Over-protectiveness The third criti

Over-protectiveness
The third criticism is that the progressive educator perspective is overprotective, shielding children from the dissonance and conflict needed to provoke intellectual growth. Such overprotectiveness may mean that children’s ‘ errors’ are not explicitly corrected, for fear of hurt and emotional damage. Instead euphemisms for incorrectness or failure are employed (such as ‘ see me’), which children understand very well to denote error, adding a layer of deceit to the meaning. Awareness of error is essential for learning, and dissonance and cognitive conflict are likewise necessary for cognitive growth in learning mathematics. Beyond this, dealing with interpersonal conflict and with controversial issues are essential life skills for citizenship in modern society. However, this perspective tries to sustain an artificial harmony through the denial of conflict in the classroom and the world. By shielding the child from such experiences the progressive educator view is obstructing the child’s cognitive, emotional and social growth.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Over-protectiveness
วิจารณ์สามคือมุมมองแบบก้าวหน้าประวัติผู้สอนและ overprotective, shielding เด็ก dissonance และความขัดแย้งที่จำเป็นในการกระตุ้นการเจริญเติบโตทางปัญญา Overprotectiveness ดังกล่าวอาจหมายถึง ว่า เด็ก 'แก้ไขข้อผิดพลาด' ไม่ชัดเจน for fear of ความเสียหายบาดเจ็บ และทางอารมณ์ แทน การว่าจ้าง euphemisms incorrectness หรือความล้มเหลว (เช่น 'เห็นฉัน'), เด็กที่เข้าใจดีจะแสดงข้อผิดพลาด เพิ่มเลเยอร์ทำให้ความหมาย รับรู้ข้อผิดพลาดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ และ dissonance และความขัดแย้งที่รับรู้ได้ในทำนองเดียวกันจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตรับรู้ในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ นอกเหนือจากนี้ จัดการ มีความขัดแย้งมนุษยสัมพันธ์ และ มีประเด็นแย้งมีทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับสัญชาติในสังคมสมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม มุมมองนี้พยายามที่จะรักษาความสามัคคีการประดิษฐ์ โดยปฏิเสธความขัดแย้งในห้องเรียนและโลก โดย shielding เด็กจากประสบการณ์ดังกล่าว ดูประวัติผู้สอนและก้าวหน้าได้สกัดกั้นรับรู้ อารมณ์ และสังคมเจริญเติบโตของเด็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Over-ปกป้อง
วิจารณ์ที่สามคือมุมมองการศึกษาเป็นความก้าวหน้าปกป้องป้องกันเด็กจากความไม่ลงรอยกันและความขัดแย้งที่จำเป็นในการกระตุ้นการเจริญเติบโตทางปัญญา overprotectiveness ดังกล่าวอาจหมายความว่า 'ข้อผิดพลาด' เด็กจะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างชัดเจนเพราะกลัวความเจ็บปวดและความเสียหายทางอารมณ์ แต่สละสลวยสำหรับความไม่ถูกต้องหรือความล้มเหลวมีการจ้างงาน (เช่น 'เห็นฉัน') ซึ่งเด็กเข้าใจเป็นอย่างดีเพื่อแสดงข้อผิดพลาดการเพิ่มชั้นของการหลอกลวงกับความหมาย การรับรู้ของความผิดพลาดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนรู้และความไม่ลงรอยกันและความขัดแย้งทางปัญญาเป็นเช่นเดียวกันที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตขององค์ความรู้ในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ นอกเหนือจากนี้การรับมือกับความขัดแย้งระหว่างบุคคลและประเด็นขัดแย้งเป็นทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับการเป็นพลเมืองในสังคมสมัยใหม่ แต่มุมมองนี้พยายามที่จะรักษาความสามัคคีเทียมผ่านการปฏิเสธของความขัดแย้งในห้องเรียนและทั่วโลก โดยการป้องกันเด็กจากประสบการณ์ดังกล่าวมุมมองการศึกษาความก้าวหน้าที่ขัดขวางการเรียนรู้ของเด็กที่อารมณ์และการเจริญเติบโตทางสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กว่า protectiveness
วิจารณ์ที่สามคือมุมมองการศึกษาก้าวหน้า คือ ต้องการปกป้อง , ป้องกันเด็กจากการคุกคาม และความขัดแย้งที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตทางปัญญา เช่น overprotectiveness อาจหมายถึงเด็ก ' ข้อผิดพลาดไม่ได้อย่างชัดเจนถูกต้อง กลัวบาดเจ็บและความเสียหายทางอารมณ์แทนคำสุภาพสำหรับความไม่ถูกต้องหรือความล้มเหลวเป็นลูกจ้าง ( เช่น ' ฉัน ' ) ซึ่งเด็กเข้าใจได้ดีมากที่จะแสดงข้อผิดพลาดการเพิ่มชั้นของการหลอกลวงให้ความหมาย ความตระหนักในข้อผิดพลาดที่จำเป็นสำหรับการเรียน และไม่สอดคล้องกันและความขัดแย้งทางปัญญาเป็นเช่นเดียวกันจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตทางปัญญาในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ นอกเหนือจากนี้การจัดการกับความขัดแย้งระหว่างบุคคล และประเด็นขัดแย้ง เป็นทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับการเป็นพลเมืองในสังคมสมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม มุมมองนี้พยายามที่จะรักษาความสามัคคีเทียมที่ผ่านการปฏิเสธความขัดแย้งในชั้นเรียนและโลก โดยการป้องกันเด็กจากประสบการณ์เช่นมุมมองการศึกษาก้าวหน้า พยายามขัดขวางของเด็กทางด้านอารมณ์และสังคม
การเจริญเติบโต .