Fig. 9 shows the bond stress–slip c

Fig. 9 shows the bond stress–slip curves obtained after 28 days for the geopolymer concrete pull-out specimens with ribbed bars and heat cured for 7 days. When compared to the 2D curing mode results, a 25% increase in bond strength is observed. This significant increase of the bond strength led to the yielding of the steel bar followed by concrete
splitting at failure. As for both compressive and tensile strengths, increasing the duration of the heat curing from 2 days to 7 days improves the bond strength.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูป 9 แสดงเส้นโค้งความเครียด – ส่งพันธบัตรที่ได้รับหลังจากวันที่ 28 สำหรับด้านการแขวนชิ้นงานคอนกรีต ด้วยแถบยางและความร้อนหาย 7 วัน เมื่อเทียบกับแบบ 2D ที่บ่มผลโหมด การเพิ่มขึ้น 25% ในความแข็งแรงเป็นที่สังเกต การเพิ่มขึ้นของความแข็งแรงของพันธะสำคัญนำไปสู่ผลลัพธ์ของแถบเหล็กตาม ด้วยคอนกรีตการแยกที่ล้มเหลว สำหรับจุดแข็งทั้งแรงอัด และแรงดึง เพิ่มระยะเวลาของความร้อนที่บ่มจาก 2 วันถึง 7 วันช่วยเพิ่มความแข็งแรงของพันธะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเดื่อ. 9 แสดงให้เห็นเส้นโค้งพันธบัตรความเครียดลื่นที่ได้รับหลังจาก 28 วันสำหรับจีโอโพลิเมอร์คอนกรีตตัวอย่างดึงออกมีแถบยางและความร้อนหายเป็นเวลา 7 วัน เมื่อเปรียบเทียบกับผลการบ่มโหมด 2D, เพิ่มขึ้น 25% ในความแข็งแรงพันธะเป็นที่สังเกต นี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความแข็งแรงพันธะนำไปสู่การให้ผลผลิตของเหล็กตามด้วยคอนกรีต
แยกที่ล้มเหลว ในฐานะที่เป็นจุดแข็งของทั้งอัดและแรงดึงเพิ่มระยะเวลาของการบ่มความร้อนจาก 2 วัน 7 วันช่วยเพิ่มความแข็งแรงพันธะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 9 แสดงความเครียดพันธบัตร–ใบโค้งที่ได้รับหลังจาก 28 วันสำหรับจีโอโพลิเมอร์คอนกรีตเข้าหาตัวอย่างกับยางแท่งและความร้อนรักษา เป็นเวลา 7 วัน เมื่อเทียบกับการบ่มผล 2D โหมดเพิ่มขึ้น 25% ในการยึดเหนี่ยวเป็นที่สังเกต เพิ่มนี้มีผลต่อแรงยึดเหนี่ยวนำไปสู่ผลผลิตของเหล็กตามด้วยคอนกรีตแยกที่ล้มเหลว เป็นทั้งแรงอัดและแรงดึงจุดแข็ง การเพิ่มระยะเวลาของการบ่มความร้อนจาก 2 วันเป็น 7 วัน ช่วยเพิ่มแรงยึดเหนี่ยว .