War TornIn July 1939, Franklin D. R

War Torn
In July 1939, Franklin D. Roosevelt met with senators from both political parties at the White House in a final effort to persuade them to amend the Neutrality Act preventing America from aiding other countries. After drinks were poured, Roosevelt and his secretary of state, Cordell Hull, argued that the world was approaching a catastrophic war. The 74-year-old Republican senator William Borah, who had led the fight against Woodrow Wilson and American entry into the League of Nations in 1919, shook his head in disgust. “There is not going to be any war in Europe this year,” he said. “All this hysteria is manufactured and artificial.” Two months later Hitler invaded Poland, and England and France declared war on Germany.
Now that it has become the good war fought by the greatest generation, the ferocity of the disputes over entering World War II has largely been forgotten. But the story of America’s anti-­interventionist lobby is not only historically fascinating, it also echoes in debates today over whether America should engage abroad or hold back. The historian Arthur Schlesinger Jr. — whose memoir, Philip Roth said, inspired his novel “The Plot Against America,” about an alternative reality where the isolationists, led by Charles Lindbergh, defeat Roose­velt for the presidency — recalled the dispute as the “most savage political debate in my lifetime,” eclipsing those over McCarthyism and Vietnam in its intensity.
The debate was largely rooted in disappointment over the outcome of World War I, when Wilson’s promised crusade for democracy ended with the punitive Treaty of Versailles. Leading liberal historians like Harry Elmer Barnes and Charles Beard, both of whom had noisily championed Wilson’s decision to intervene, now denounced it. The Harvard Crimson declared in an editorial, “We refuse to fight another balance-of-power war.” And after Joseph Stalin signed a nonaggression pact with Nazi Germany in 1939, American Communists obediently heeded Moscow and denounced Roose­velt as a warmonger.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สงคราม Torn
ในกรกฎาคม แฟรงคลินดีรูสเวลท์พบกับ senators จากทั้งสองพรรคการเมืองที่ทำเนียบขาวในความพยายามสุดท้ายชวนให้แก้ไขพระราชบัญญัติความเป็นกลางที่ทำให้ไม่สามารถช่วยงานประเทศอเมริกา หลังจากดื่มได้ poured รูสเวลท์และพระเลขานุการของรัฐ คอร์เดลล์ โต้เถียงว่า โลกถูกใกล้สงครามรุนแรง อายุ 74 ปีสวีพล William Borah ผู้ที่ได้ต่อสู้กับ Woodrow Wilson และอเมริกันเข้าสันนิบาตชาติในค.ศ. 1919 จับหัวเขาชัง "มีอยู่จะไม่มีสงครามในยุโรปปีนี้ เขากล่าวว่า "ทั้งหมดนี้ hysteria เป็นผลิต และประดิษฐ์" สองเดือนต่อมาฮิตเลอร์บุกโปแลนด์ และอังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมนี
หลังจากที่มันได้กลายเป็นสงครามดีสู้ โดยการสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ความดุร้ายของข้อพิพาทผ่านเข้าสงครามโลกได้ส่วนใหญ่ถูกลืมไป แต่เรื่องราวของล็อบบี้ interventionist ต่อต้านอเมริกาไม่นับอดีต มันยัง echoes ดำเนินในวันนี้ว่าอเมริกาควรมีส่วนร่วมต่างประเทศ หรือเหนี่ยวรั้ง นักประวัติศาสตร์จูเนียร์ Schlesinger Arthur — มี memoir ฟิลิปรอดพูด แรงบันดาลใจ "พล็อตกับอเมริกา นวนิยายของเขามีความจริงอื่นที่ isolationists นำ โดยชาร์ลส์ Lindbergh กำจัดรูสเวลท์สำหรับประธานาธิบดี — ยกเลิกข้อโต้แย้งเป็นการ"ป่าเถื่อนที่สุดทางการเมืองอภิปรายในชีวิตของฉัน eclipsing ผู้ McCarthyism และเวียดนามในความเข้มของการ
การอภิปรายได้ส่วนใหญ่ใช้ในหวังมากกว่าผลของสงครามโลก เมื่อของ Wilson สัญญารณรงค์เพื่อประชาธิปไตยสิ้นสุดลง ด้วยการลงโทษสนธิสัญญาแวร์ซายส์ นำนักประวัติศาสตร์เสรีนิยมเช่นแฮร์รี่เอลเมอ Barnes และชาร์ลส์เครา ฟ้าลั่นครืนทั้งสองที่มี championed ของ Wilson ตัดสินใจแทรกแซง ตอนนี้ประณามมัน ฮาร์วาร์ดแดงประกาศกอง "เราปฏิเสธการต่อสู้สงครามสมดุลพลังงานอื่น" และหลังจากที่โจเซฟสตาลินเซ็นสัญญา nonaggression กับนาซีเยอรมนีในปีพ.ศ. 2482 อเมริกันคอมมิวนิสต์ทรงปฏิบัติมอสโก และประณามรูสเวลต์เป็น warmonger ตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สงครามฉีกขาด
ในเดือนกรกฎาคมปี 1939 โรสเวลต์ได้พบกับวุฒิสมาชิกจากทั้งสองพรรคการเมืองที่ทำเนียบขาวในความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะชักชวนให้พวกเขาแก้ไขความเป็นกลางพระราชบัญญัติป้องกันอเมริกาจากการช่วยเหลือประเทศอื่น ๆ หลังจากที่เครื่องดื่มถูกเท, โรสเวลต์และเลขานุการของรัฐคอร์เดลล์ฮัลล์เป็นที่ถกเถียงกันว่าโลกกำลังใกล้สงครามภัยพิบัติ สมาชิกวุฒิสภา 74 ปีพรรครีพับลิวิลเลียม Borah ที่ได้นำการต่อสู้กับวูดโรว์วิลสันและสหรัฐอเมริกาเข้าสู่สันนิบาตแห่งชาติในปี 1919, ส่ายหัวด้วยความขยะแขยง "มีไม่ได้จะเป็นสงครามในยุโรปใด ๆ ในปีนี้" เขากล่าวว่า "ทุกฮิสทีเรียนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตและประดิษฐ์". สองเดือนต่อมาฮิตเลอร์บุกโปแลนด์และอังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมนี
ตอนนี้มันได้กลายเป็นสงครามการต่อสู้ที่ดีโดยรุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดความรุนแรงของข้อพิพาทเหนือเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง ได้รับส่วนใหญ่ลืม แต่เรื่องราวของล็อบบี้ต่อต้านการแทรกแซงของอเมริกาไม่ได้เป็นเพียงที่น่าสนใจในอดีตก็ยังสะท้อนในการอภิปรายวันนี้ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาควรมีส่วนร่วมในต่างประเทศหรือกลั้น ประวัติศาสตร์อาเธอร์ชเลซิงเจอร์จูเนียร์ - มีไดอารี่, ฟิลิปโรกล่าวว่าแรงบันดาลใจจากนิยายของ "พล็อตกับอเมริกา" เกี่ยวกับความเป็นจริงทางเลือกที่ isolationists นำโดยชาร์ลส์ลินด์เบิร์กพ่ายแพ้โรสเวลต์สำหรับประธานาธิบดี - จำได้ว่าข้อพิพาทในฐานะ "มากที่สุด การอภิปรายทางการเมืองป่าเถื่อนในชีวิตของฉัน "eclipsing พวกที่ McCarthyism และเวียดนามในความรุนแรงของมัน
ได้รับการอภิปรายรากฐานส่วนใหญ่อยู่ในความผิดหวังในผลของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเมื่อสงครามครูเสดสัญญาของวิลสันเพื่อประชาธิปไตยจบลงด้วยสนธิสัญญาแวร์ซายลงโทษ ประวัติศาสตร์ชั้นนำมากมายเช่นแฮร์รี่เอลเมอบาร์นส์และชาร์ลส์เคราทั้งสองคนได้ปกป้องการตัดสินใจดังของวิลสันที่จะเข้าไปแทรกแซงตอนนี้ประณามมัน ฮาร์วาร์คริมสันประกาศในบทบรรณาธิการว่า "เราปฏิเสธที่จะต่อสู้กับอีกสงครามความสมดุลของพลังงาน." และหลังจากที่โจเซฟสตาลินได้ลงนามในสนธิสัญญาไม่รุกรานกับนาซีเยอรมนีในปี 1939, อเมริกันคอมมิวนิสต์เชื่อฟังปฏิบัติตามคำมอสโกและประณามโรสเวลต์เป็นผู้กระหายสงคราม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สงครามฉีก
กรกฎาคม 1939 , แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ได้พบกับวุฒิสมาชิกจากทั้งสองพรรคการเมืองที่ทำเนียบขาวในความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะชักชวนให้แก้ไขพระราชบัญญัติป้องกันความเป็นกลางจากอเมริกาช่วยประเทศอื่น ๆ หลังจากที่เครื่องดื่มที่ถูกเทรูสเวลต์ และเลขานุการของรัฐ , คอร์เดล ฮัลล์ ที่โต้เถียงว่า โลกกำลังเข้าสู่สงครามหายนะ74 ปี วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน วิลเลียม บอร่า ผู้นำการต่อสู้กับวูดโรว์วิลสันและอเมริกันเข้าไปในลีกของประเทศในปี 1919 ส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ " มีจะไม่มีสงครามใดๆในยุโรปในปีนี้ " เขากล่าว " ทั้งหมดนี้เป็นฮิสทีเรียคือผลิตและประดิษฐ์ " สองเดือนต่อมาฮิตเลอร์บุกโปแลนด์ อังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมัน
ตอนนี้มันได้กลายเป็นดี สงครามการต่อสู้ โดยการสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ความดุร้ายของข้อพิพาทเหนือเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สองส่วนใหญ่ได้ถูกลืม แต่เรื่องราวของอเมริกาต่อต้าน - อง interventionist บี้ไม่ได้เป็นเพียงที่น่าสนใจในอดีต มันยังก้องในการอภิปรายวันนี้ว่าอเมริกาควรต่อสู้ในต่างประเทศหรือถือกลับ นักประวัติศาสตร์ Arthur Schlesinger จูเนียร์ ที่มีความทรงจำของพ่อฟิลิป รอธกล่าวของเขา นวนิยายเรื่อง " การต่อต้านอเมริกาแรงบันดาลใจ " เกี่ยวกับทางเลือกความเป็นจริงที่ isolationists นําโดย ชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก พ่ายแพ้ รูสอง velt ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี - เรียกคืนข้อพิพาทเป็น " การอภิปรายทางการเมืองที่ป่าเถื่อนที่สุดในชีวิตของฉัน " คราสที่มากกว่า mccarthyism และเวียดนามในความเข้มของมัน .
การอภิปรายส่วนใหญ่ rooted ในความผิดหวังมากกว่าผลของสงครามโลก เมื่อวิลสันสัญญารณรงค์เพื่อประชาธิปไตยสิ้นสุดลงด้วยการลงโทษของสนธิสัญญาแวร์ซาย ผู้นำเสรีนิยมนักประวัติศาสตร์ ชอบแฮร์รี่ เอลเมอร์ บาร์นส์และชาร์ลส์เคราทั้งของผู้ที่เคยสนับสนุนการตัดสินใจนี่วิลสันจะแทรกแซง แล้วประณามมัน สีแดงเข้มฮาร์วาร์ดประกาศในบรรณาธิการ" เราปฏิเสธที่จะสู้กับอีกขั้วอำนาจสงคราม โจเซฟ สตาลิน และหลังจากลงนามในข้อตกลง nonaggression กับนาซีเยอรมนีใน 1939 , คอมมิวนิสต์อเมริกันเชื่อฟังและเอาใจใส่มอสโกและประณามรูสอง velt เป็นผู้กระหายสงคราม .