al. 2007b) and geophysical studies

al. 2007b) and geophysical studies (Gottsmann et al. 2007)
highlight the role of gas and aqueous fluid dynamics in
caldera deformation. At Yellowstone, bradyseismic events
typically are linked to magma intrusion (Wicks et al. 2006)
or to upward migration of brines from hot, low-permeability
regions (Dzurisin et al. 1990). Without continuous monitoring
of volatile flux and comparison with geophysical timeEven if the gas is immobile, just the existence of vaporsaturated
conditions in the shallow crust should affect the
manner in which any hydrothermal region transmits pressure
pulses between magma and the ground surface (Norton
1984). Surface displacements are commonly interpreted by
assuming a volume change in a discrete magmatic source
embedded in a deforming, elastic, isotropic crust; such
assumptions would likely lead to underestimating the size and
depth of any magma source beneath a gas-rich, compressible
hydrothermal system (Dzurisin 2007; Hurwitz et al. 2007b).
Clearly, any added insight on the abundance of volatiles and
their dynamics in the shallow crust will help us to assess
which signals of caldera unrest are most likely to foretell an
impending eruption (Newhall and Dzurisin 1988).

series, it remains difficult to verify any particular mechanism
of deformation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

al. 2007b) และศึกษาธรณี (Gottsmann et al. 2007)เน้นบทบาทของก๊าซและอควี fluid dynamics ในแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดแมพ ในเยลโลว์สโตน เหตุการณ์ bradyseismicโดยทั่วไปเชื่อมโยงกับซก็บุกรุก (สารประกอบ et al. 2006)หรือการย้ายขึ้นด้านบนของ brines จาก ร้อน permeability ต่ำภูมิภาค (Dzurisin et al. 1990) ไม่ มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องของไหลระเหยและเปรียบเทียบกับ timeEven ธรณีว่าก๊าซ immobile เพียงการดำรงอยู่ของ vaporsaturatedสภาพเปลือกตื้นจะมีผลต่อการลักษณะภูมิภาค hydrothermal ใด ๆ ส่งผ่านความดันกะพริบระหว่างหินหนืดและผิวดิน (Norton1984) displacements ผิวการแปลความหมายโดยทั่วไปสมมติว่าการเปลี่ยนแปลงระดับเสียงในแหล่ง magmatic แยกกันฝังตัวอยู่ในเปลือกเปลี่ยนรูป ยืดหยุ่น isotropic ดังกล่าวสมมติฐานอาจจะทำเพื่อเราขนาด และความลึกของแหล่งหินหนืดใด ๆ ภายใต้ก๊าซ-rich อัดตัวได้ระบบ hydrothermal (Dzurisin 2007 Hurwitz et al. 2007b)ชัดเจน ใด ๆ เพิ่มความเข้าใจในความอุดมสมบูรณ์ของ volatiles และการ dynamics ในเปลือกตื้นจะช่วยให้เราสามารถประเมินซึ่งสัญญาณของแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดความไม่สงบมักจะทำนายทายทักผิดปะทุใกล้ (เดนแฮมสปริงส์และ Dzurisin 1988)ชุด มันยังคงยากต่อการตรวจสอบกลไกใด ๆ เฉพาะของแมพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัล 2007B) และการศึกษาธรณีฟิสิกส์ (Gottsmann et al. 2007)
เน้นบทบาทของก๊าซและพลศาสตร์ของไหลน้ำในการเปลี่ยนรูปสมรภูมิ
ในเยลโลว์สโตนเหตุการณ์ bradyseismic
มักจะเชื่อมโยงกับการบุกรุกหนืด (สาดแสง et al. 2006)
หรือการอพยพขึ้นของ brines
ร้อนจากการซึมผ่านต่ำภูมิภาค(Dzurisin et al. 1990) โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องของฟลักซ์ระเหยและการเปรียบเทียบกับ timeEven ธรณีฟิสิกส์ถ้าก๊าซสามารถเคลื่อนที่ได้เพียงแค่การดำรงอยู่ของ vaporsaturated เงื่อนไขในเปลือกตื้นควรส่งผลกระทบต่อลักษณะที่เขตร้อนใด ๆ ส่งความดันพัลส์ระหว่างหนืดและผิวดิน(นอร์ตัน1984) displacements พื้นผิวจะถูกตีความโดยทั่วไปสมมติว่ามีการเปลี่ยนแปลงปริมาณในแหล่งmagmatic เนื่องฝังอยู่ในการเปลี่ยนรูปยืดหยุ่นเปลือกโลกisotropic; เช่นสมมติฐานที่อาจจะนำไปสู่การประเมินขนาดและความลึกของแหล่งที่มาของหินหนืดใดๆ ภายใต้ก๊าซธรรมชาติที่อุดมไปด้วยอัดระบบไฮโดร(Dzurisin 2007; Hurwitz et al, 2007B.). เห็นได้ชัดว่าข้อมูลเชิงลึกใด ๆ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของสารระเหยและการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาในเปลือกตื้นจะช่วยให้เราประเมินซึ่งสัญญาณของความไม่สงบสมรภูมิมีแนวโน้มที่จะทำนายระเบิดที่กำลังจะมา(Newhall และ Dzurisin 1988). ชุดก็ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบกลไกการใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของการเสียรูป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัล 2007b ) และการศึกษาทางธรณีฟิสิกส์ ( gottsmann et al . 2007 )
เน้นบทบาทของก๊าซและสารละลายทางพลศาสตร์ของไหลใน
Caldera รูป ที่เยลโลว์สโตน เหตุการณ์ bradyseismic
มักจะเชื่อมโยงกับหินหนืดการบุกรุก ( สารประกอบ et al . 2006 )
หรือการย้ายถิ่นขึ้นจากน้ำเค็ม จากร้อน low-permeability
ภูมิภาค ดิวซ์ริซิน et al . 1990 ) โดย
ติดตามอย่างต่อเนื่องของฟลักซ์ที่ผันผวนและการเปรียบเทียบกับ timeeven ธรณีฟิสิกส์ถ้าแก๊สจะเคลื่อนไหวไม่ได้ แค่การมีอยู่ของ vaporsaturated
เงื่อนไขในเปลือกผิวเผินน่าจะส่งผลกระทบในลักษณะใด เขตใด ๆด้วย

ส่งความดันชีพจรระหว่างหินหนืดและผิวดิน ( Norton
1984 ) ขณะพื้นผิวมักตีความโดย
สมมติว่าปริมาณการเปลี่ยนแปลงใน
แหล่ง magmatic โดยสิ้นเชิงฝังตัวอยู่ในการ เปลี่ยนรูป ยืดหยุ่น ตัวแป้ง ; การคาดการณ์
อาจนำไปสู่ประเมินขนาดและความลึกของหินหนืดใต้
แหล่งก๊าซรวย อัดด้วยระบบ ดิวซ์ริซิน
( 2007 ; Hurwitz et al . 2007b ) .
ชัดเจนใด ๆ เพิ่มความเข้าใจในความอุดมสมบูรณ์ของสารระเหยและพลวัตในคราบ

ตื้นจะช่วยให้เราเพื่อประเมินซึ่งสัญญาณของ Caldera ความไม่สงบมักจะทำนายการ
( และใกล้ปะทุ นีวอล ดิวซ์ริซิน 1988 ) .

ชุด มันยังคงยากที่จะตรวจสอบใด ๆ โดยเฉพาะกลไก

ของแมพ