Phuket Vegetarian FestivalThailand’

Phuket Vegetarian Festival
Thailand’s vegetarian festival is most colorful in Phuket. There the vegetarian festival is celebrated inside and outside Chinese temples throughout the city, as well as during processions between these temples and Phuket Bay. Each temple erects a pole, known as a go teng, or lantern pole, to welcome the Nine Emperor Gods of the Chinese Taoist religion. Each pole is decorated with nine lanterns, and devotees light candles around the poles. Devotees bring shrines or images of deities from their own homes to the temples to receive spiritual energy. Along with the lantern pole, each temple has nine chairs for the gods to sit in. Some temples place statues in the chairs to simulate the invisible gods. These Nine Emperor Gods are associated with the ocean, sea, and sea-faring and may be based on pirates in ancient Chinese literature. The beating of loud drums around the temples and along procession routes scare away evil spirits.

History of the Phuket Vegetarian Festival
Phuket’s Vegetarian festival (or jia chai in local Hokkien Chinese dialect) began in 1825. The governor of Thalang, Praya Jerm, moved the island’s principal town from Ta Reua in Thalang District to Get-Hoe in Kathu District, where there were tin mines and Chinese miners. Kathu was then still covered by jungle and fever was rife. It happened that a traveling opera company (called ngiu in Thai or pua-hee in Hokkien dialect) came from China to perform for the miners.

When the whole company grew sick from an unnamed malady, they kept to a vegetarian diet to honor two of the emperor gods, Kiew Ong Tai Teh and Yok Ong Sone Teh. The sickness afflicting the opera troupe then disappeared. This greatly interested the people of Kathu, who asked how it was done. The answer came that ritual vegetarianism with its attendant ceremonies had been the cause, with the result that people embraced the faith enthusiastically.

Thus the festival began: starting the first evening of the ninth lunar month, it continued until the ninth evening. The aim was to bring good luck to individuals as well as to the community.

It later happened that one familiar with the festival volunteered to return to Kansai, in China, where he invited the sacred Hiao Ho-le or Hiao Ian (incense smoke) and Lian Tui (name plaques), which have the status of gods, to come stay in Kathu. He also brought holy writings used in the ceremonies, returning to Phuket on the seventh night of the ninth month. The people, upon hearing of his arrival, went in procession to Bang Niao Pier to bring him and his sacred cargo back. This was the origin of the processions that figure so greatly in the festival.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทศกาลกินเจภูเก็ตเทศกาลกินเจของไทยมีสีสันมากที่สุดในภูเก็ต มีเทศกาลกินเจเทศกาลทั้งใน และ นอกวัดจีนเมือง รวม ทั้งใน ระหว่างขบวนระหว่างวัดและอ่าวภูเก็ตเหล่านี้ วัดละ erects เสา เรียกว่าเทงไป หรือโคมไฟเสา ต้อนรับเก้าจักรพรรดิเทพเจ้าของศาสนาลัทธิเต๋าของจีน แต่ละเสามีตกแต่ง ด้วยโคมไฟเก้า และผู้มีจิตศรัทธาแสงเทียนรอบเสา ผู้มีจิตศรัทธานำศาลหรือภาพของเทพจากบ้านของตนเองไปวัดเพื่อรับพลังแห่งจิตวิญญาณ แต่ละวัดมีเก้าเก้าอี้สำหรับพระที่นั่งพร้อม ด้วยเสาโคมไฟ บางวัดทำรูปปั้นในเก้าอี้เพื่อจำลองพระเจ้ามองไม่เห็น เหล่านี้เก้าจักรพรรดิพระเจ้าเกี่ยวข้องกับมหาสมุทร ทะเล และดำน้ำที่ สวยทะเล และอาจจะยึดตามโจรสลัดในวรรณคดีจีนโบราณ เต้นของดังกลอง รอบวัด และเส้นทางขบวนหลอนจากวิญญาณชั่วร้ายประวัติเทศกาลกินเจภูเก็ตภูเก็ตเทศกาลกินเจ (หรือชัยเจียในภาษาจีนฮกเกี้ยนถิ่น) เริ่มใน 1825 ผู้ว่าราชการอำเภอถลาง เจิมจอมพระยา ย้ายเมืองหลักของเกาะจากล่องเรือหา Ta ในอำเภอถลางเพื่อรับจอบในอำเภอกะทู้ มีอยู่ที่เหมืองแร่ดีบุกและคนงานเหมืองจีน กะทู้แล้วยังคลุม ด้วยป่า และไข้เป็นถ้า มันเกิดขึ้นที่บริษัทโอเปร่าเดิน (เรียกว่างิ้วหรือปัวฮีในสำเนียงฮกเกี้ยน) มาจากประเทศจีนเพื่อดำเนินการสำหรับผู้ปฏิบัติเมื่อบริษัททั้งหมดเติบโตป่วยจากมีชื่อประหลาด พวกเขาเก็บเป็นมังสวิรัติเพื่อเป็นเกียรติของพระเจ้าจักรพรรดิ เขียวอ๋องไท่เตห์และไทรโยคอ๋องตากะโซเนะเตห์ วีธีแก้ตู้แล้วโรคหายไป นี้มากสนใจคนกะทู้ ที่ขออย่าง คำตอบมา ว่า มังสวิรัติพิธีกรรมกับพิธีของผู้เข้าร่วมได้รับสาเหตุ มีผลให้คนกอดศรัทธากระตือรือร้นจึง เริ่มเทศกาล: เริ่มแรกช่วงเย็นค่ำเดือนเก้า มันต่อจนถึงเย็นเก้า จุดประสงค์คือเพื่อ นำโชคดีไปบุคคลเช่นชุมชนมันภายหลังเกิดขึ้นหนึ่งที่คุ้นเคยกับงานอาสาที่จะกลับไปคันไซ จีน ที่เขาเชิญศักดิ์สิทธิ์ Hiao โฮจิมินห์เลอ หรือ เอียน Hiao (ควันธูป) และ Lian ตุ่ย (ชื่อเกียรติ), ซึ่งมีสถานะเป็นพระเจ้า จะมาพักในกะทู้ นอกจากนี้เขานำงานเขียนที่ศักดิ์สิทธิ์ใช้ในพิธีกรรม กลับมาภูเก็ตในคืนเจ็ดของเดือนเก้า คน เมื่อได้ยินมา ไปในขบวนท่าเรือถนน Niao บางจะนำเขาและสินค้าศักดิ์สิทธิ์กลับ นี่คือมาของขบวนที่คิดดังนั้นอย่างมากในเทศกาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูเก็ตกินเจเทศกาลกินเจของไทยที่มีสีสันมากที่สุดในจังหวัดภูเก็ต มีเทศกาลกินเจมีการเฉลิมฉลองในและนอกวัดจีนทั่วเมืองเช่นเดียวกับในช่วงระหว่างขบวนวัดเหล่านี้และอ่าวภูเก็ต แต่ละวัด erects เสาเป็นที่รู้จักไปเต็งหรือเสาโคมไฟที่จะต้อนรับพระเจ้าจักรพรรดิเก้าของศาสนาเต๋าจีน เสาแต่ละครั้งจะถูกตกแต่งด้วยโคมไฟเก้าและชื่นชอบจุดเทียนรอบเสา ที่ชื่นชอบนำมาบูชาหรือภาพของเทพจากบ้านของตัวเองไปยังวัดที่จะได้รับพลังทางจิตวิญญาณ พร้อมกับเสาโคมไฟวัดแต่ละคนมีเก้าเก้าอี้สำหรับพระเจ้าจะนั่งอยู่ใน. วัดบางวางรูปปั้นอยู่ในเก้าอี้เพื่อจำลองพระเจ้าที่มองไม่เห็น เหล่านี้พระเจ้าจักรพรรดิเก้ามีความเกี่ยวข้องกับมหาสมุทรทะเลและดำน้ำที่สวยงามและอาจจะขึ้นอยู่กับโจรสลัดในวรรณคดีจีนโบราณ ตีกลองดังไปรอบ ๆ วัดและตามเส้นทางขบวนฝ่อไปวิญญาณชั่วร้าย. ประวัติความเป็นมาของเทศกาลกินเจภูเก็ตเทศกาลกินเจภูเก็ต (หรือเจี๋ยชัยในภาษาถิ่นของชาวจีนฮกเกี้ยน) เริ่มต้นในปี 1825 ผู้ว่าราชการจังหวัดของอำเภอถลางพระยาเจิม, ย้าย เมืองหลักของเกาะจากตา Reua ในอำเภอถลางเพื่อรับ Hoe ในอำเภอกะทู้ที่มีการทำเหมืองแร่และเหมืองดีบุกจีน อำเภอกะทู้จากนั้นก็ยังคงปกคลุมไปด้วยป่าและมีไข้หนาแน่น มันเกิดขึ้นที่ บริษัท โอเปร่าเดินทาง (เรียกว่างิ้วภาษาไทยหรือปัวฮีในภาษาฮกเกี้ยน) มาจากประเทศจีนเพื่อดำเนินการสำหรับคนงานเหมือง. เมื่อ บริษัท ทั้งเติบโตป่วยจากโรคภัยที่ไม่มีชื่อพวกเขาเก็บไว้ให้กินอาหารมังสวิรัติเพื่อเป็นเกียรติแก่ทั้งสอง พระเจ้าจักรพรรดิองค์กิ่วไท Teh และหยกองค์ Sone Teh เจ็บป่วยความเจ็บปวดรวดร้าวคณะโอเปร่าหายไปแล้ว นี้ความสนใจอย่างมากที่ผู้คนในอำเภอกะทู้ที่ถามว่ามันทำอย่างไร . คำตอบมาที่กินเจด้วยการจัดพิธีพิธีกรรมของผู้เข้าร่วมประชุมได้รับสาเหตุที่มีผลว่าคนที่นำเอาความเชื่อกระตือรือร้นดังนั้นเทศกาลเริ่ม: การเริ่มต้นในเย็นวันแรกของเดือนจันทรคติที่เก้าก็ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงเวลาเย็นที่เก้า ตั้งเป้าไว้ว่าจะนำโชคดีให้กับประชาชนเช่นเดียวกับชุมชน. หลังจากนั้นมันก็เกิดขึ้นที่หนึ่งคุ้นเคยกับเทศกาลอาสาที่จะกลับไปที่คันไซในประเทศจีนที่เขาได้รับเชิญศักดิ์สิทธิ์ Hiao โฮ-le หรือ Hiao เอียน (ธูปควัน) และเหลียนตุ๋ย (โล่ชื่อ) ซึ่งมีสถานะของพระเจ้าที่จะมาอยู่ในอำเภอกะทู้ นอกจากนี้เขายังนำงานเขียนศักดิ์สิทธิ์ใช้ในพิธีกลับไปภูเก็ตในคืนที่เจ็ดของเดือนที่เก้า คนเมื่อได้ยินเขามาถึงเดินในขบวนกับหาดบางเหนียวท่าเรือที่จะนำเขาและสินค้าที่ศักดิ์สิทธิ์ของเขากลับมา นี่คือที่มาของขบวนที่คิดเช่นนั้นอย่างมากในการจัดงานเทศกาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทศกาลกินเจภูเก็ตเทศกาลกินเจของไทยที่มีสีสันมากที่สุดในภูเก็ต มีเทศกาลมีการเฉลิมฉลองภายในและภายนอกวัดจีน ทั่วเมือง รวมทั้งในระหว่างกระบวนการระหว่างวัดเหล่านี้ และอ่าวภูเก็ต แต่ละวัด erects เสา เรียกว่าไปเถิงเสา หรือโคมไฟ เพื่อต้อนรับพระเจ้าจักรพรรดิเก้าของศาสนาลัทธิเต๋าของจีน แต่ละเสาตกแต่งด้วยโคมไฟและเก้า , ผู้จุดเทียนรอบเสา สาวกนำศาลเจ้า หรือรูปของเทพจากบ้านของตนเอง เพื่อวัด เพื่อรับพลังงานมโนมัย พร้อมกับโคมไฟขั้ว แต่ละวัดมีเก้า เก้าอี้สำหรับพระนั่งใน รูปปั้นในวัดบางวัดสถานที่ เก้าอี้เพื่อจำลองพระเจ้าที่มองไม่เห็น เหล่านี้เก้าพระเจ้าจักรพรรดิที่เกี่ยวข้องกับมหาสมุทร ทะเล และทะเลที่สวยงาม และอาจเป็นจากโจรสลัดในวรรณคดีจีนโบราณ เสียงกลองดังรอบวัดและตามเส้นทางขบวนหลอนวิญญาณชั่วร้ายออกไปประวัติความเป็นมาของเทศกาลกินเจภูเก็ตเทศกาลกินเจภูเก็ต ( หรือเจียชัยในถิ่นท้องถิ่นจีนฮกเกี้ยน ) เริ่มในปี 1825 เจ้าเมือง พระยาถลางเจิม , ย้าย , เกาะเมืองหลักจากท่าเรือในอำเภอถลางได้รับจอบในอำเภอกะทู้ที่เคยมีการทำเหมืองแร่ดีบุก และคนงานเหมืองจีน กะทู้แล้ว ยังปกคลุมด้วยป่าและมีไข้อยู่มากมาย มันเกิดขึ้นที่ บริษัท เดินทาง โอเปร่า ( เรียกว่างิ้วภาษาไทยหรือปัวฮีในสำเนียงฮกเกี้ยน ) มาจากประเทศจีนเพื่อแสดงให้ผู้ปฏิบัติเมื่อ บริษัท เริ่มป่วยจากโรคที่ไม่ทั้งหมด พวกเขาเก็บกับอาหารมังสวิรัติให้เกียรติสองจักรพรรดิพระองค์หยกอ๋องไท่ teh เขียวและซงเต๋ . อาการเสีย คณะงิ้วแล้วหายตัวไป นี้สนใจอย่างมากชาวกะทู้ ที่ถามว่าทำอย่างไร ตอบมาว่าพิธีกรรมการกินเจของผู้ช่วยพิธีกรมีสาเหตุกับผลที่คนยอมรับ ศรัทธา อย่างกระตือรือร้นดังนั้น งานเริ่ม : เริ่มต้นเย็นแรกของเดือน 9 ตามมันต่อไปจนถึงเย็น 9 มีจุดมุ่งหมายที่จะนำ โชค ดี บุคคล ตลอดจนชุมชนมันเกิดขึ้นที่คุ้นเคยกับงานอาสากลับคันไซในประเทศจีน ที่เขาเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ hiao โฮเล หรือ hiao เอียน ( ควันธูป ) และเหลียนทุย ( ชื่อโล่ ) ซึ่งมีสถานะของพระเจ้า ให้มาอยู่ในกะทู้ นอกจากนี้เขายังนำงานเขียนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในพิธีกลับภูเก็ตในคืนที่เจ็ดของเดือน 9 คน เมื่อได้ยินการมาถึงของเขาไปในขบวนไปยังท่าเรือบางเหนียว เอาสินค้าศักดิ์สิทธิ์ของเขากลับ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่คิดอย่างมากในเทศกาล