Firms can pursue either a cost adva

Firms can pursue either a cost advantage or a benefit advantage. In either case the firm has to create more value (B-C) than competitors. A firm then must determine a pricing policy to divide this value between consumer surplus and producer surplus. If a firm wants to increase market share, it has to create more consumer surplus (B-P) than its competitors. An alternative strategy is for the firm to increase profit margin by creating more producer surplus (P-C). It can be seen, therefore, that the main priority of management is to identify and determine products where value creation is possible. Only then is the division of such value into consumer and producer surplus considered. Thus pricing is usually seen as being a secondary consideration

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริษัท สามารถติดตามเปรียบค่าใช้จ่ายอย่างใดอย่างหนึ่งหรือใช้ประโยชน์ผลประโยชน์ ในทั้งสองกรณีที่ บริษัท มีการสร้างมูลค่าเพิ่ม (BC) กว่าคู่แข่ง บริษัท จะต้องกำหนดนโยบายการกำหนดราคาที่จะแบ่งค่าระหว่างส่วนเกินของผู้บริโภคและผู้ผลิตส่วนเกินนี้ ถ้า บริษัท ต้องการที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดก็มีการสร้างส่วนเกินของผู้บริโภคมากขึ้น (bp) มากกว่าคู่แข่งกลยุทธ์ทางเลือกสำหรับ บริษัท ที่จะเพิ่มกำไรโดยการสร้างส่วนเกินผู้ผลิตอื่น ๆ (PC) มันสามารถมองเห็นได้ว่าหลักสำคัญของการจัดการคือการระบุและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเป็นไปได้ เพียงแล้วส่วนของค่าดังกล่าวเป็นส่วนเกินของผู้บริโภคและผู้ผลิตถือว่าเป็น ดังนั้นการกำหนดราคาก็มักจะเห็นว่าเป็นการพิจารณารอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริษัทสามารถติดตามประโยชน์ต้นทุนหรือประโยชน์สวัสดิการ ทั้งสองกรณี บริษัทมีการสร้างค่า (B-C) มากกว่าคู่แข่ง บริษัทแล้วต้องกำหนดนโยบายการกำหนดราคาแบ่งค่านี้ระหว่างส่วนเกินผู้บริโภคและส่วนเกินผู้ผลิต ถ้าบริษัทต้องการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด มีการสร้างมากกว่าผู้บริโภคเกิน (B-P) กว่าคู่แข่ง มีกลยุทธ์การสำรองสำหรับบริษัทในการเพิ่มกำไร โดยการสร้างส่วนเกินผู้ผลิตเพิ่มเติม (P-C) จะเห็นได้ ดังนั้น ที่สำคัญหลักของการจัดการคือการ ระบุ และกำหนดผลิตภัณฑ์สามารถสร้างคุณค่า หลังจากนั้น เป็นส่วนของค่าดังกล่าวไปพิจารณาส่วนเกินผู้บริโภคและผู้ผลิต ราคาจึง มักจะเห็นเป็น ปัจจัยรอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริษัทสามารถติดตามทั้งประโยชน์จากค่าใช้จ่ายหรือใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ที่ ในทั้งสองกรณีบริษัทที่มีการสร้างมูลค่ามากกว่า( b - c )มากกว่าคู่แข่ง บริษัทแห่งหนึ่งแล้วจะต้องกำหนดนโยบายการตั้งราคาเพื่อแบ่งค่านี้ระหว่างการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเป็นผู้ผลิตและ ผู้บริโภค หากบริษัทต้องการที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ได้เพื่อสร้างการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ผู้บริโภค ( b - P )กว่าบริษัทคู่แข่งกลยุทธ์ทางเลือกที่จะใช้สำหรับบริษัทที่จะเพิ่มส่วนต่างกำไรด้วยการสร้างส่วนเกินของผู้ผลิตมากกว่า( P - C ) สามารถที่จะเห็นดังนั้นจึงว่าลำดับความสำคัญหลักของการบริหารจัดการคือการระบุและกำหนดการสร้างมูลค่าสินค้าที่เป็นไปได้ จากนั้นจึงมีการแบ่งแยกความคุ้มค่าเช่นว่านั้นเป็นส่วนเกินของผู้ผลิตและ ผู้บริโภค ได้รับการพิจารณาให้ ดังนั้นการตั้งราคาถูกมองว่าเป็นการพิจารณารองที่โดยปกติ