คนที่อาศัยอยู่ในเมือง ส่วนใหญ่ไม่ทำการเกษตร ชีวิตประจำวันของคนในเมืองจึงไม่ต้องอาศัยธรรมชาติมากเท่ากับคนในชนบท การไม่ต้องพึ่งธรรมชาติทำให้คนในเมืองมีวิถีชีวิตซึ่งมักถือกันว่าเจริญแล้ว คือ จะเลือกทำอะไรก็ได้หลายอย่าง ตัวอย่างเช่น ทำการค้า ทำอุตสาหกรรม การก่อสร้างและให้บริการ สิ่งเหล่านี้มิต้องพึ่งปริมาณฝนแต่ขึ้นอยู่กับเงินทุน และเครื่องจักรกลมากกว่า ใน พ.ศ. ๒๕๓๐ การดำเนินกิจการต่าง ๆ นี้ ให้ผลิตผลต่อประเทศดังนี้ การทำการค้าคิดเป็นร้อยละ ๑๑.๗ การทำอุตสาหกรรมร้อยละ ๒๑.๓ การก่อสร้างร้อยละ ๕.๗ และการให้บริการร้อยละ ๑๕.๒ แต่คนในเมืองต้องพึ่งอาหารการกินซึ่งเป็นผลิตผลมาจากชนบท การที่คนในเมืองมีเงินไปซื้อเครื่องจักรและเครื่องใช้จากต่างประเทศนั้น ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากเงินที่ขายผลิตผลทางการเกษตรที่คนชนบทผลิตได้ และวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมประเภทอาหาร จำพวกผักและผลไม้กระป๋อง น้ำมันพืช ก็ใช้วัตถุดิบจากการเกษตรทั้งสิ้น ดังนั้น ความเจริญในเมืองเกือบทั้งหมด ในประเทศของเราจึงมีรากฐานมาจากชนบท