Eastern Sarus CraneEastern Sarus Cr

Eastern Sarus Crane

Eastern Sarus Crane is 1 of 15 species of the Wildlife Conservation and Protection Act of B.E. 2535. Eastern Sarus Crane is classified as Extinct Species in the wild. For Thailand, the last Eastern Sarus Crane was found in B.E. 2511 near Cambodia’s border area.

The cooperation between Thailand and International Crane Foundation (ICF) have worked jointly on the Crane Reintroduction Project (G. a. sharpii) starting in B.E. 2525. In B.E. 2527, ICF sent six chicks but one was dead. In August B.E. 2532, ICF gave another six chicks, all were reared at Bangphra Breeding Research Center. The project has provided breeding stock from others source because they was not enough. Later, during B.E. 2532-2540, Korat Zoo received a number of chicks from Thai-Laos Cambodia border’s people so the project contacted Korat Zoo for exchange experience with each other.

Korat Zoo is the largest crane breeding center in Thailand. Both natural breeding and artificial insemination were used in reproduction since B.E. 2540 until present. Korat Zoo started reproducing in captivity with 26 cranes until in June B.E. 2552, there are more than 100 cranes. Khao kheow Open Zoo and Bangphra Water Bird Breeding Research Center also succeeded in reproducing more than 50 cranes. The zoo had focused on the reintroduction of cranes into the wild in 6 areas such as Bueng Khong Long Non-Hunting Area, Bong Khai Non-Hunting Area, Bueng Boraphet Non-Hunting Area, Huai Talat Reservoir and Huai Jorakhemak Reservoir Non-Hunting Area, Bangpra Non-Hunting Area and Phu Khieo Wildlife Reserve.

Formerly, In B.E. 2540, Thailand released three of captive-reared cranes back to nature at Tung Ka Mung but it was not successful.
In B.E. 2554, during March – May, the Sarus Crane Reintroduction Project Thailand and Nakhon Ratchasima Zoo have released 10 sarus cranes age between 5 – 8 months back to nature at reservoirs of Huai Jorakhemak in Burirum. The monitoring result showed Sarus Cranes have survived in the wild. Next year, nine Sarus Cranes were released to natural wetlands, Sanambin Resevoir in Burirum.

At Chiangmai Zoo, we have displayed 2 species of cranes as Sarus Crane and Grey Crowned Crane.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นกกระเรียนไทยตะวันออกนกกระเรียนไทยตะวันออกเป็น 1 ใน 15 ชนิดของสัตว์ป่าอนุรักษ์และคุ้มครองตามพระราชบัญญัติของพระราชบัญญัติ 2535 นกกระเรียนไทยตะวันออกถูกจัดประเภทเป็นสูญพันธุ์ในป่า สำหรับประเทศไทย ล่าสุดนกกระเรียนไทยตะวันออกพบในปีพ.ศ.ใกล้ชายแดนของกัมพูชาความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและมูลนิธินกกระเรียนสากล (ICF) ได้ทำงานร่วมกันบนเครนวัฏจักรโครงการ (กรัม a. sharpii) เริ่มต้นในพ.ศ. 2525 ในพ.ศ. 2527, ICF ส่งลูกไก่หก แต่คนตาย ในเดือนสิงหาคมพ.ศ. 2532, ICF ให้อีกลูกไก่ 6 ทั้งหมดที่ผลิตภัณฑ์ที่ศูนย์วิจัยพันธุ์บาง โครงการได้จัดเตรียมพันธุ์หุ้นจากคนอื่นมาเนื่องจากพวกเขาไม่เพียงพอ ภายหลัง ระหว่างพ.ศ. 2532-2540 สวนสัตว์โคราชรับจำนวนลูกไก่จากคนของชายแดนไทย-ลาวกัมพูชาเพื่อโครงการติดต่อสวนสัตว์โคราชสำหรับแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันสวนสัตว์โคราชเป็นศูนย์เพาะพันธุ์นกกระเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พันธุ์ธรรมชาติและกองผสมเทียมได้ใช้ในการสืบพันธุ์ตั้งแต่พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน สวนสัตว์โคราชเริ่มทำกุมกับเครน 26 จนกระทั่งในเดือนมิถุนายนพ.ศ. 2552 มีเครนมากกว่า 100 สวนสัตว์เปิดเขาเขียวและศูนย์วิจัยการผสมพันธุ์นกน้ำบางยังความสำเร็จในการทำมากกว่า 50 เครน สวนสัตว์ได้เน้นวัฏจักรของเครนเข้าป่าในพื้นที่ที่ 6 พื้นที่บึงโขงยาวไม่ล่าสัตว์ Bong Khai ไม่ล่าสัตว์บริเวณ พื้นที่บึงบอระเพ็ดไม่ล่าสัตว์ ห้วยตลาดอ่างเก็บน้ำ และพื้นที่ห้วย Jorakhemak อ่างเก็บน้ำไม่ล่าสัตว์ ตั้งไม่ล่าสัตว์บางพระอินเตอร์ และภูเขียวสัตว์ เดิม ในพ.ศ. 2540 ไทยออก 3 ผลิตภัณฑ์จำเลยเครนกลับสู่ธรรมชาติที่ทุ่งคามุง แต่ไม่ประสบความสำเร็จในปีพ.ศ. 2554 ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม นกกระเรียนวัฏจักรโครงการไทยและสวนสัตว์นครราชสีมานครศรีมีออก 10 เครน sarus อายุระหว่าง 5 – 8 เดือนกลับสู่ธรรมชาติที่อ่างเก็บน้ำห้วย Jorakhemak ในบุรีรัมย์ ผลการตรวจสอบพบว่า เครน Sarus มีชีวิตรอดในป่า ปีถัดไป เครน Sarus เก้าได้ออกไปพื้นที่ชุ่มน้ำธรรมชาติ แพสนามบินในบุรีรัมย์ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เรามีแสดงพันธุ์ 2 เครนนกกระเรียนและนกกระเรียนมงกุฎเทา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาคตะวันออก Sarus Crane ตะวันออก Sarus Crane เป็น 1 ใน 15 ชนิดของพระราชบัญญัติการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ภาคตะวันออก Sarus Crane จัดเป็นสายพันธุ์สูญพันธุ์ในป่า สำหรับประเทศไทยที่ผ่านมาทางทิศตะวันออก Sarus Crane ก็พบว่าในปี พ.ศ. 2511 ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่ชายแดนของกัมพูชา. ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและมูลนิธิเครนอินเตอร์เนชั่นแนล (ICF) ได้ทำงานร่วมกันในโครงการประกอบเครน (G. . sharpii) เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2525 ใน พ.ศ. 2527, ICF ส่งหกลูกไก่ แต่คนตาย ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2532, ICF ให้อีกหกลูกไก่ทั้งหมดได้รับการเลี้ยงดูที่บางพระศูนย์วิจัยพันธุ์ โครงการได้จัดให้มีพันธุ์จากแหล่งอื่น ๆ เพราะพวกเขาก็ไม่มากพอ ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2532-2540, สวนสัตว์โคราชได้รับจำนวนลูกไก่จากคนไทยลาวกัมพูชาเพื่อให้โครงการติดต่อสวนสัตว์โคราชสำหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนอื่น ๆ . สวนสัตว์โคราชเป็นเครนศูนย์เพาะพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทั้งการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติและผสมเทียมถูกนำมาใช้ในการทำซ้ำตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน สวนสัตว์โคราชเริ่มต้นทำซ้ำในกรงกับ 26 รถเครนจนกระทั่งในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2552 มีมากกว่า 100 เครน เปิดเขาเขียวสวนสัตว์และนกน้ำบางพระศูนย์วิจัยพันธุ์นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการทำซ้ำมากกว่า 50 เครน สวนสัตว์ได้มุ่งเน้นในการประกอบรถเครนเข้าไปในป่าใน 6 พื้นที่เช่นบึงโขงหลงเขตห้ามล่าสัตว์, บงคายเขตห้ามล่าสัตว์บึงบอระเพ็ดเขตห้ามล่าสัตว์, อ่างเก็บน้ำห้วยตลาดและห้วย Jorakhemak อ่างเก็บน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ . บางพระเขตห้ามล่าสัตว์และการภูเขียวสัตว์ป่าสงวนเดิมใน พ.ศ. 2540 ประเทศไทยสามปล่อยรถเครนเชลยเลี้ยงกลับคืนสู่ธรรมชาติที่ตุงกา Mung แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จ. ใน พ.ศ. 2554 ในระหว่างมีนาคม-พฤษภาคม, Sarus เครนประกอบโครงการประเทศไทยและสวนสัตว์นครราชสีมาได้ออก 10 อายุเครนกระเรียนระหว่าง 5-8 เดือนกลับสู่ธรรมชาติที่อ่างเก็บน้ำห้วย Jorakhemak ในบุรีรัมย์ ผลการตรวจสอบพบว่ามีรถเครน Sarus มีชีวิตรอดในป่า ปีถัดไปเก้าเครน Sarus ถูกปล่อยให้พื้นที่ชุ่มน้ำธรรมชาติสนามบิน Resevoir ในบุรีรัมย์. ที่สวนสัตว์เชียงใหม่เรามีการแสดง 2 สายพันธุ์ของเครนเป็น Sarus เครนและนกกระเรียนมงกุฎเทา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตะวันออกตะวันออกนกกระเรียนไทยนกกระเรียนเป็น 1 ใน 15 ชนิดของการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ตะวันออกนกกระเรียนไทยจัดเป็นสปีชีส์ที่สูญพันธุ์ในป่า สำหรับประเทศไทย ล่าสุดตะวันออกนกกระเรียนไทยถูกพบในพ.ศ. 2511 ใกล้ชายแดนกัมพูชา .

ความร่วมมือระหว่างไทยและมูลนิธินกกระเรียนสากล ( ICF ) ได้ทำงานร่วมกันบนเครนฯโครงการ ( G . A . sharpii ) ตั้งแต่ พ.ศ. 2525 . ใน พ.ศ. 2527 ICF ได้ส่ง 6 ตัว แต่ตายไปแล้ว ในเดือนสิงหาคมพ.ศ. 2532 ICF ให้อีก 6 , ลูกไก่ , ทั้งหมดที่เลี้ยงในบางพระพันธุ์ ศูนย์วิจัยโครงการมีพันธุ์สัตว์จากแหล่งอื่น ๆเพราะพวกเขามีไม่เพียงพอ ต่อมาใน พ.ศ. 2532-2540 โคราชสวนสัตว์ได้รับหมายเลขของลูกไก่ จากไทย ลาว กัมพูชา ชายแดน เพื่อให้คนโครงการติดต่อโคราชสวนสัตว์ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับแต่ละอื่น ๆ .

สวนสัตว์โคราชเป็นเครนศูนย์พันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในไทยทั้งพันธุ์ธรรมชาติที่ใช้ในการสืบพันธุ์และการผสมเทียม ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน สวนสัตว์โคราชเริ่มการทำซ้ำในการเป็นเชลย ด้วยปั้นจั่น จนกระทั่งในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2552 26 มีมากกว่า 100 งานเครน สวนสัตว์เปิดเขาเขียวบางพระน้ำ ศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์นกยังประสบความสำเร็จในการผลิตมากกว่า 50 งานเครนสวนสัตว์ได้เน้นการคืนรถเครนเข้าไปในป่าใน 6 พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง บง จังหวัดหนองคาย เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด , เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด และห้วย jorakhemak , เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำบางพระ , เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และสงวนสัตว์ป่าภูเขียว .

เดิม ในปี พ.ศ. 2540ประเทศไทยเปิดตัวสามของเชลยที่เลี้ยงนกกระเรียนกลับคืนสู่ธรรมชาติที่ทุ่งกะมัง แต่มันก็ไม่สำเร็จ
ในพ.ศ. 2554 ในช่วงเดือนมีนาคม–พฤษภาคม นกกระเรียนไทยคืนสู่ธรรมชาติ โครงการ ประเทศไทย และ สวนสัตว์นครราชสีมาได้ออกอายุ 10 sarus cranes ระหว่าง 5 – 8 เดือน กลับสู่ธรรมชาติ ที่อ่างเก็บน้ำห้วย jorakhemak ในบุรีรัมย์การติดตามผล sarus เครนรอดในป่า ปีถัดไป , เก้าปั้นจั่น sarus ถูกปล่อยออกมาเพื่อชายเลนธรรมชาติ สนามบิน resevoir ในบุรีรัมย์

ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เราได้แสดง 2 ชนิดปั้นจั่นเป็นแกนสมมาตร และนกกระเรียนมงกุฎเทา .