This study investigates the potenti

This study investigates the potential integration of a dairy farm and a greenhouse into an eco-industrial system to promote waste-to-energy and waste-to-material exchanges. Natural gas consumption is substituted by renewable biogas generated from anaerobic digestion (AD) of the dairy manure; CO2 for plant enrichment in greenhouses is supplied by biogas combustion and the digestate (digestion residue) from digesters is used as animal bedding, plant growing media and liquid fertilizers.

A life cycle analysis (LCA) was conducted to quantify the environmental impacts of the eco-industrial system in comparison to the conventional agriculture practices. The results show that the integrated system reduces non-renewable energy consumption, climate change impact, acidification, respiratory effects from organic emissions, and human toxicity by more than 40%. If the digestate surplus is treated as a waste, the integrated system shows an increase in eutrophication and respiratory effects from inorganic emissions while all the analyzed impacts are reduced if the digestate can be used for substituting chemical fertilizers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ตรวจสอบรวมศักยภาพของฟาร์มโคนมและเรือนกระจกที่เป็นระบบนิเวศอุตสาหกรรมการส่งเสริมแลกเปลี่ยนเสียพลังงาน และเสียวัสดุ การใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นสิ่งทดแทนก๊าซชีวภาพทดแทนที่สร้างขึ้นจากย่อยอาหารรวมชนิดไร้อากาศ (AD) ของมูลโคนม CO2 มาเติมเต็มให้พืชในโรงเรือน โดยการเผาไหม้ก๊าซชีวภาพ และใช้เป็นเตียงเสริมสัตว์ digestate (ตกค้างย่อยอาหาร) จาก digesters พืชเติบโตสื่อและปุ๋ยเหลว

วิธีการวิเคราะห์วงจรชีวิต(ผลิตภัณฑ์ LCA) วัดปริมาณผลกระทบสิ่งแวดล้อมของระบบนิเวศอุตสาหกรรมโดยปฏิบัติเกษตรทั่วไป ผลลัพธ์แสดงว่า ระบบบูรณาการลดการใช้พลังงานทดแทนไม่ ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยู ลักษณะทางเดินหายใจจากปล่อยอินทรีย์ และความเป็นพิษในมนุษย์มากกว่า 40% ถ้าเกิน digestate จะถือว่าเป็นขยะ ระบบรวมแสดงเพิ่มในเคและลักษณะทางเดินหายใจจากการปล่อยก๊าซอนินทรีย์ในขณะที่ผลกระทบที่วิเคราะห์ทั้งหมดจะลดลงถ้า digestate สามารถใช้แทนปุ๋ยเคมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษานี้ศึกษาบูรณาการศักยภาพของฟาร์มโคนมและเรือนกระจกเข้ามาในระบบนิเวศอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการเสียการใช้พลังงานและของเสียเพื่อการแลกเปลี่ยนวัสดุ ปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติจากก๊าซชีวภาพทดแทนที่เกิดจากการย่อยสลายแบบไร้อากาศ (AD) ปุ๋ยนม; CO2 สำหรับการตกแต่งพืชในเรือนกระจกได้รับจากการเผาไหม้ก๊าซชีวภาพและย่อยสลาย (สารตกค้างย่อยอาหาร) จากการหมักจะใช้เป็นที่นอนสัตว์วัสดุปลูกพืชและปุ๋ยที่มีสภาพคล่องการวิเคราะห์วงจรชีวิต (LCA) ได้ดำเนินการที่จะหาจำนวนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศ ระบบ -industrial เมื่อเปรียบเทียบกับการปฏิบัติทางการเกษตรทั่วไป ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าระบบบูรณาการช่วยลดการใช้ไม่หมุนเวียนพลังงานส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นกรดผลกระทบระบบทางเดินหายใจจากการปล่อยก๊าซอินทรีย์และความเป็นพิษของมนุษย์โดยกว่า 40% หากเกินย่อยสลายจะถือว่าเป็นของเสีย, ระบบบูรณาการแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของการขาดออกซิเจนและผลกระทบทางเดินหายใจจากการปล่อยนินทรีย์ในขณะที่ทุกผลกระทบต่อการวิเคราะห์จะลดลงถ้าย่อยสลายสามารถใช้แทนปุ๋ยเคมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้ศึกษาการรวมศักยภาพของฟาร์มโคนม และเรือนกระจกเป็นระบบนิเวศอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนของเสียให้เป็นพลังงาน และเศษวัสดุ การใช้ก๊าซธรรมชาติทดแทนพลังงานทดแทนก๊าซชีวภาพที่เกิดขึ้นจากการหมักแบบไร้อากาศ ( AD ) ของนมปุ๋ยคอก ;CO2 บำรุงพืชในเรือนกระจกมา โดยก๊าซชีวภาพการเผาไหม้และ digestate ( การย่อยสลายกาก ) ใช้เป็นเตียงจากมูลสัตว์ พืช วัสดุปลูกและปุ๋ยเหลว

การวิเคราะห์วัฏจักรชีวิต ( LCA ) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ Eco ระบบอุตสาหกรรมในการเปรียบเทียบกับการปฏิบัติการเกษตรแบบดั้งเดิม .ผลการวิจัยพบว่าระบบไม่ลดการบริโภคพลังงาน การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศผลกระทบทางทางเดินหายใจ ผลกระทบจากการปล่อยก๊าซอินทรีย์และมนุษย์พิษโดยกว่า 40% ถ้า digestate ส่วนเกิน ถือว่า เป็น ขยะระบบแสดงการเพิ่มขึ้นของผลกระทบจากการปล่อยก๊าซอนินทรีย์ บานชื่น และทางเดินหายใจ ขณะที่ทั้งหมดวิเคราะห์ผลกระทบจะลดลงถ้า digestate สามารถใช้เพื่อใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี