Sweeteners, especially intense swee

Sweeteners, especially intense sweeteners, are added to foods to replace the sweetness normally provided by sugars without contributing significantly to available energy and are a means for consumers to control caloric or carbohydrate intake. Their addition to food can have beneficial effects as they aid in the prevention and control of diseases such as obesity, diabetes, and tooth decay. Of all the sweeteners, it is some of the intense sweeteners that periodically become the focus of public interest, and sometimes, controversy. Sweeteners, like other food additives undergo a comprehensive safety assessment before being permitted in the food supply. The available scientific information, evaluated independently by national food regulatory agencies and nongovernment panels of internationally recognized experts, has consistently concluded that dietary intake of the currently approved intense sweeteners such as aspartame, saccharin, and steviol glycosides, detailed in this article, is safe.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สารให้ความหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุนแรงสารให้ความหวาน เพิ่มไปยังอาหารเพื่อทดแทนความหวานหอมตามปกติโดยน้ำตาลไม่เอื้อต่อการใช้พลังงานอย่างมาก และเป็นวิธีการที่ผู้บริโภคแคลอริกควบคุมการบริโภคคาร์โบไฮเดรต อาหารของพวกเขานี้ได้ผลประโยชน์จะช่วยในการป้องกันและควบคุมโรคเช่นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และฟันผุ ของทั้งหมดที่สารให้ความหวาน มันเป็นของสารให้ความหวานที่เข้มข้นที่เป็นจุดเน้นของสาธารณประโยชน์ และบางครั้ง ถกเถียงเป็นระยะ ๆ สารให้ความหวาน เช่นวัตถุเจือปนอาหารอื่น ๆ รับมีความปลอดภัยที่ครอบคลุมการประเมินก่อนได้รับอนุญาตในการผลิตอาหาร ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ว่าง ประเมินอิสระ โดยหน่วยงานกำกับดูแลชาติและแผง nongovernment ผู้เชี่ยวชาญในระดับสากลรู้จัก ได้อย่างต่อเนื่องสรุปว่า บริโภคอาหารของการอนุมัติในปัจจุบันรุนแรงสารให้ความหวานเช่น glycosides แอสปาร์แตม แซกคารีน และ steviol รายละเอียดในบทความนี้ ปลอดภัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สารให้ความหวานโดยเฉพาะอย่างยิ่งสารให้ความหวานที่รุนแรงจะมีการเพิ่มอาหารที่จะเปลี่ยนความหวานให้ตามปกติโดยน้ำตาลโดยไม่ต้องมีส่วนสำคัญในการใช้พลังงานที่มีอยู่และเป็นวิธีสำหรับผู้บริโภคในการควบคุมแคลอรี่หรือคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้พวกเขาจะได้รับอาหารสามารถมีผลประโยชน์ที่พวกเขาช่วยในการป้องกันและควบคุมโรคต่าง ๆ เช่นโรคอ้วนโรคเบาหวานและฟันผุ สารให้ความหวานทั้งหมดมันเป็นบางส่วนของสารให้ความหวานที่รุนแรงเป็นระยะ ๆ ว่าเป็นจุดสำคัญของความสนใจของประชาชนและบางครั้งความขัดแย้ง สารให้ความหวานเช่นวัตถุเจือปนอาหารอื่น ๆ ที่ได้รับการประเมินความปลอดภัยที่ครอบคลุมก่อนที่จะถูกได้รับอนุญาตในการจัดหาอาหาร ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ได้รับการประเมินอย่างอิสระโดยหน่วยงานกำกับดูแลอาหารของชาติและแผง nongovernment ของผู้เชี่ยวชาญด้านการได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่องได้ข้อสรุปว่าการบริโภคอาหารที่ได้รับการอนุมัติของสารให้ความหวานที่รุนแรงในปัจจุบันเช่นสารให้ความหวาน, ขัณฑสกรและไกลโคไซด์สตีวิออรายละเอียดในบทความนี้มีความปลอดภัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สารให้ความหวาน , โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุนแรงสารให้ความหวานจะถูกเพิ่มในอาหารแทนน้ำตาล โดยไม่ให้เกิดความไพเราะได้ตามปกติโดยมีการใช้พลังงานและจะหมายถึงสำหรับผู้บริโภคเพื่อควบคุมแคลอรี่ หรือคาร์โบไฮเดรตที่บริโภค ของพวกเขา นอกจากนี้ อาหาร สามารถ มี ผล ประโยชน์ที่พวกเขาช่วยในการป้องกันและควบคุมโรค เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และฟันผุของสารให้ความหวานทั้งหมด มันเป็นบางส่วนของสารให้ความหวานที่รุนแรงเป็นระยะๆ กลายเป็นจุดสนใจของสาธารณะ และบางครั้ง ข้อพิพาท สารให้ความหวาน เช่น วัตถุเจือปนอาหารอื่น ๆผ่านการประเมินความปลอดภัยที่ครอบคลุมก่อนที่จะได้รับอนุญาตในการจัดหาอาหาร ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่การประเมินโดยอิสระแห่งชาติหน่วยงานกำกับดูแลอาหารและ nongovernment แผงของผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ มีอย่างต่อเนื่อง พบว่า การบริโภคอาหารของการอนุมัติในปัจจุบันที่รุนแรงเช่นสารให้ความหวานแอสปาร์แตม ขัณฑสกร และสตีวิโอไซด์ รายละเอียดในบทความนี้ จะปลอดภัย