Traditionally, biomass had been uti

Traditionally, biomass had been utilized through direct combustion.
Burning biomass produces pollutants including dust and
the acid rain gases such as sulfur dioxide and nitrogen oxides but
the sulfur dioxide produced is 90% less than that is produced by
burning coal [8]. The combustion process is started by heating
the fuel above its ignition temperature in the presence of oxygen
or air. Under the influence of heat, the chemical bonds of the fuel
are cleaved [21].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเพณี ชีวมวลมีการใช้ประโยชน์ผ่านการเผาไหม้โดยตรงการ
เผาไหม้ชีวมวลก่อให้เกิดสารมลพิษเช่นฝุ่นละออง และ
ก๊าซฝนกรดเช่นซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ แต่
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ผลิตเป็น 90% น้อยกว่าที่ผลิต
เขียนถ่านหิน [8] เริ่มต้นกระบวนการเผาไหม้ ด้วยความร้อน
น้ำมันเชื้อเพลิงสูงกว่าอุณหภูมิการจุดระเบิดในต่อหน้าของออกซิเจน
หรืออากาศ ภายใต้อิทธิพลของความร้อน พันธบัตรเคมีของเชื้อเพลิง
จะแหวก [21]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตามเนื้อผ้าชีวมวลได้ถูกนำมาใช้ผ่านการเผาไหม้โดยตรง
การเผาไหม้ชีวมวลผลิตสารมลพิษรวมทั้งฝุ่นและ
ก๊าซฝนกรดเช่นซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ แต่
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ผลิตเป็น 90% น้อยกว่าที่ผลิตโดย
การเผาไหม้ถ่านหิน [8] กระบวนการเผาไหม้จะเริ่มต้นด้วยความร้อน
น้ำมันเชื้อเพลิงที่เหนืออุณหภูมิการเผาไหม้ในการปรากฏตัวของออกซิเจน
หรืออากาศ ภายใต้อิทธิพลของความร้อนที่พันธบัตรเคมีของน้ำมันเชื้อเพลิงที่
ได้รับการตัด [21]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่เดิมเคยใช้ผ่านการเผาไหม้ชีวมวลชีวมวลผลิตมลพิษเผาไหม้โดยตรง

รวมไปถึงฝุ่นและก๊าซ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ฝนกรด และไนโตรเจนออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ แต่
ผลิต 90% น้อยกว่าที่ผลิตโดย
การเผาไหม้ถ่านหิน [ 8 ] กระบวนการเผาไหม้เริ่มต้นด้วยความร้อนอุณหภูมิในการจุดระเบิดของเชื้อเพลิงข้างบน

ในการปรากฏตัวของออกซิเจนหรืออากาศภายใต้อิทธิพลของความร้อน , พันธะเคมีของเชื้อเพลิง
แยกออกจากกัน [ 21 ]