. An investigation plan is develope

. An investigation plan is developed for each investigation.
1) The lead investigator determines the knowledge, skills, and other competencies needed.
2) The process includes obtaining assurance that no potential conflict of interest exists with those investigated or any employees of the organization.
3) Planning should consider the following;
a) Gathering evidence using surveillance. Interviews, or written statements
b) Documenting and preserving evidence, the legal rules of evidence, and the business uses of the evidence
c) Determining the extent of the fraud
d) Determining the methods used to perpetrate the fraud
e) Evaluating the methods used to perpetrate the fraud
f) Identifying the perpetrators
4) The investigation should be coordinated with management, legal counsel, and other specialists.
5) Investigators need to be prudent, consistent, and knowledgeable of the rights of persons within the scope of the investigation and the reputation of the organization itself.
6) The level and extent of complicity in the fraud throughout the organization needs to be assessed. This assessment can be critical to avoid (a) destroying or tainting crucial evidence and (b) obtaining misleading information from persons who may be involved.
7) The investigation needs to secure evidence collected and follow chain-of-custody procedures.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

. แผนการตรวจสอบคือพัฒนาเพื่อการตรวจสอบแต่ละเอกชนรอคอย 1 กำหนดความรู้ ทักษะ และความสามารถอื่น ๆ ที่จำเป็น2) การรวมถึงได้รับการรับรองว่า ไม่เกิดประโยชน์มีอยู่กับผู้ตรวจสอบหรือพนักงานคนใด ๆ ขององค์กร3) การวางแผนควรพิจารณาดังต่อไปนี้) หลักฐานรวบรวมที่ใช้เฝ้าระวัง สัมภาษณ์ หรือคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรขเอกสาร และรักษาหลักฐาน กฎทางกฎหมายหลักฐาน และธุรกิจที่ใช้หลักฐานค) กำหนดขอบเขตของการทุจริตd) กำหนดวิธีการใช้ perpetrate การทุจริตอี) ประเมินวิธีการใช้ perpetrate การทุจริตf) ระบุความผิดที่4) การสอบสวนควรประสานงานการจัดการ กฎหมาย และผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ5) นักสืบจำเป็นต้องระมัดระวัง สอดคล้อง และรู้สิทธิของบุคคลภายในขอบเขตของการสอบสวนและชื่อเสียงขององค์กรตัวเอง6 ระดับและขอบเขตของการเข้าไปในการทุจริตทั่วองค์กร)ต้องได้รับการประเมิน แบบประเมินนี้สามารถสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงข้อมูล (ข) ได้รับความเข้าใจผิดจากบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องและหลักฐานที่สำคัญ (ก) ทิ้ง หรือ tainting7) การสอบสวนต้องรวบรวมหลักฐานรักษาความปลอดภัย และปฏิบัติตามขั้นตอนของห่วงโซ่ของบุตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

. แผนการตรวจสอบได้รับการพัฒนาสำหรับการตรวจสอบแต่ละ.
1) ตรวจสอบนำกำหนดความรู้ทักษะและความสามารถอื่น ๆ ที่จำเป็น.
2) ขั้นตอนรวมถึงการได้รับความเชื่อมั่นว่าไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่มีอยู่กับผู้ตรวจสอบหรือพนักงานใด ๆ ขององค์กร.
3 )
การวางแผนควรพิจารณาดังต่อไปนี้ก) รวบรวมหลักฐานโดยใช้การเฝ้าระวัง สัมภาษณ์หรืองบเขียนข) เอกสารและการรักษาหลักฐานกฎตามกฎหมายของหลักฐานและธุรกิจใช้หลักฐานค) การกำหนดขอบเขตของการทุจริตที่ง) กำหนดวิธีการที่ใช้ในการกระทำผิดการทุจริตจ) การประเมินวิธีการที่ใช้ในการ กระทำผิดทุจริตฉ) ระบุการกระทำผิด4) การตรวจสอบควรมีการประสานงานกับผู้บริหารที่ปรึกษากฎหมายและผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ . 5) นักวิจัยจะต้องระมัดระวังที่สอดคล้องกันและมีความรู้สิทธิของบุคคลที่อยู่ในขอบเขตของการตรวจสอบและการ ชื่อเสียงขององค์กรตัวเอง. 6) ระดับและขอบเขตของความคิดในการฉ้อโกงทั่วทั้งองค์กรจะต้องมีการประเมิน การประเมินนี้จะมีความสำคัญต่อการหลีกเลี่ยงการ (ก) การทำลายหรือ tainting หลักฐานที่สำคัญและ (ข) การได้รับข้อมูลที่ผิดจากบุคคลที่อาจจะเกี่ยวข้องกับ. 7) การตรวจสอบความต้องการที่จะรักษาความปลอดภัยหลักฐานที่เก็บรวบรวมและปฏิบัติตามขั้นตอนของห่วงโซ่ของการดูแล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

. การศึกษาแผนการพัฒนาสำหรับแต่ละการตรวจสอบ .
1 ) หัวหน้าหน่วยสืบสวนกำหนดความรู้ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นอื่น ๆ .
2 ) กระบวนการรวมถึงการได้รับการรับรองว่าไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่มีอยู่กับผู้ศึกษา หรือพนักงานขององค์กร .
3 ) การวางแผน ควรพิจารณาดังต่อไปนี้ ;
) รวบรวม หลักฐานการใช้กล้องวงจรปิด สัมภาษณ์หรือเขียนข้อความ
b ) เอกสารและการเก็บรักษาหลักฐาน , กฎของหลักฐานทางกฎหมายและธุรกิจที่ใช้หลักฐาน
c ) การกำหนดขอบเขตของการฉ้อโกง
d ) กำหนดวิธีการที่ใช้ในการกระทําการทุจริต
E ) การประเมินวิธีการที่เคยกระทําการทุจริต
F )
4 ) การระบุผู้ การสอบสวนควรประสานงานการจัดการ ที่ปรึกษาทางกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ .
5 ) พนักงานสอบสวนต้องยับยั้งชั่งใจ สอดคล้องกัน และมีความรู้ในสิทธิของบุคคลภายในขอบเขตของการสอบสวน และชื่อเสียงขององค์กร .
6 ) ระดับและขอบเขตของการสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงทั่วทั้งองค์กรต้องประเมินการประเมินนี้สามารถที่สำคัญเพื่อหลีกเลี่ยง ( ) ทำลายหรือทำให้หลักฐานเสียหายที่สำคัญ และ ( ข ) ได้รับข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดจากผู้ที่อาจเกี่ยวข้อง .
7 ) การตรวจสอบความต้องการการรักษาความปลอดภัยหลักฐานตามห่วงโซ่ของกระบวนการดูแล