ความนิยม และอิทธิพลต่องานอื่น[แก้]ความนิยมในประเทศอังกฤษ[แก้]เรื่องสั้ การแปล - ความนิยม และอิทธิพลต่องานอื่น[แก้]ความนิยมในประเทศอังกฤษ[แก้]เรื่องสั้ ไทย วิธีการพูด

ความนิยม และอิทธิพลต่องานอื่น[แก้]ค

ความนิยม และอิทธิพลต่องานอื่น[แก้]
ความนิยมในประเทศอังกฤษ[แก้]
เรื่องสั้น เชอร์ล็อก โฮมส์ ที่ลงพิมพ์ในนิตยสารสแตรนด์ ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนผู้อ่านจำนวนมากเชื่อว่า เชอร์ล็อก โฮมส์ มีตัวตนจริง และพากันเขียนจดหมายไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือ จดหมายจำนวนมากที่ส่งไปยังบ้านเลขที่ 221 บี ถนนเบเกอร์ ถูกตีกลับมายังที่ทำการไปรษณีย์ เนื่องจากบ้านเลขที่นั้นไม่มีอยู่จริง[27] กล่าวกันว่า โคนัน ดอยล์ มีรายได้จากนวนิยายเรื่องนี้มากกว่างานประจำของเขาเสียอีก[ต้องการอ้างอิง]

ปี ค.ศ. 1893 เมื่อโคนัน ดอยล์ เริ่มคิดโครงเรื่องนิยายได้ยากขึ้น และต้องการหันไปทุ่มเทกับงานเขียนด้านอื่นที่เขาเห็นว่ามีคุณค่ามากกว่า เขาได้เขียนเรื่องสั้นตอน ปัจฉิมปัญหา (The Final Problem) ให้เชอร์ล็อก โฮมส์ พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับศาสตราจารย์เจมส์ มอริอาร์ตีและพลัดตกเหวไป เพื่อจบบทบาทของเชอร์ล็อก โฮมส์เสีย ผลปรากฏว่า ผู้อ่านพากันต่อว่าต่อขานโคนัน ดอยล์ อย่างเคียดแค้น สมาชิกนิตยสารสแตรนด์ บอกยกเลิกสมาชิกภาพถึงกว่าสองหมื่นคน บางคนถึงกับไว้ทุกข์ให้แก่เชอร์ล็อก โฮมส์ มีจดหมายจำนวนมากส่งไปถึงโคนัน ดอยล์ เพื่อเค้นถามข้อเท็จจริงว่า โฮมส์ตกเหวไปแล้วตายจริงหรือเปล่า[ต้องการอ้างอิง] หลังจากต้านทานแรงกดดันจากสาธารณะแปดปี ในที่สุดโคนัน ดอยล์ ทนไม่ไหว จึงปล่อยเรื่องยาว หมาผลาญตระกูล ออกมาในปี ค.ศ. 1901 ทำให้ผู้อ่านตื่นเต้นยินดีมาก แต่ก็ยังไม่หายสงสัย เพราะเหตุการณ์ในเรื่อง หมาผลาญตระกูล เป็นเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะต่อสู้กับศาสตราจารย์มอริอาตี้ ข้อกังขาว่าโฮมส์ตกเหวแล้วตายหรือไม่ จึงยังมิได้ไขกระจ่าง[28]

ในที่สุด โคนัน ดอยล์ แต่งเรื่องสั้นชุด "คืนชีพ" (The Return of Sherlock Holmes) ในปี ค.ศ. 1903 เป็นการตอบคำถามว่า เชอร์ล็อก โฮมส์ ยังไม่ตาย หลังจากนั้น เขาก็แต่งเรื่องยาวและเรื่องสั้นอีกหลายเรื่อง[29]

ในปี ค.ศ. 2002 ราชสมาคมเคมีแห่งประเทศอังกฤษมอบตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ให้แก่เชอร์ล็อก โฮมส์ ในฐานะนักสืบคนแรกที่นำศาสตร์ทางเคมีไปประยุกต์ใช้กับงานสืบสวน ในโอกาสครบรอบหนึ่งร้อยปีการคลี่คลายคดี หมาผลาญตระกูล และครบรอบหนึ่งร้อยปีการรับบรรดาศักดิ์อัศวินของเซอร์ อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์[30]

ปี ค.ศ. 2007 หนังสือพิมพ์ Beeton's Christmas Annual 1887 ซึ่งตีพิมพ์เรื่อง เชอร์ล็อก โฮมส์ ตอนแรกสุด ได้รับประมูลไปในราคา 156,000 ดอลลาร์สหรัฐ[31]

สมาคม[แก้]
ปี ค.ศ. 1934 มีการก่อตั้งสมาคมเชอร์ล็อก โฮมส์ขึ้นในกรุงลอนดอน และหน่วยลาดตระเวนถนนเบเกอร์ก็ตั้งขึ้นในนครนิวยอร์ก สมาคมทั้งสองนี้ยังคงมีกิจกรรมต่อเนื่องอยู่จนถึงปัจจุบัน (แม้ว่าสมาคมเชอร์ล็อก โฮมส์ จะสลายตัวไปในปี 1937 แต่ก็มีการรื้อฟื้นขึ้นใหม่ในปี 1951) และยังมีสมาคมเชอร์ล็อก โฮมส์ ตั้งขึ้นในประเทศอื่น ๆ อีก เช่น ในเดนมาร์ก อินเดีย และญี่ปุ่น


พิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อก โฮมส์ บนถนนเบเกอร์
พิพิธภัณฑ์[แก้]
ระหว่างงานเทศกาลใหญ่ในอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1951 มีการก่อสร้างห้องนั่งเล่นของเชอร์ล็อก โฮมส์ เพื่อแสดงใน นิทรรศการเชอร์ล็อก โฮมส์ โดยจำลองของสะสมของโฮมส์และองค์ประกอบต่าง ๆ ตามที่มีระบุในนิยาย หลังปิดงานนิทรรศการ ข้าวของเหล่านั้นนำไปเก็บไว้ที่ผับเชอร์ล็อก โฮมส์ ในกรุงลอนดอน และบางส่วนนำไปเก็บไว้กับพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของโคนัน ดอยล์ ในลูว์ซ็อง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมา ในปี ค.ศ. 1990 มีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อก โฮมส์ที่บ้านเลขที่ 239 ถนนเบเกอร์ ในกรุงลอนดอน[27] และที่ไมริงเงิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปีต่อมา แต่พิพิธภัณฑ์สองแห่งนี้แสดงข้อมูลของโคนัน ดอยล์ มากกว่าข้อมูลของโฮมส์

พิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อก โฮมส์ ที่ "221 บี ถนนเบเกอร์" นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในโลกที่ตั้งขึ้นสำหรับตัวละครในนิยาย[32]

อนุสาวรีย์[แก้]
อนุสาวรีย์เชอร์ล็อก โฮมส์ ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าสถานีรถไฟใต้ดินถนนเบเกอร์ นอกจากนี้ ยังมีอนุสาวรีย์เชอร์ล็อก โฮมส์ และวอตสัน ที่สถานทูตอังกฤษในกรุงมอสโก เป็นผลจากความโด่งดังของโฮมส์ที่นำไปจัดทำเป็นรายการโทรทัศน์ในประเทศรัสเซีย[33]

ที่ไมริงเงิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อก โฮมส์แล้ว ยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เชอร์ล็อก โฮมส์ด้วย เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์ โดยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่ง คือ น้ำตกไรเชินบัค ซึ่งเป็นสถานที่ที่โฮมส์ต่อสู้กับมอริอาร์ตีจนพลัดตกเหวไป[34]

อิทธิพลต่องานอื่น[แก้]
ภาพลักษณ์ของเชอร์ล็อก โฮมส์ คือ การสวมเสื้อคลุม หมวก และคาบไปป์ กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักสืบ ภาพยนตร์และละครหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักสืบมักแต่งตัวตามอย่างโฮมส์เช่นนี้ และยังมีนวนิยายแนวสืบสวนอีกหลายเรื่องที่ได้รับอิทธิพลจากเชอร์ล็อก โฮมส์โดยตรง เช่น

หนังสือและภาพยนตร์การ์ตูนจากประเทศญี่ปุ่น เรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ได้รับอิทธิพลจากเชอร์ล็อก โฮมส์ค่อนข้างมาก ทั้งบุคลิกของตัวละครหลัก และชื่อของตัวละครที่นำมาจากชื่อกลางของเซอร์อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์
ตัวละครหลักในละครทีวีเรื่อง เฮาส์ เอ็ม.ดี. คือ เกรกอรี เฮาส์ ก็ได้รับอิทธิพลจากเชอร์ล็อก โฮมส์ ทั้งในการชอบใช้ยา (เฮาส์ติดยาแก้ปวด ส่วนโฮมส์สูบไปป์และเคยใช้โคเคน) ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเพื่อแก้ปัญหาที่คนอื่นแก้ไม่ได้ เฮ้าส์ใช้เทคนิคเดียวกันกับโฮมส์ในการตรวจวิเคราะห์ปัญหาของผู้ป่วยของเขา เพื่อนสนิทของเฮาส์ คือ นายแพทย์เจมส์ วิลสัน ซึ่งสามารถสังเกตได้จากชื่อที่คล้ายกัน คือ เฮาส์-โฮมส์ กับ เจมส์ วิลสัน-จอห์น วอตสัน นอกจากนี้ ยังมีตัวละครที่ชื่อ มอริอาตี (ชื่อเดียวกับอริของโฮมส์) ปรากฏตัวในตอนสุดท้ายของฤดูกาลที่สอง และเกือบจะสังหารเฮาส์ได้สำเร็จ[35] นอกจากนั้นที่อยู่ของเฮาส์คือเลขที่ 221 บี เช่นเดียวกับโฮมส์
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงศึกษาในประเทศอังกฤษ ทรงได้รับแรงบันดาลพระราชหฤทัยจากเรื่องชุดเชอร์ล็อก โฮมส์ในการพระราชนิพนธ์นิยายนักสืบชุด นิทานทองอิน บรรยายพฤติการณ์ของ "นายทองอิน รัตนะเนตร์" ซึ่งมีอาชีพเป็นนักสื
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ความนิยมและอิทธิพลต่องานอื่น [แก้]ความนิยมในประเทศอังกฤษ [แก้]เรื่องสั้นเชอร์ล็อกโฮมส์ที่ลงพิมพ์ในนิตยสารสแตรนด์ประสบความสำเร็จอย่างมากจนผู้อ่านจำนวนมากเชื่อว่าเชอร์ล็อกโฮมส์มีตัวตนจริงและพากันเขียนจดหมายไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือจดหมายจำนวนมากที่ส่งไปยังบ้านเลขที่ 221 บีถนนเบเกอร์ถูกตีกลับมายังที่ทำการไปรษณีย์เนื่องจากบ้านเลขที่นั้นไม่มีอยู่จริง [27] กล่าวกันว่าโคนันดอยล์มีรายได้จากนวนิยายเรื่องนี้มากกว่างานประจำของเขาเสียอีก [ต้องการอ้างอิง]ปีค.ศ. 1893 เมื่อโคนันดอยล์เริ่มคิดโครงเรื่องนิยายได้ยากขึ้นและต้องการหันไปทุ่มเทกับงานเขียนด้านอื่นที่เขาเห็นว่ามีคุณค่ามากกว่าเขาได้เขียนเรื่องสั้นตอนปัจฉิมปัญหา (สุดท้ายปัญหา) ให้เชอร์ล็อกโฮมส์พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับศาสตราจารย์เจมส์มอริอาร์ตีและพลัดตกเหวไปเพื่อจบบทบาทของเชอร์ล็อกโฮมส์เสียผลปรากฏว่าผู้อ่านพากันต่อว่าต่อขานโคนันดอยล์อย่างเคียดแค้นสมาชิกนิตยสารสแตรนด์บอกยกเลิกสมาชิกภาพถึงกว่าสองหมื่นคนบางคนถึงกับไว้ทุกข์ให้แก่เชอร์ล็อกโฮมส์มีจดหมายจำนวนมากส่งไปถึงโคนัน ดอยล์เพื่อเค้นถามข้อเท็จจริงว่าโฮมส์ตกเหวไปแล้วตายจริงหรือเปล่า [ต้องการอ้างอิง] หลังจากต้านทานแรงกดดันจากสาธารณะแปดปีในที่สุดโคนันดอยล์ทนไม่ไหวจึงปล่อยเรื่องยาวหมาผลาญตระกูลออกมาในปีค.ศ. 1901 ทำให้ผู้อ่านตื่นเต้นยินดีมากแต่ก็ยังไม่หายสงสัยเพราะเหตุการณ์ในเรื่องหมาผลาญตระกูลเป็นเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะต่อสู้กับศาสตราจารย์มอริอาตี้ข้อกังขาว่าโฮมส์ตกเหวแล้วตายหรือไม่จึงยังมิได้ไขกระจ่าง [28]ในที่สุดโคนันดอยล์แต่งเรื่องสั้นชุด "คืนชีพ" (การกลับมาของเชอร์ล็อกโฮมส์) ในปีค.ศ. 1903 เป็นการตอบคำถามว่าเชอร์ล็อกโฮมส์ยังไม่ตายหลังจากนั้นเขาก็แต่งเรื่องยาวและเรื่องสั้นอีกหลายเรื่อง [29]ในปีค.ศ. 2002 ราชสมาคมเคมีแห่งประเทศอังกฤษมอบตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ให้แก่เชอร์ล็อกโฮมส์ในฐานะนักสืบคนแรกที่นำศาสตร์ทางเคมีไปประยุกต์ใช้กับงานสืบสวนในโอกาสครบรอบหนึ่งร้อยปีการคลี่คลายคดีหมาผลาญตระกูลและครบรอบหนึ่งร้อยปีการรับบรรดาศักดิ์อัศวินของเซอร์อาร์เธอร์โคนันดอยล์ [30]ปีค.ศ. 2007 หนังสือพิมพ์ Beeton ของคริสมาสต์ประจำปี 1887 ซึ่งตีพิมพ์เรื่องเชอร์ล็อกโฮมส์ตอนแรกสุดได้รับประมูลไปในราคา 156,000 ดอลลาร์สหรัฐ [31]สมาคม [แก้]ปีค.ศ. 1934 มีการก่อตั้งสมาคมเชอร์ล็อกโฮมส์ขึ้นในกรุงลอนดอนและหน่วยลาดตระเวนถนนเบเกอร์ก็ตั้งขึ้นในนครนิวยอร์กสมาคมทั้งสองนี้ยังคงมีกิจกรรมต่อเนื่องอยู่จนถึงปัจจุบัน (แม้ว่าสมาคมเชอร์ล็อกโฮมส์จะสลายตัวไปในปี 1937 แต่ก็มีการรื้อฟื้นขึ้นใหม่ในปี 1951) และยังมีสมาคมเชอร์ล็อกโฮมส์ตั้งขึ้นในประเทศอื่นๆ อีกเช่นในเดนมาร์กอินเดียและญี่ปุ่นพิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อกโฮมส์บนถนนเบเกอร์[แก้] พิพิธภัณฑ์ระหว่างงานเทศกาลใหญ่ในอังกฤษเมื่อปีค.ศ. 1951 มีการก่อสร้างห้องนั่งเล่นของเชอร์ล็อกโฮมส์เพื่อแสดงในนิทรรศการเชอร์ล็อกโฮมส์โดยจำลองของสะสมของโฮมส์และองค์ประกอบต่างๆ ตามที่มีระบุในนิยายหลังปิดงานนิทรรศการข้าวของเหล่านั้นนำไปเก็บไว้ที่ผับเชอร์ล็อกโฮมส์ในกรุงลอนดอนและบางส่วนนำไปเก็บไว้กับพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของโคนันดอยล์ในลูว์ซ็องประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต่อมาในปีค.ศ. 1990 มีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อกโฮมส์ที่บ้านเลขที่ 239 ถนนเบเกอร์ในกรุงลอนดอน [27] และที่ไมริงเงินประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปีต่อมาแต่พิพิธภัณฑ์สองแห่งนี้แสดงข้อมูลของโคนันดอยล์มากกว่าข้อมูลของโฮมส์พิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อกโฮมส์ "221 บีถนนเบเกอร์" นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในโลกที่ตั้งขึ้นสำหรับตัวละครในนิยาย [32]อนุสาวรีย์ [แก้]อนุสาวรีย์เชอร์ล็อกโฮมส์ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าสถานีรถไฟใต้ดินถนนเบเกอร์นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์เชอร์ล็อกโฮมส์และวอตสันที่สถานทูตอังกฤษในกรุงมอสโกเป็นผลจากความโด่งดังของโฮมส์ที่นำไปจัดทำเป็นรายการโทรทัศน์ในประเทศรัสเซีย [33]ที่ไมริงเงินประเทศสวิตเซอร์แลนด์นอกจากเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อกโฮมส์แล้วยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เชอร์ล็อกโฮมส์ด้วยเมืองนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์โดยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งคือน้ำตกไรเชินบัคซึ่งเป็นสถานที่ที่โฮมส์ต่อสู้กับมอริอาร์ตีจนพลัดตกเหวไป [34]อิทธิพลต่องานอื่น [แก้]ภาพลักษณ์ของเชอร์ล็อกโฮมส์คือการสวมเสื้อคลุมหมวกและคาบไปป์กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักสืบภาพยนตร์และละครหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักสืบมักแต่งตัวตามอย่างโฮมส์เช่นนี้และยังมีนวนิยายแนวสืบสวนอีกหลายเรื่องที่ได้รับอิทธิพลจากเชอร์ล็อกโฮมส์โดยตรงเช่นหนังสือและภาพยนตร์การ์ตูนจากประเทศญี่ปุ่นเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนันได้รับอิทธิพลจากเชอร์ล็อกโฮมส์ค่อนข้างมากทั้งบุคลิกของตัวละครหลักและชื่อของตัวละครที่นำมาจากชื่อกลางของเซอร์อาร์เธอร์โคนันดอยล์ตัวละครหลักในละครทีวีเรื่องเฮาส์เอ็ม.ดี คือเกรกอรีเฮาส์ก็ได้รับอิทธิพลจากเชอร์ล็อกโฮมส์ทั้งในการชอบใช้ยา (เฮาส์ติดยาแก้ปวดส่วนโฮมส์สูบไปป์และเคยใช้โคเคน) ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเพื่อแก้ปัญหาที่คนอื่นแก้ไม่ได้เฮ้าส์ใช้เทคนิคเดียวกันกับโฮมส์ในการตรวจวิเคราะห์ปัญหาของผู้ป่วยของเขาเพื่อนสนิทของเฮาส์คือนายแพทย์เจมส์วิลสันซึ่งสามารถสังเกตได้จากชื่อที่คล้ายกันคือเฮาส์โฮมส์ดื่มด่ำเจมส์วิลสัน-จอห์นวอตสันนอกจากนี้ยังมีตัวละครที่ชื่อมอริอาตี (ชื่อเดียวกับอริของโฮมส์) ปรากฏตัวในตอนสุดท้ายของฤดูกาลที่สองและเกือบจะสังหารเฮาส์ได้สำเร็จ [35] นอกจากนั้นที่อยู่ของเฮาส์คือเลขที่ 221 บีเช่นเดียวกับโฮมส์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวผู้ทรงศึกษาในประเทศอังกฤษทรงได้รับแรงบันดาลพระราชหฤทัยจากเรื่องชุดเชอร์ล็อกโฮมส์ในการพระราชนิพนธ์นิยายนักสืบชุดนิทานทองอินบรรยายพฤติการณ์ของ "นายทองอินรัตนะเนตร์" ซึ่งมีอาชีพเป็นนักสื
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ความนิยมและอิทธิพลต่องานอื่น [แก้]
ความนิยมในประเทศอังกฤษ [แก้]
เรื่องสั้นเชอร์ล็อกโฮมส์ที่ลง พิมพ์ในนิตยสารสแตรนด์ประสบความสำเร็จอย่างมากจนผู้อ่านจำนวนมากเชื่อว่าเชอร์ล็อกโฮมส์ มีตัวตนจริงและพากันเขียน จดหมายไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือจดหมายจำนวนมากที่ส่งไปยังบ้านเลขที่ 221 บีถนนเบเกอร์ถูกตีกลับมายัง ที่ทำการไปรษณีย์เนื่องจากบ้านเลขที่นั้นไม่มีอยู่จริง [27] กล่าวกันว่าโค นันดอยล์มีรายได้จาก นวนิยายเรื่องนี้มากกว่างานประจำของเขาเสียอีก [ต้องการอ้างอิง]

ปี ค.ศ. 1893 เมื่อโคนันดอยล์เริ่มคิด โครงเรื่องนิยายได้ยากขึ้นและต้องการหันไปทุ่มเทกับงานเขียนด้านอื่นที่เขาเห็นว่ามีคุณค่ามากกว่าเขาได้เขียนเรื่องสั้นตอนปัจฉิมปัญหา (รอบชิงชนะเลิศปัญหา) ให้เชอร์ล็อกโฮมส์พ่าย แพ้ในการต่อสู้กับศาสตราจารย์เจมส์ม อริอาร์ตีและพลัดตกเหวไปเพื่อจบบทบาทของเชอร์ล็อกโฮมส์เสียผลปรากฏว่าผู้อ่านพากันต่อว่าต่อขานโคนันดอยล์อย่างเคียดแค้นสมาชิกนิตยสารสแตรน ด์บอกยกเลิกสมาชิกภาพถึงกว่าสอง หมื่นคนบางคนถึงกับไว้ทุกข์ให้แก่เชอร์ล็อกโฮมส์มีจดหมายจำนวนมากส่งไปถึงโคนันดอยล์เพื่อเค้นถามข้อเท็จจริงว่าโฮมส์ตกเหวไปแล้วตายจริงหรือเปล่า [ ต้องการอ้างอิง] หลังจากต้านทานแรงกดดันจากสาธารณะแปดปี ในที่สุดโคนันดอยล์ทนไม่ไหวจึงปล่อยเรื่องยาวหมาผลาญตระกูลออกมาในปี ค.ศ. 1901 ทำให้ผู้อ่านตื่นเต้นยินดีมาก แต่ก็ ยังไม่หายสงสัยเพราะเหตุการณ์ในเรื่องหมาผลาญตระกูลเป็นเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะต่อสู้กับศาสตราจารย์มอริอาตี้ข้อกังขาว่าโฮมส์ตกเหวแล้วตายหรือไม่จึงยังมิได้ไขกระจ่าง [ 28]

ในที่สุดโคนันดอยล์แต่ง เรื่องสั้นชุด "คืนชีพ" (การกลับมาของ Sherlock Holmes) ในปี ค.ศ. 1903 เป็นการตอบคำถามว่าเชอร์ล็อกโฮม ส์ยังไม่ตายหลังจากนั้นเขาก็แต่งเรื่องยาวและเรื่องสั้นอีกหลายเรื่อง [29]

ในปี ค.ศ. 2002 ราชสมาคมเคมีแห่งประเทศอังกฤษมอบตำแหน่ง สมาชิกกิตติมศักดิ์ให้แก่เชอร์ล็อกโฮมส์ในฐานะนักสืบคนแรกที่นำศาสตร์ทางเคมีไปประยุกต์ใช้กับงานสืบสวนในโอกาสครบรอบหนึ่งร้อยปีการคลี่คลายคดีหมาผลาญตระกูลและครบรอบ หนึ่งร้อยปีการรับบรรดาศักดิ์อัศวินของ เซอร์อาร์เธอร์โคนันดอยล์ [30]

ปี ค.ศ. 2007 หนังสือพิมพ์ Beeton คริสต์มาสประจำปี 1887 ซึ่งตีพิมพ์เรื่องเชอร์ล็อกโฮม ส์ตอนแรกสุดได้รับประมูลไปในราคา 156,000 ดอลลาร์สหรัฐ [31]

สมาคม [แก้]
ปี ค.ศ. 1934 มีการก่อตั้งสมาคมเชอร์ล็อกโฮม ส์ขึ้นในกรุงลอนดอนและหน่วยลาดตระเวนถนนเบเกอร์ก็ตั้งขึ้นในนครนิวยอร์กสมาคมทั้งสองนี้ยังคงมีกิจกรรมต่อเนื่องอยู่จนถึงปัจจุบัน (แม้ว่าสมาคมเชอร์ล็อกโฮมส์จะ สลายตัว ไปในปี 1937 แต่ก็มีการรื้อฟื้นขึ้นใหม่ใน ปี 1951) และยังมีสมาคมเชอร์ล็อกโฮมส์ตั้งขึ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดออกประเทศอื่น ๆ อีกเช่นในห้างหุ้นส่วนจำกัดเดนมาร์กอินเดียและญี่ปุ่น


พิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อกโฮมส์บนถนนเบเกอร์
พิพิธภัณฑ์ [แก้ ]
ระหว่างงานเทศกาลใหญ่ในอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1951 มีการก่อสร้างห้องนั่งเล่นของเชอร์ ล็อกโฮมส์เพื่อแสดงในนิทรรศการเชอร์ล็อกโฮมส์โดยจำลองของสะสมของโฮมส์และองค์ประกอบต่าง ๆ ตามที่มีระบุในนิยายหลังปิดงานนิทรรศการข้าวของเหล่านั้นนำไปเก็บไว้ที่ ผับเชอร์ล็อกโฮมส์ในกรุง ลอนดอนและบางส่วนนำไปเก็บไว้กับพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของโคนันดอยล์ในลูว์ซ็องประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต่อมาในปี ค.ศ. 1990 มีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อกโฮม ส์ที่บ้านเลขที่ 239 ถนนเบเกอร์ในกรุงลอนดอน [27] และที่ไมริงเงินประเทศส วิตเซอร์แลนด์ในปีต่อมา แต่พิพิธภัณฑ์สองแห่งนี้แสดงข้อมูลของโคนั หนังสือนดอยล์มากกว่า Thailand ข้อมูลของโฮมส์

พิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อกโฮมส์ที่ "221 บีถนนเบเกอร์" นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในโลกที่ ตั้งขึ้นสำหรับตัวละครในนิยาย [32]

อนุสาวรีย์ [แก้]
อนุสาวรีย์เชอร์ล็อกโฮมส์ ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าสถานีรถไฟใต้ดินถนน เบเกอร์นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์เชอร์ล็อกโฮมส์และวอตสันที่สถานทูตอังกฤษในกรุงมอสโกเป็นผลจากความโด่งดังของโฮมส์ที่นำไปจัดทำเป็นรายการโทรทัศน์ในประเทศ รัสเซีย [33]

ที่ไมริงเงินประเทศสวิ ตเซอร์แลนด์นอกจากเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อกโฮมส์แล้วยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เชอร์ล็อกโฮมส์ด้วยเมืองนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสวิต เซอร์แลนด์โดยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่ง คือน้ำตกไรเชินบัคซึ่งเป็นสถานที่ที่โฮมส์ต่อสู้กับมอริอาร์ตีจนพลัดตกเหวไป [34]

อิทธิพลต่องานอื่น [แก้]
ภาพลักษณ์ของเชอร์ล็อกโฮม ส์คือการสวมเสื้อคลุมหมวกและ คาบไปป์กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักสืบภาพยนตร์และละครหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักสืบมักแต่งตัวตามอย่างโฮมส์เช่นนี้และยังมีนวนิยายแนวสืบสวนอีกหลายเรื่องที่ได้รับอิทธิพลจากเชอร์ล็อกโฮม ส์โดยตรงเช่น

หนังสือและภาพยนตร์การ์ตูนจากเนชั่ออกประเทศญี่ปุ่นเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนัหนังสือนได้รับอิทธิพลจากเนชั่เชอร์ล็อกโฮมส์ค่อนข้างมากทั้งบุคลิกของคุณตัวละครหลักและชื่อของคุณตัวละครที่นำมาจากเนชั่ชื่อกลางของเซอร์คุณอาร์เพลงเธอ โคนัร์หนังสือนดอยล์
คุณตัวละครหลักในห้างหุ้นส่วนจำกัดละครทีวีเรื่องเฮาส์ เอ็ม.ดี. คือเกรกอรีเฮาส์ก็ได้ รับอิทธิพลจากเชอร์ล็อกโฮมส์ทั้งในการชอบใช้ยา (เฮาส์ติดยาแก้ปวดส่วนโฮม ส์สูบไปป์และเคยใช้โคเคน ) ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเพื่อแก้ ปัญหาที่คน อื่นแก้ไม่ได้เฮ้าส์ใช้เทคนิค เดียวกันกับโฮมส์ในการตรวจวิเคราะห์ปัญหาของผู้ป่วยของเขาเพื่อนสนิทของเฮาส์คือนายแพทย์เจมส์วิลสันซึ่งสามารถสังเกตได้จากชื่อที่คล้ายกันคือเฮาส์ - โฮมส์กับ เจมส์วิลสัน - จอห์นวอตสันนอกจากนี้ ยังมีตัวละครที่ชื่อมอริอาตี (ชื่อเดียวกับอริของโฮมส์) ปรากฏตัวในตอนสุดท้ายของฤดูกาลที่ สองและเกือบจะสังหารเฮาส์ได้สำเร็จ [ 35] นอกจากนั้นที่อยู่ของเฮาส์คือ เลขที่ 221 บีเช่นเดียวกับโฮมส์
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าขณะนี้คุณหัวผู้ทรงศึกษาเป็นในห้างหุ้นส่วนจำกัดออกประเทศอังกฤษคุณทรงได้รับแรงบันดาลที่คุณพระราชหฤทัยจากเนชั่เรื่องชุดเชอร์ล็อกโฮมส์ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การที่คุณพระราช นิพนธ์นิยายนักสืบชุดนิทานทองอินบรรยาย พฤติการณ์ของ "นายทองอินรัตนะเนตร์" ซึ่งมีอาชีพเป็นนักสื
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ความนิยมและอิทธิพลต่องานอื่น [ แก้ ]ความนิยมในประเทศอังกฤษ [ แก้ ]เรื่องสั้นเชอร์ล็อกโฮมส์ที่ลงพิมพ์ในนิตยสารสแตรนด์ประสบความสำเร็จอย่างมากจนผู้อ่านจำนวนมากเชื่อว่าเชอร์ล็อกโฮมส์มีตัวตนจริงและพากันเขียนจดหมายไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือจดหมายจำนวนมากที่ส่งไปยังบ้านเลขที่ 221 บีถนนเบเกอร์ถูกตีกลับมายังที่ทำการไปรษณีย์ เนื่องจากบ้านเลขที่นั้นไม่มีอยู่จริง [ 27 ] กล่าวกันว่าโคนันดอยล์มีรายได้จากนวนิยายเรื่องนี้มากกว่างานประจำของเขาเสียอีก [ ต้องการอ้างอิง ]. ค . ศ . 1893 เมื่อโคนันดอยล์เริ่มคิดโครงเรื่องนิยายได้ยากขึ้นและต้องการหันไปทุ่มเทกับงานเขียนด้านอื่นที่เขาเห็นว่ามีคุณค่ามากกว่าเขาได้เขียนเรื่องสั้นตอนปัจฉิมปัญหา ( เรื่องสุดท้าย ) ให้เชอร์ล็อกโฮมส์พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับศาสตราจารย์เจมส์มอริอาร์ตีและพลัดตกเหวไปเพื่อจบบท บาทของเชอร์ล็อกโฮมส์เสียผลปรากฏว่าผู้อ่านพากันต่อว่าต่อขานโคนันดอยล์อย่างเคียดแค้นสมาชิกนิตยสารสแตรนด์บอกยกเลิกสมาชิกภาพถึงกว่าสองหมื่นคนบางคนถึงกับไว้ทุกข์ให้แก่เชอร์ล็อกโฮมส์มีจดหมายจำนวนมากส่งไปถึงโคนันดอยล์เพื่อเค้นถามข้อเท็จจริงว่าโฮมส์ตกเห วไปแล้วตายจริงหรือเปล่า [ ต้องการอ้างอิง ] หลังจากต้านทานแรงกดดันจากสาธารณะแปดปีในที่สุดโคนันดอยล์ทนไม่ไหวจึงปล่อยเรื่องยาวหมาผลาญตระกูลออกมาในปีค . ศ . 1901 ทำให้ผู้อ่านตื่นเต้นยินดีมากแต่ก็ยังไม่หายสงสัยเพราะเหตุการณ์ในเรื่องหมาผลาญตระกูลเป็นเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะต่อสู้กับศาสตราจารย์มอริอาตี้ข้อกังขาว่าโฮมส์ตกเหวแล้วตายหรือไม่จึงยังมิได้ไขกระจ่าง [ 28 ]ในที่สุดโคนันดอยล์แต่งเรื่องสั้นชุด " คืนชีพ " ( เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ) สามารถค . ศ . 1903 เป็นการตอบคำถามว่าเชอร์ล็อกโฮมส์ยังไม่ตายหลังจากนั้นเขาก็แต่งเรื่องยาวและเรื่องสั้นอีกหลายเรื่อง [ 29 ]สามารถค . ศ . 2002 ราชสมาคมเคมีแห่งประเทศอังกฤษมอบตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ให้แก่เชอร์ล็อกโฮมส์ในฐานะนักสืบคนแรกที่นำศาสตร์ทางเคมีไปประยุกต์ใช้กับงานสืบสวนในโอกาสครบรอบหนึ่งร้อยปีการคลี่คลายคดีหมาผลาญตระกูลและครบรอบหนึ่งร้อยปีกา
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: