Blue mussels (Mytilus edulis) that

Blue mussels (Mytilus edulis) that are cultivated in themarine area around Prince Edward Island, Eastern Canada,
are susceptible to the heavy biofouling of their shells by an invasive solitary tunicate, Styela clava, which rapidly
proliferates. To mitigate this issue, mussel farmers periodically lift the longlines on which the mussels are
suspended out of the water to spray a highly alkaline (~12.7 pH units) calcium hydroxide solution onto fouled
individuals. Here, we tested the hypothesis that calcium hydroxide exerts behavioural stress on mussels and
other bivalves. Field surveys revealed that the alkalinity of the seawater in the vicinity of longlines increased
(9.3–11.7 pH units) immediately after treated mussel sleeves were returned into the water column. Thereafter,
pH values declined rapidly, and met federal water quality guidelines (7.0–8.7 pH units) within 3.1 ± 0.5 min
(range 0.3–10.5 min, n = 31 sleeves). Cultivated mussels challenged to both emersion and calcium hydroxide
closed their valves for 14.0±3.3 min (n=18) compared to 6.5±1.6min (n=17) by controlmussels (emersion
only). We subsequently assessed how three benthic bivalve species (M. edulis, Crassostrea virginica (eastern oyster)
and Argopecten irradians (bay scallop)) respond to weak (pH ≤ 9.2) but sustained (3-h daily for 3 days) alkalinity
conditions. All three species consistently responded by completely or partially closing their valves.
However, all behavioural responses were short-lived (0.2–4.7 h), and were generally confined to the treatment
period. In conclusion, spraying calcium hydroxide onto cultivated mussels has limited impact on seawater alkalinity
and the behaviour of nearby bivalves.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หอยแมลงภู่สีน้ำเงิน (Mytilus เปรี้ยว) ที่ปลูกในพื้นที่ themarine รอบปรินซ์เอ็ดเวิร์ดไอส์แลนด์ แคนาดาตะวันออกbiofouling หนักของเปลือกโดยการรุกรานโดดเดี่ยว tunicate, Styela clava ที่เป็นที่อย่างรวดเร็วproliferates เพื่อบรรเทาปัญหานี้ เกษตรกรหอยเป็นระยะ ๆ ยก longlines ซึ่งมีในหอยแมลงภู่ลอยจากน้ำพ่นแบบอัลคาไลน์สูงถูกชนโซลูชันแคลเซียมไฮดรอกไซด์ (หน่วย pH ~12.7) ลงบนบุคคล ที่นี่ เราทดสอบสมมติฐานว่าแคลเซียมไฮดรอกไซด์ออกแรงความเครียดพฤติกรรมบนหอยแมลงภู่ และอื่น ๆ แยก ฟิลด์การสำรวจเปิดเผยว่า สภาพด่างของน้ำทะเลใกล้ longlines เพิ่มขึ้น(หน่วย pH 9.3 – 11.7) ทันทีหลังจากรักษาหอยแขนถูกส่งกลับลงในคอลัมน์น้ำ หลังจากนั้นค่า pH ลดลงอย่างรวดเร็ว และตามแนวทางคุณภาพน้ำของรัฐบาลกลาง (หน่วย pH 7.0-8.7) ภายใน 3.1 ± 0.5 นาที(นาทีช่วง 0.3 – 10.5, n =แขน 31) หอยแมลงภู่ปลูกที่ท้าทายทั้ง emersion และแคลเซียมไฮดรอกไซด์ปิดของวาล์ว 14.0±3.3 นาที (n = 18) เมื่อเทียบกับ 6.5±1.6 นาที (n = 17) โดย controlmussels (emersionเท่านั้น) เรามาประเมินสามวิธีหน้าดินสามารถสายพันธุ์ (M. เปรี้ยว Crassostrea virginica (หอยนางรมตะวันออก)และ Argopecten irradians (อ่าวหอยเชลล์)) ตอบ (pH ≤ 9.2) อ่อนแอแต่อย่างยั่งยืน (3-h ทุกวัน 3 วัน) สภาพด่างเงื่อนไข ทั้งสามสายพันธุ์ตอบสนอง โดยสมบูรณ์ หรือบางส่วนปิดวาล์วของพวกเขาอย่างสม่ำเสมออย่างไรก็ตาม การตอบสนองพฤติกรรมทั้งหมดถูกช่วงสั้น ๆ (0.2 – 4.7 h), และโดยทั่วไปถูกจำกัดในการรักษารอบระยะเวลา ในบทสรุป พ่นแคลเซียมไฮดรอกไซด์ลงบนหอยแมลงภู่ปลูกได้จำกัดผลกระทบต่อสภาพด่างของน้ำทะเลและพฤติกรรมของการแยกที่อยู่ใกล้เคียง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หอยแมลงภู่สีน้ำเงิน (Mytilus edulis) ที่มีการเพาะปลูกในพื้นที่ themarine รอบปรินซ์เอ็ดเวิร์ดไอแลนด์ตะวันออกแคนาดา
มีความอ่อนไหวต่อไป biofouling หนักของเปลือกหอยของพวกเขาโดย tunicate โดดเดี่ยวรุกราน Styela Clava ซึ่งอย่างรวดเร็ว
proliferates เพื่อบรรเทาปัญหานี้เกษตรกรเลี้ยงหอยแมลงภู่ระยะยก longlines ที่หอยที่มีการ
ระงับการออกจากน้ำสเปรย์ด่างสูง (~ 12.7 หน่วยค่า pH) สารละลายแคลเซียมไฮดรอกไซสู่ทำฟาวล์ต่อ
บุคคล ที่นี่เราทดสอบสมมติฐานว่าแคลเซียมไฮดรอกไซออกแรงความเครียดพฤติกรรมหอยแมลงภู่และ
หอยอื่น ๆ สำรวจภาคสนามเปิดเผยว่าความเป็นด่างของน้ำทะเลในบริเวณใกล้เคียงของ longlines ที่เพิ่มขึ้น
(9.3-11.7 หน่วยค่า pH) ทันทีหลังจากได้รับการรักษาแขนหอยแมลงภู่ถูกส่งกลับมาลงในคอลัมน์น้ำ หลังจากนั้นเป็นต้นมา
ค่าพีเอชลดลงอย่างรวดเร็วและคุณภาพตามหลักเกณฑ์คุณภาพน้ำของรัฐบาลกลาง (หน่วย 7.0-8.7 ค่า pH) ภายใน 3.1 ± 0.5 นาที
(ช่วง 0.3-10.5 นาที, n = 31 แขน) หอยแมลงภู่ที่ปลูกท้าทายทั้ง emersion และแคลเซียมไฮดรอกไซ
ปิดวาล์วของพวกเขาสำหรับ 14.0 ± 3.3 นาที (n = 18) เมื่อเทียบกับ 6.5 ± 1.6min (n = 17) โดย controlmussels (emersion
เท่านั้น) ต่อมาจึงได้มีการประเมินว่าสามชนิดหอยหน้าดิน (เอ็ม edulis, Crassostrea เวอร์ (หอยนางรมตะวันออก)
และ irradians Argopecten (อ่าวหอยเชลล์)) ตอบสนองต่อความอ่อนแอ (pH ≤ 9.2) แต่อย่างยั่งยืน (3 ชั่วโมงทุกวันเป็นเวลา 3 วัน) ด่าง
เงื่อนไข ทั้งสามสายพันธุ์ที่ตอบสนองอย่างต่อเนื่องโดยสมบูรณ์หรือบางส่วนปิดวาล์วของพวกเขา.
แต่พฤติกรรมตอบสนองทุกคนอายุสั้น (0.2-4.7 H) และถูกกักขังอยู่โดยทั่วไปในการรักษา
ระยะเวลา สรุปได้ว่าการฉีดพ่นแคลเซียมไฮดรอกไซบนหอยเพาะปลูกที่มีผลกระทบ จำกัด ในน้ำทะเลด่าง
และพฤติกรรมของหอยในบริเวณใกล้เคียง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หอยแมลงภู่สีน้ำเงิน ( mytilus ชินี ) ที่ปลูกในพื้นที่รอบเกาะเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด themarine ทางตะวันออกของแคนาดาจะเสี่ยงต่อการ biofouling หนักของเปลือกของพวกเขาโดยการรุกราน styela เพรียงหัวหอม สันโดษ clava ซึ่งอย่างรวดเร็วproliferates . เพื่อลดปัญหานี้ เกษตรกรหอยแมลงภู่ เป็นระยะ ๆ ยก longlines ที่หอยังระงับจากน้ำพ่นเป็นด่างสูง ( ~ สำหรับหน่วย pH ) สารละลายแคลเซียมไฮดรอกไซด์ สิ่งสกปรกบนบุคคล ที่นี่ เราทดสอบสมมติฐานที่ว่า แคลเซียมไฮดรอกไซด์ สร้างความเครียดและพฤติกรรมในหอยแมลงภู่น้ำอื่น ๆ การสำรวจภาคสนามพบว่า ความเป็นด่างของน้ำทะเลในบริเวณ longlines เพิ่มขึ้น( 9.3 ) 11.7 Ph หน่วย ) ทันทีหลังจากเลี้ยงหอยแมลงภู่แขนกลับลงไปในคอลัมน์ หลังจากนั้นค่า pH จะลดลงอย่างรวดเร็ว และพบแนวทางคุณภาพน้ำของรัฐบาลกลาง ( 7.0 และ pH 8.7 หน่วย ) ภายใน 3.1 ± 0.5 นาที( ช่วง 0.3 - 10.5 นาที , n = 31 แขน ) เลี้ยงหอยแมลงภู่ ท้าทายทั้งการปรากฏออกมาและแคลเซียมโซดาไฟปิดวาล์วของ 14.0 ± 3.3 นาที ( n = 18 ) เมื่อเทียบกับไตรมาส± 1.6min ( n = 16 ) โดย controlmussels ( การปรากฏออกมาเท่านั้น ) เราสามารถประเมินวิธีการที่มีสัตว์ 3 ชนิด ( ม. ชินีกรามดำ Crassostrea เทน เวอร์จินิกา ( หอยนางรมตะวันออก )และ argopecten irradians ( อ่าวเชลล์ ) ตอบสนองต่ออ่อน ( pH ≤ 9.2 ) แต่ยั่งยืน ( 3-h ทุกวันเป็นเวลา 3 วัน ) ด่างเงื่อนไข ทั้งสามชนิด อย่าง ตอบโดยสมบูรณ์หรือบางส่วนปิดวาล์วของอย่างไรก็ตาม การตอบสนองทางพฤติกรรมทั้งหมดที่สั้น ( 0.2 - 1 H ) และโดยทั่วไปคับ เพื่อการรักษาระยะเวลา สรุป การฉีดพ่นแคลเซียมโซดาไฟลงเลี้ยงหอยแมลงภู่ จะมีผลกระทบจำกัดต่อด่าง น้ำทะเลและพฤติกรรมของน้ำในบริเวณใกล้เคียง