In addition to a significant histor

In addition to a significant historical site, Wat Phra Ram is commonly known among Ayutthaya residents as a recreational area. There is a large-scale swamp located in front of the temple. It is named Bung Phra Ram Public Park, or formerly called Nong Sano or Bung Che Khan as stated in the Monarch Law. When the city of Ayutthaya was established, soil under the swamp has been dug out to raise the foundation grade of the temple. The size of the swamp is thus enormous. Phra Ramesuan ordered the construction of the temple in 1369 at his father’s cremation site. However the completion actually took place during the reign of Somdet Phra Borommaracha I (Phra Chao U-thong), so the temple was named after the king.

The temple stands outside the royal court complex to the East and is opposite the assembly hall of Wat Phra Mongkhon Bophit. Its current location is Pratu Chai subdistrict, Phra Nakorn Si Ayutthaya (Krung Kao) district. The arrangement forms a quincunx where the main Prang (Khmer-influenced stupa) is in the middle. The Prang sits on a massive square platform with arch facades on its west. Its 4 corners are surrounded by Himmaphan mythical creatures. Observational remarks made by archeologists on the architecture of the temple are that the Northern temple wall overlaps with the Eastern, Western and Southern ones; and that the arch facade in the West is proportional to the Northwestern cloister of the Prang, while the Northwestern cloister does not even have any arch facade. The architecture of the temple remains mysterious whether such arrangement was intentionally meant to serve some purposes. The debris found in Wat Phra Ram include the Prang, temple walls, pillars inside the ordination hall, 7 assembly halls, assorted sizes of 28 pagodas dotting around the Prang. Even though the temple is in ruin, its eternal charm still portrays the glorious history of Thais. The temple is open to visitors from 8.00 to 18.00 and after hours with spotlights from 19.30 to 21.00. The admission fee is 10 baht for Thais and 40 baht for foreigners.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นอกจากโบราณสถานสำคัญ วัดพระรามเรียกกันในหมู่ชาวอยุธยาว่ามีพื้นที่นันทนาการ มีบึงขนาดใหญ่อยู่หน้าวัด มันเป็นชื่อสวนสาธารณะบึงพระราม หรือเดิม เรียกว่าซาโนะหนองหรือบึง Che คานตามที่ระบุในกฎหมายพระมหากษัตริย์ เมื่อก่อตั้งเมืองอยุธยา ดินใต้บึงนี้มีการขุดออกยกระดับรากฐานของวัด ขนาดของป่าพรุจึงมหาศาล พระราเมศวรสั่งการก่อสร้างวัดใน 1369 ที่เผาศพของพ่อของเขา แต่สำเร็จจริงครั้ง วางในรัชสมัยของสมเด็จพระ Borommaracha ฉัน (พระเจ้าอู่ทอง), ดังนั้นชื่อว่าวัดหลังจากกษัตริย์ วัดยืนรอยัลคอร์ทซับซ้อนนอกไปทางทิศตะวันออก และอยู่ตรงข้ามกับแอสเซมบลีฮอลล์ของวัดพระมงคลบพิตร ตำแหน่งปัจจุบันคือ ตำบลประตูชัย เขตพระนครอยุธยา (กรุงเก่า) การจัดรูปแบบเป็น quincunx ปรางค์ (เจดีย์ที่รับอิทธิพลเขมร) อยู่ตรงกลาง ปรางค์ตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มตารางใหญ่พร้อมอาคารซุ้มทางด้านตะวันตก 4 มุมล้อมรอบ ด้วยสัตว์ในตำนานหิมพานต์ หมายเหตุสังเกตโดยนักโบราณคดีสถาปัตยกรรมของวัดอยู่ที่ผนังเหนือวัดทับซ้อนกับคนตะวันออก ตะวันตก และภาคใต้ และที่ด้านหน้าซุ้มประตูทิศตะวันตกเป็นสัดส่วนกับงามมากกว่าตะวันตกเฉียงเหนือของปรางค์ ในขณะที่ทุนตะวันตกเฉียงเหนือไม่ค่อยมีซุ้มทุกซุ้ม สถาปัตยกรรมของวัดยังคงลึกลับว่าดังกล่าวจัดโดยเจตนาหมายถึงวัตถุประสงค์บางอย่าง เศษขยะที่พบในวัดพระรามได้แก่ปรางค์ วัดกำแพง เสาบวชฮอลล์ ห้องประชุม 7, 28 เจดีย์กระจายอยู่ทั่วรอบปรางค์การคละขนาด แม้ว่าพระวิหารอยู่ในซากปรักหักพัง เสน่ห์นิรันดร์ยังคง portrays ประวัติอันรุ่งโรจน์ของคนไทย วัดจะเปิดให้เข้าชม 8.00-18.00 น. และ หลังเวลามีไฟสปอตไลท์จาก 19.30-21.00 ค่าเข้าชม 10 บาท สำหรับคนไทยและ 40 บาท สำหรับชาวต่างชาติได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญวัดพระรามที่รู้จักกันทั่วไปในหมู่ประชาชนอยุธยาเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีบึงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัด มันเป็นชื่อบึงพระรามสวนสาธารณะหรือเดิมเรียกว่าหนองโสนหรือบึง Che ข่านตามที่ระบุไว้ในกฎหมายพระมหากษัตริย์ เมื่อเมืองอยุธยาก่อตั้งขึ้นภายใต้ดินป่าพรุได้รับการขุดออกมาเพื่อยกระดับชั้นประถมศึกษาปีมูลนิธิของวัด ขนาดของป่าพรุเป็นอย่างมากจึง พระราเมศวรสั่งการก่อสร้างของวัดใน 1369 ที่เว็บไซต์พระราชทานเพลิงศพของบิดาของเขา แต่งานที่ทำเสร็จจริงที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระ Borommaracha ฉัน (พระเจ้าอู่ทอง) เพื่อวัดถูกตั้งชื่อตามกษัตริย์.

วัดยืนอยู่นอกศาลที่ซับซ้อนพระราชตะวันออกและอยู่ตรงข้ามศาลากลางชุมนุมของวัด พระมงคลบพิตร ตำแหน่งปัจจุบันของมันคือประตูชัยตำบลพระนครศรีอยุธยา (กรุงเก่า) อำเภอ การจัดรูปแบบที่ quincunx ปรางค์ประธาน (เขมรอิทธิพลเจดีย์) เป็นที่อยู่ตรงกลาง ปรางค์ตั้งอยู่บนตารางแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่มีอาคารซุ้มประตูทางทิศตะวันตกของ 4 มุมของมันจะถูกล้อมรอบไปด้วยสัตว์ในตำนานหิมพานต์ หมายเหตุการสังเกตที่ทำโดยนักโบราณคดีสถาปัตยกรรมของวัดที่ผนังวัดภาคเหนือคาบเกี่ยวกับตะวันออกตะวันตกและภาคใต้คน; และที่ซุ้มโค้งในเวสต์เป็นสัดส่วนกับกุฏิทิศตะวันตกเฉียงเหนือของปรางค์ขณะที่กุฏิทิศตะวันตกเฉียงเหนือไม่ได้มีซุ้มโค้งใด ๆ สถาปัตยกรรมของวัดที่ยังคงลึกลับไม่ว่าจะเป็นการจัดดังกล่าวก็หมายความว่าจงใจที่จะตอบสนองวัตถุประสงค์บางอย่าง เศษซากที่พบในวัดพระราม ได้แก่ ปรางค์ผนังวัดเสาภายในอุโบสถ 7 ห้องโถงประกอบการขนาดสารพัน 28 เจดีย์แต่งแต้มรอบพระปรางค์ แม้ว่าพระวิหารอยู่ในซากปรักหักพังเสน่ห์นิรันดร์ยังคงรับบทเป็นประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของคนไทย เป็นวัดที่เปิดให้เข้าชม 8.00-18.00 และหลังชั่วโมงกับไฟสปอร์ตไลท์ 19.30-21.00 ค่าธรรมเนียมค่าเข้าชม 10 บาทสำหรับชาวไทยและ 40 บาทสำหรับชาวต่างชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอกจากนี้ ทางด้านโบราณสถาน วัดพระราม เป็นที่รู้จักของชาวอยุธยา เช่น พื้นที่นันทนาการ มีบึงขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าวัด มันเป็นชื่อบึงพระราม สวนสาธารณะ หรือชื่อเดิมว่าซาโนะ หนองหรือบึงเชข่าน ตามที่ระบุไว้ในกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ . เมื่อเมืองอยุธยาก่อตั้งภายใต้บึงมีการขุดดินออกเพื่อเพิ่มเกรดของมูลนิธิวัด ขนาดของบึงจึงมหาศาล พระกรุงศรีอยุธยา สั่งให้สร้างวัดใน 810 ที่เว็บไซต์เผาศพของบิดาของเขา อย่างไรก็ตาม ความจริงที่เกิดขึ้นระหว่างรัชสมัยของสมเด็จพระ borommaracha ฉัน ( พระเจ้าอู่ทอง ) ดังนั้นวัดที่ถูกตั้งชื่อตามกษัตริย์วัดตั้งอยู่นอกราชสำนักซับซ้อนไปตะวันออก และอยู่ตรงข้ามกับท้องพระโรงของวัด พระมงคลพิตร . ตำแหน่งปัจจุบันคือ ประตูชัย ตำบล พระนครศรีอยุธยา ( กรุงเก่า ) ตำบล การจัดเรียงรูปแบบ quincunx ที่ปรางค์หลัก ( เขมรได้รับอิทธิพลเจดีย์ ) อยู่ตรงกลาง พระปรางค์ตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีซุ้ม facades ของตะวันตก ของ 4 มุมถูกล้อมรอบด้วยมะม่วงหิมพานต์สัตว์ในตำนาน หมายเหตุ สังเกตโดยนักโบราณคดีบนสถาปัตยกรรมของวัดที่ตอนเหนือของกำแพงวัดทับซ้อนกับตะวันออกที่ตะวันตกและภาคใต้ ที่ซุ้มประตูและซุ้มทางทิศตะวันตกเป็นปฏิภาคกับระเบียงทางทิศตะวันตกของพระปรางค์ ส่วนระเบียงทิศตะวันตกเฉียงเหนือไม่ได้มีโค้งซุ้ม . สถาปัตยกรรมของวัดยังคงลึกลับว่า อาทิ ตั้งใจอยากให้มีวัตถุประสงค์ เศษซากที่พบในวัดพระราม ได้แก่ พระปรางค์ ผนังวิหาร เสาภายในพระอุโบสถวัดพระแก้ว 7 ห้องโถงประกอบ ขนาดคละของ 28 เจดีย์ dotting รอบปรางค์ . แม้ว่าจะเป็นวัดในทำลายเสน่ห์ของนิรันดร์ยังสะท้อนประวัติศาสตร์รุ่งโรจน์ของคนไทย วัดจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 8.00 ถึง 18.00 และหลังจากชั่วโมงกับสปอร์ตไลท์จาก 19.30 ถึง 21.00 น. ค่าผ่านประตู 10 บาทสำหรับคนไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ