IntroductionA trend has been curren

Introduction
A trend has been currently growing to increase efficiency of business logistics chains through their
interlacing with logistics systems of suppliers and customers. Integration of business logistics systems in
supply chains requires the establishment of more or less close cooperation of individual members of the
chain. The supply chain collaboration is often defined as two or more enterprises working together to create
a competitive advantage and higher profits that cannot be achieved by acting alone (Simatupang &
Sridharan, 2005). The highest effects in terms of logistics performance improvement are achieved by
applying modern methods of supply chain management, such as Quick Response (QR), Efficient Consumer
Response (ECR), Vendor Managed Inventory (VM) or Collaborative Planning, Forecasting and
Replenishment (CPFR). According to McMichael at al (McMichel & Mackay & Altman, 2000) QR is
defined as a consumer driven business strategy of cooperative planning by supply chain partners, to ensure
that the right goods, are in the right place, at the right time, using IT and flexible manufacturing to eliminate
inefficiencies from the entire supply chain.
A necessary precondition for the implementation of material flow by the supply chain based on the
methods described above is the reliability of production facilities constituting the production system of each
company. All systems based on synchronization of material flows fail if production facilities in each
successive production show a high number of accidents and subsequent repairs after failure. For this reason,
the maintenance in Quick Response systems is extremely important.
Professional literature has not as yet addressed the problem of how to manage the maintenance in the
Quick Response systems. In general, it deals with methods which allow increasing reliability of the
production equipment, such as the TPM and RCM methods in particular. Mostly, however, these methods
are described and discussed in isolation. Radical increase in maintenance efficiency can be achieved,
however, just through a combination of principles of these methods. The professional literature also has not
yet substantially dealt with the way the implementation of the Quick Response influences supporting
business processes. For now, one can not find any theoretical view on how the maintenance system should be
modified due to application of the Quick Response method. Therefore, the publication is focused on this
issue.
The main goal of this paper is a proposal for modification of maintenance system in an enterprise that
is part of a supply chain operating on the basis of the Quick Response method.
The proposal accents two main ideas, namely:
• This maintenance system must be clearly focused on prevention. It should be conceived on the
basis of some modern methods of maintenance, such as TPM and RCM methods. But a modern,
fully functional maintenance system can be designed being based on several of these methods,
whose principles it uses and appropriately combines.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำแนวโน้มมีการกำลังเติบโตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจโลจิสติกส์โซ่ผ่านของพวกเขาinterlacing กับระบบโลจิสติกส์ของซัพพลายเออร์และลูกค้า รวมของระบบโลจิสติกส์ธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานต้องการก่อตั้งของชิดน้อยของสมาชิกแต่ละตัวลูกโซ่ ร่วมห่วงโซ่อุปทานมักจะกำหนดเป็นอย่าง น้อยสององค์กรทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์จากการแข่งขันและกำไรสูงที่ไม่สามารถทำได้ โดยทำหน้าที่เพียงอย่างเดียว (Simatupang &Sridharan, 2005) ผลสูงสุดในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโลจิสติกส์จะทำได้โดยใช้วิธีสมัยใหม่การบริหารห่วงโซ่อุปทาน เช่นรวดเร็วตอบสนอง (QR), ผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพตอบ (ECR), ผู้จัดการสินค้าคงคลัง (VM) หรือการวางแผนร่วมกัน การคาดการณ์ และเติม(เติมเต็มสินค้า) ตาม McMichael น่ (McMichel และแมคเคย์ และ Altman, 2000) เป็น QRกำหนดเป็นผู้บริโภคขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางธุรกิจการวางแผนแบบมีส่วนร่วมโดยคู่ห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้แน่ใจว่า สินค้าขวา ในสถานที่เหมาะสม การ ใช้ผลิตแบบยืดหยุ่นและการกำจัดinefficiencies จากห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดเงื่อนไขจำเป็นสำหรับการดำเนินงานของขั้นตอนวัสดุโดยห่วงโซ่อุปทานตามวิธีที่อธิบายข้างต้นมีความน่าเชื่อถือของผลิตระบบการผลิตของแต่ละค่าบริษัท ทุกระบบตามตรงของวัสดุขั้นตอนล้มเหลวถ้าผลิตสิ่งอำนวยความสะดวกในแต่ละผลิตต่อเนื่องแสดงหมายเลขที่สูงของอุบัติเหตุและการซ่อมแซมต่อมาหลังจากความล้มเหลว ด้วยเหตุนี้การบำรุงรักษาระบบตอบสนองรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญมากเอกสารประกอบการทำงานไม่ได้เป็นอยู่ปัญหาของวิธีการจัดการการบำรุงรักษาในการระบบตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทั่วไป การเกี่ยวข้องกับวิธีการที่น่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้นของการอุปกรณ์ผลิต เช่น TPM และ RCM วิธีโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ ตาม วิธีการเหล่านี้อธิบาย และอธิบายแยก สามารถทำได้รุนแรงเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงรักษาอย่างไรก็ตาม เพียงผ่านการรวมกันของหลักการของวิธีการเหล่านี้ เอกสารประกอบการทำงานยังไม่ยัง มากแจก ด้วยวิธีการดำเนินงานของการตอบสนองอย่างรวดเร็วมีผลต่อการสนับสนุนกระบวนการทางธุรกิจ สำหรับตอนนี้ หนึ่งไม่สามารถหามุมมองทฤษฎีในระบบบำรุงรักษาควรจะเป็นอย่างไรปรับเปลี่ยนจากการใช้วิธีการตอบสนองรวดเร็ว ดังนั้น เน้นงานพิมพ์นี้ปัญหาเป้าหมายหลักของเอกสารนี้เป็นข้อเสนอสำหรับการแก้ไขบำรุงรักษาระบบในองค์กรที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานการปฏิบัติตามวิธีการตอบสนองรวดเร็วขึ้นข้อเสนอที่เน้นความคิดหลักสอง ได้แก่:•ระบบบำรุงรักษานี้ต้องมีอย่างชัดเจนเน้นป้องกัน ควรรู้สึกในการพื้นฐานของวิธีการบำรุงรักษา เช่น TPM และ RCM บางทันสมัย แต่ทันสมัยงานบำรุงรักษาระบบสามารถออกแบบการใช้หลายวิธีการเหล่านี้มีหลักใช้ และผสมผสานอย่างเหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
แนวโน้มได้รับในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายโลจิสติกธุรกิจผ่านของพวกเขา
พัวพันกับระบบโลจิสติกของคู่ค้าและลูกค้า บูรณาการของระบบโลจิสติกธุรกิจใน
ห่วงโซ่อุปทานต้องจัดตั้งร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้นหรือน้อยกว่าของสมาชิกแต่ละคนของ
ห่วงโซ่ การทำงานร่วมกันของห่วงโซ่อุปทานมีการกำหนดมักจะเป็นสองคนหรือมากกว่าผู้ประกอบการการทำงานร่วมกันเพื่อสร้าง
ความได้เปรียบในการแข่งขันและผลกำไรที่สูงขึ้นว่าไม่สามารถทำได้โดยทำหน้าที่เพียงอย่างเดียว (Simatupang &
Sridharan, 2005) ผลกระทบมากที่สุดในแง่ของการปรับปรุงประสิทธิภาพโลจิสติกจะประสบความสำเร็จโดย
ใช้วิธีการที่ทันสมัยของการจัดการห่วงโซ่อุปทานเช่นการตอบสนองอย่างรวดเร็ว (QR) ของผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพ
ตอบสนอง (ECR), ผู้ขายสินค้าคงคลังที่มีการจัดการ (VM) หรือความร่วมมือการวางแผนการพยากรณ์และ
การเติมเต็ม (CPFR ) ตามที่อัล McMichael (McMichel และแม็คเคย์และอัลท์แมน, 2000) QR ถูก
กำหนดเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยผู้บริโภคของการวางแผนความร่วมมือจากพันธมิตรห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้แน่ใจ
ว่าสินค้าที่ถูกต้องอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสมโดยใช้ ไอทีและการผลิตที่มีความยืดหยุ่นในการขจัด
ความไร้ประสิทธิภาพจากห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด.
เงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานของการไหลของวัสดุโดยห่วงโซ่อุปทานขึ้นอยู่กับ
วิธีการที่อธิบายไว้ข้างต้นคือความน่าเชื่อถือของสิ่งอำนวยความสะดวกการผลิต constituting ระบบการผลิตของแต่ละ
บริษัท ระบบทั้งหมดขึ้นอยู่กับการประสานของกระแสวัสดุล้มเหลวถ้าสิ่งอำนวยความสะดวกการผลิตในแต่ละ
การผลิตต่อเนื่องแสดงให้เห็นจำนวนมากของการเกิดอุบัติเหตุและการซ่อมแซมที่ตามมาหลังจากความล้มเหลว ด้วยเหตุนี้
การบำรุงรักษาในระบบการตอบสนองอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญมาก.
วรรณกรรมมืออาชีพยังไม่ได้เป็นยังแก้ไขปัญหาของวิธีการจัดการการบำรุงรักษาใน
ระบบการตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปแล้วมันเกี่ยวข้องกับวิธีการที่ช่วยให้เพิ่มความน่าเชื่อถือของ
อุปกรณ์การผลิตเช่น TPM และวิธีการ RCM โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนใหญ่ แต่วิธีการเหล่านี้
จะมีคำอธิบายและพูดคุยกันในการแยก เพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในประสิทธิภาพการบำรุงรักษาสามารถทำได้
แต่เพียงผ่านการรวมกันของหลักการของวิธีการเหล่านี้ วรรณกรรมมืออาชีพยังไม่ได้
รับการจัดการอย่างมีนัยสำคัญ แต่ด้วยวิธีการดำเนินการตามที่มีอิทธิพลต่อการตอบสนองรวดเร็วสนับสนุน
กระบวนการทางธุรกิจ สำหรับตอนนี้อย่างใดอย่างหนึ่งไม่สามารถหามุมมองทางทฤษฎีใด ๆ ในการบำรุงรักษาระบบควรจะได้รับ
การปรับเปลี่ยนจากการใช้วิธีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการตีพิมพ์จะเน้นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ปัญหา.
เป้าหมายหลักของการวิจัยนี้เป็นข้อเสนอสำหรับการปรับเปลี่ยนระบบการบำรุงรักษาในองค์กรที่
เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานในการดำเนินงานบนพื้นฐานของวิธีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว.
ข้อเสนอสำเนียงสองความคิดหลัก กล่าวคือ:
•การบำรุงรักษาระบบนี้จะต้องมุ่งเน้นอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการป้องกัน มันควรจะคิดบน
พื้นฐานของวิธีการที่ทันสมัยบางส่วนของการบำรุงรักษาเช่น TPM และวิธีการ RCM แต่ที่ทันสมัย,
การบำรุงรักษาระบบการทำงานอย่างเต็มที่สามารถออกแบบอยู่บนพื้นฐานของหลายวิธีการเหล่านี้
มีหลักการที่จะใช้และเหมาะสมรวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
แนวโน้มได้รับในปัจจุบันเติบโต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายธุรกิจโลจิสติกส์ผ่าน
interlacing กับระบบโลจิสติกส์ของซัพพลายเออร์ และลูกค้า การบูรณาการระบบโลจิสติกส์ธุรกิจ
ห่วงโซ่อุปทานต้องจัดตั้งมากกว่า หรือน้อยกว่า ความร่วมมือที่ใกล้ชิดของสมาชิกรายบุคคล
โซ่ห่วงโซ่อุปทานความร่วมมือมักจะหมายถึงสองคนหรือมากกว่า บริษัท ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และผลกำไรสูง
ที่ไม่สามารถบรรลุได้โดยทำคนเดียว ( simatupang &
sridharan , 2005 ) ผลสูงสุดในด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพโลจิสติกส์ทำได้โดย
ใช้วิธีการสมัยใหม่ของการจัดการห่วงโซ่อุปทาน เช่น การตอบสนองที่รวดเร็ว ( QR )การตอบสนองผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ
( ECR ) , ผู้ขายการจัดการสินค้าคงคลัง ( VM ) หรือร่วมกันวางแผนพยากรณ์และเติมเต็ม (
cpfr ) ตาม mcmichael อัล ( mcmichel & Mackay & อัลท์แมน , 2000 ) QR คือ
หมายถึงผู้บริโภคขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางธุรกิจของสหกรณ์การวางแผน โดยจัดหาโซ่คู่ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้า
ที่เหมาะสมในสถานที่ที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสมการใช้และการผลิตที่ยืดหยุ่นเพื่อขจัดความร้อนจากห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด
.
จำเป็น precondition สําหรับการดําเนินการของการไหลของวัสดุโดยห่วงโซ่อุปทานตามวิธีการที่อธิบายข้างต้น
ความน่าเชื่อถือของเครื่องผลิตประกอบแต่ละ
ระบบการผลิตของ บริษัทระบบทั้งหมดขึ้นอยู่กับการไหลของวัตถุดิบล้มเหลว หากสถานที่ผลิตในแต่ละ
การผลิตต่อเนื่องแสดงตัวเลขที่สูงของการเกิดอุบัติเหตุ และซ่อมแซมตามมาหลังจากความล้มเหลว ด้วยเหตุนี้
การบำรุงรักษาในระบบการตอบสนองที่รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญมาก .
วรรณกรรมมืออาชีพก็ยังไม่แก้ไขปัญหาวิธีการจัดการการบำรุงรักษาใน
ระบบการตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยทั่วไปแล้วเกี่ยวข้องกับวิธีที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์
การผลิต เช่น TPM และวิธีการ จำนวน โดยเฉพาะ ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านี้จะอธิบายและกล่าวถึง
ในการแยก . การเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงรักษาสามารถพิชิต ,
แต่แค่ผ่านการรวมกันของหลักการของวิธีการเหล่านี้ วรรณคดีอาชีพยังไม่ได้
ยังสามารถจัดการกับวิธีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว
อิทธิพลสนับสนุนกระบวนการทางธุรกิจ สำหรับตอนนี้ หนึ่งสามารถหาทฤษฎีใด ๆดูว่าระบบการบำรุงรักษาควรจะ
แก้ไขเนื่องจากการประยุกต์ใช้วิธีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การประกาศจะเน้นเรื่องนี้

เป้าหมายหลักของบทความนี้คือข้อเสนอเพื่อปรับเปลี่ยนระบบการซ่อมบำรุงในองค์กรที่
เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานการดำเนินงานบนพื้นฐานของวิธีการตอบสนองรวดเร็ว .
เสียงข้อเสนอสองแนวคิดหลักคือ :
- การบำรุงรักษาระบบนี้ต้องชัดเจน มุ่งเน้นการป้องกัน มันควรจะรู้สึกบนพื้นฐานของวิธีที่ทันสมัย
การบำรุงรักษา เช่น TPM และวิธีการจำนวน .แต่สมัยใหม่
การบำรุงรักษาระบบการทำงานอย่างเต็มที่สามารถออกแบบการยึดหลายวิธีการเหล่านี้ ซึ่งมีหลักการใช้และเหมาะสม
รวม .