแตก ทางหน้าต่าง พวกเขาได้เห็นห้องสมุดฝุ่นวางหนักกว่าทุกอย่าง

ผู้หญิงตัดสินใจที่จะใช้เวลาพักสำหรับคืนและหาคนลากรถในวันถัดไป เขาเอาผ้าห่มจากรถ เท้าของพวกเขาออกจากแทร็คในฝุ่นหนาของพื้นที่พวกเขาตัดสินในคืน

หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ตื่นแล้ว ซึ่งทำให้เปรอะเปื้อนและเปียกแหมะเปียกเป็นกะลาสี