The monopolistic advantage theory i

The monopolistic advantage theory is an approach in international business which explains why firms can compete in foreign settings against indigenous competitors
It is frequently associated with the seminal contribution of Stephen Hymer.[2] Hymer was puzzled by the inability of the prevailing neo-classical theories of international trade and international finance (portfolio capital investment) to explain the foreign activities of firms.[1] According to neo-classical theory, highly developed countries where capital is abundant relative to labour are expected to export capital intensive goods and import labour intensive goods.[1] Given tariff or non-tariff barriers, these countries may export capital as a partial substitute to goods thus reaping the benefits from higher interest rates in developing countries where capital is scarce and labour abundant.[1] Since 1945, however, empirical trade and the flows of capital are now mainly occurring between industrialised countries with rather similar factor endowment.[1] Hymer's response was to put forward a microeconomic approach that stressed the role of the individual firm as main determinant of international flows of goods and capital.[1] His explanation of foreign direct investment extended the portfolio investment approach by emphasizing that an element of control over the acquired assets can lead to higher returns than could be expected according to financial theory

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีประโยชน์ monopolistic เป็นวิธีการในธุรกิจระหว่างประเทศที่อธิบายว่า ทำไมบริษัทสามารถแข่งขันในการตั้งค่าต่างกับคู่แข่งที่ชน
จึงมักเกี่ยวข้องกับ Stephen Hymer สรรบรรลุถึง[2] Hymer ถูกพิศวง โดยไม่ยึดทฤษฎีนีโอคลาสสิกของการค้าระหว่างประเทศและการเงินระหว่างประเทศ (ผลงานทุน) เพื่ออธิบายกิจกรรมต่างประเทศของบริษัท[1] ตามอยู่กับทฤษฎีนีโอคลาสสิก ประเทศที่พัฒนาสูงอุดมสมบูรณ์ที่สัมพันธ์กับแรงงานทุนคาดว่าจะเร่งรัดทุนสินค้าส่งออก และนำเข้าสินค้าแรงงานเร่งรัด[1] กำหนดอัตราภาษีหรืออุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี ประเทศเหล่านี้อาจส่งออกเงินทุนทดแทนบางส่วนสินค้าดัง reaping ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าในประเทศกำลังพัฒนาขาดแคลนทุน และแรงงานมากมาย[1] นับตั้งแต่ปี 1945 ไร ค้ารวมและกระแสเงินทุนมีขณะนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างประเทศ industrialised กับองค์การกองทุนปัจจัยค่อนข้างคล้ายกัน[1] ตอบ Hymer ใส่วิธี microeconomic ที่เน้นบทบาทของแต่ละบริษัทเป็นดีเทอร์มิแนนต์หลักของสินค้าและเงินทุนต่างประเทศไหล ไปข้างหน้าได้[1] ต่างประเทศเขาอธิบายขยายวิธีลงทุนผลงาน โดยเน้นองค์ประกอบของการควบคุมทรัพย์สินได้รับจะนำไปสู่ผลตอบแทนสูงกว่าอาจจะคาดว่าตามทฤษฎีทางการเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีมีประโยชน์เป็นแนวทางหนึ่งในธุรกิจระหว่างประเทศซึ่งจะอธิบายว่าทำไม บริษัท สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในต่างประเทศในการตั้งค่าดั้งเดิม
คือมักเกี่ยวข้องกับการบริจาคอสุจิของ สตีเฟน ไฮเมอร์ .[ 2 ] HYMER งงโดยการแลกเปลี่ยนนีโอคลาสสิกทฤษฎีการค้าและการเงินระหว่างประเทศ ( พอร์ตการลงทุน ) เพื่ออธิบายกิจกรรมในต่างประเทศของบริษัท [ 1 ] ตามทฤษฎีนีโอคลาสสิก การพัฒนาประเทศที่ทุนมากมายเมื่อเทียบกับแรงงานที่คาดว่าจะส่งออกและนำเข้าสินค้าทุน แรงงานเข้มข้น สินค้า[ 1 ] ให้ภาษีศุลกากรหรืออุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี ประเทศเหล่านี้อาจส่งออกทุนแทนบางส่วนให้กับสินค้า ดังนั้นผลประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาที่ขาดแคลนเงินทุนและแรงงานมากมาย [ 1 ] ตั้งแต่ปี 1945 , อย่างไรก็ตาม , การค้าเชิงประจักษ์และการไหลเข้าของทุนในขณะนี้ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นระหว่างอุตสาหกรรมกับประเทศค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ปัจจัยบริจาค[ 1 ] HYMER ตอบสนองคือการหยิบยกเกี่ยวกับวิธีการที่เน้นบทบาทของ บริษัท แต่ละคนเป็นตัวหลักของการเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างประเทศและเงินทุน[ 1 ] คำอธิบายของเขาจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศขยายพอร์ตลงทุน โดยเน้นที่วิธีการองค์ประกอบของการควบคุมสินทรัพย์สามารถนำไปสู่ผลตอบแทนที่สูงกว่าอาจจะคาดตามทฤษฎีทางการเงิน