Systemic Thinking (known, in non-ac

Systemic Thinking (known, in non-academic circles, as Pattern Thinking) is a simple technique for making sense of challenging situations and developing simple interventions for transforming them.

It has its origins in the Theory of Contraints (TOC), The Theory of Inventive Thinking (TRIZ), Systems Thinking and Neurolinguistic Programming (NLP), but is evident in most cognitive science and systems science arenas.

Systemic Thinking's underlying discovery is the Fractal Phenomenon: challenging situations are driven by a single repeating interaction-pattern. This discovery was first made by Gary Bartlett & Lynne Bartlett in 2000.

Systemic Thinking enables people to deliberately and systematically gain significantly deeper insights into challenging situations and complex domains by surfacing the interaction-patterns that underly, drive and govern them. The human brain is a pattern recognition and application engine - Systemic Thinking merely provides a simple framework and process for turbo-charging the brain's natural capability to see patterns and use them to intervene effectively, at the pattern level.

Systemic (Pattern-level) Intervention enables ordinary people to deliberately and systematically improve any challenging situation dramatically.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบคิด (เป็นที่รู้จัก ในวงการไม่ใช่วิชาการ รูปแบบการคิด) เป็นเทคนิคง่าย ๆ สำหรับความท้าทายสถานการณ์ และพัฒนามาตรการง่าย ๆ สำหรับการแปลงนั้นมันมีกำเนิดในทฤษฎีของ Contraints (TOC), ทฤษฎีของประดิษฐ์คิด (TRIZ), ระบบคิด และ Neurolinguistic การเขียนโปรแกรม (NLP), แต่จะปรากฏชัดในส่วนใหญ่ระบบและประชานศาสตร์วิทยาศาสตร์สถานค้นพบอยู่ภายใต้ระบบคิดเป็นปรากฏการณ์ แฟร็กทัล: สถานการณ์ท้าทายขับเคลื่อน ด้วยเดียวทำซ้ำรูปแบบโต้ตอบ ก่อนทำการค้นพบนี้ โดย Gary ในบาร์ตเลตและในบาร์ตเลต Lynne 2000คิดระบบทำให้คนสามารถจงใจอย่างเป็นระบบเข้าลึกมากลึกสถานการณ์ท้าทายและโดเมนที่ซับซ้อน โดยการซ่อมแซมผิวหน้ารูปแบบโต้ตอบที่ underly ไดรฟ์ และควบคุมพวกเขา สมองมนุษย์จะรู้รูปแบบ และโปรแกรมประยุกต์โปรแกรม - ระบบคิดเพียงให้กรอบง่ายและกระบวนการสำหรับเทอร์โบชาร์จสมองของธรรมชาติสามารถดูรูปแบบ และใช้ในการแทรกแซงระดับรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพแทรกแซงระบบ (ระดับรูปแบบ) ทำให้คนธรรมดาสามารถตั้งใจ และระบบปรับปรุงสถานการณ์ใด ๆ ความท้าทายอย่างมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การคิดเชิงระบบ ( ที่รู้จักกันในแวดวงวิชาการ ไม่ใช่เป็นแบบแผนการคิด ) เป็นเทคนิคง่ายๆสำหรับการทำความเข้าใจสถานการณ์ที่ท้าทายและพัฒนามาตรการง่ายๆ เพื่อเปลี่ยนให้

มันมีต้นกำเนิดของมันในทฤษฎีของ contraints ( TOC ) , ทฤษฎีของการคิดสร้างสรรค์เชิงระบบคิดและการเขียนโปรแกรม Neurolinguistic ( NLP ) ,แต่ที่เห็นได้ชัดที่สุดในวิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ระบบโดยสิ้นเชิง

ระบบคิดพื้นฐานคือเศษส่วนที่ค้นพบปรากฏการณ์ท้าทายสถานการณ์จะขับเคลื่อนโดยเดี่ยวทำซ้ำปฏิสัมพันธ์แบบ การค้นพบนี้เป็นครั้งแรก โดย แกรี่ บาร์ทเล็ทท์&ลินน์ บาร์ทเล็ทท์

ใน 2000การคิดเชิงระบบให้ประชาชนได้รับอย่างจงใจ และรับลึกข้อมูลเชิงลึกในสถานการณ์ท้าทายและซับซ้อนโดเมนโดยพื้นผิวรูปแบบปฏิสัมพันธ์ที่ครูที่สอนวิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 172 , ไดรฟ์และควบคุมพวกเขาสมองของมนุษย์ เป็นการยอมรับรูปแบบและการประยุกต์ใช้เครื่องมือ - การคิดเชิงระบบเพียงให้กรอบง่ายและกระบวนการสำหรับเทอร์โบชาร์จความสามารถตามธรรมชาติของสมอง เพื่อดูรูปแบบและใช้พวกเขาเพื่อแทรกแซงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระดับรูปแบบ

ระบบ ( ระดับรูปแบบ ) การแทรกแซงช่วยให้คนธรรมดาไปโดยเจตนาและมีระบบปรับปรุงใด ๆสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างมาก