Additional information and conditio

Additional information and conditions from supplementary sources like the Internet,
relevant books and articles, and most importantly the standard testing procedures of
the American Standard for Testing and Materials (ASTM) were used.
This study was developed to help minimize the problem of the construction industry
regarding the waste management, and material scarcity. The researcher considered these
problems as the main reason for the purpose of this study. In order to come up with the
output of this research, which is a design mixture of crushed concrete debris, various tests
and experiments were made that served as the basis of this study and these are the
following: (a) sieve analysis, (b) ball penetration test, (c) slump test and (d) compression
test.
3.4. Evaluation Procedures
The methods used in this research study proved whether the recycled concrete
debris material is acceptable or not, alternative fine aggregate in a mortar mix.
The compressive strength of mortar is sometimes used as a principal criterion for
selecting mortar type, since compressive strength is relatively easy to measure, and it
commonly relates to some other properties, such as tensile strength and absorption of the
mortar. The compressive strength of mortar depends largely upon the cement content and
the water-cement ratio. The accepted laboratory means for measuring compressive
strength is to test 2 in. cubes of mortar. Because the referenced test in this specification is
relatively simple, and because it gives consistent, reproducible results, compressive
strength is considered a basis for assessing the compatibility of mortar ingredients. Field
testing compressive strength of mortar is accomplished with Test Method C 780 using
either 2 in. cubes or small cylindrical specimens of mortar. Perhaps because of the
previously noted confusion regarding mortar and concrete the importance of compressive
strength of mortar is over-emphasized.
Other mortar characteristics that influence general performance, such as aggregate
grading, water retentivity and flow, can be accurately measured by laboratory tests and
are included in ASTM Standards. Water retentivity allows mortar to resist the suction of
dry masonry units and maintain moisture for proper curing. It is the mortar’s ability to
retain its plasticity in contact with absorptive masonry so that the mason can carefully
align and level the units without breaking the bond.
Under laboratory conditions, water retention is measured by flow tests, and is
expressed as the ratio of initial flow-to-flow suction. The flow test is similar to a concrete
slump test, but is performed on a “flow table” that is rapidly vibrated up and down for
several seconds.
Construction mortars require initial flow values on the order of 130 to 150%.
Laboratory mortars are required to have an initial flow of 100 to 115%. Experienced
masons quickly and accurately adjust the amount of mixing water required to produce
good workability, proper flow, and water retention.
Mortar normally begins to harden or set about 2.5 hours after initial mixing. After this
point, retempering will decrease compressive strength by approximately 25%. ASTM
standards require that all mortar be used within 2.5 hours and permit retempering as
frequently as needed within this time period.
Tests have shown that the decrease in compressive strength is minimal if retempering
occurs only 1 to 2 hours after mixing. Mortar that is not used within 2.5 hours or that has
begun to set should be discarded.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อมูลเพิ่มเติมและเงื่อนไขจากแหล่งเสริมเช่น Internetหนังสือที่เกี่ยวข้อง และบทความ และสำคัญที่สุดคือมาตรฐานของกระบวนการทดสอบสหรัฐอเมริกามาตรฐานการทดสอบและวัสดุ (ASTM) ถูกนำมาใช้การศึกษานี้ได้รับการพัฒนาเพื่อช่วยลดปัญหาของอุตสาหกรรมก่อสร้างเกี่ยวกับการจัดการของเสีย และการขาดแคลนวัสดุ นักวิจัยพิจารณาเหล่านี้ปัญหาเป็นเหตุผลหลักเพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษานี้ เพื่อหาความผลลัพธ์ของการวิจัยครั้งนี้ ซึ่งออกแบบส่วนผสมของเศษคอนกรีตบด การทดสอบต่าง ๆและทำการทดลองที่เป็นพื้นฐานของการศึกษานี้ และมีการต่อไปนี้: (ก) ตะแกรงวิเคราะห์ ทดสอบเจาะ (ข) ลูก ทดสอบตก (c) และ (d) การบีบอัดการทดสอบ3.4. การประเมินผลกระบวนการวิธีการที่ใช้ในการศึกษาวิจัยนี้ได้รับการพิสูจน์ว่าคอนกรีตรีไซเคิลเศษวัสดุที่เป็นที่ยอมรับ หรือ ไม่ รวมดีทางเลือกในการผสมปูนบางครั้งใช้แรงอัดของปูนเป็นเกณฑ์หลักสำหรับเลือกชนิดปูน เนื่องจากแรงอัดจะค่อนข้างง่ายในการวัด และโดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับบางคุณสมบัติอื่น ๆ เช่นความแข็งแรงและการดูดซึมของตัวปูน แรงอัดของปูนขึ้นอยู่กับเนื้อปูนเป็นส่วนใหญ่ และอัตราส่วนน้ำปูนซีเมนต์ ห้องปฏิบัติการยอมรับหมายถึงการวัดแรงอัดความแข็งแรงคือการ ทดสอบก้อน 2 นิ้วของปูน เพราะเป็นการทดสอบอ้างอิงในข้อกำหนดนี้ค่อนข้างง่าย และเนื่อง จากทำให้ผลสอดคล้องกัน จำลอง อัดความแข็งแรงเป็นพื้นฐานสำหรับการประเมินความเข้ากันได้ของส่วนผสมปูน ฟิลด์การทดสอบแรงอัดของปูนสำเร็จ ด้วย 780 C วิธีทดสอบโดยใช้นิ้ว 2 ก้อนหรือชิ้นงานทรงกระบอกเล็กของปูน อาจเนื่องจากการเคยตั้งข้อสังเกตความสับสนเกี่ยวกับปูนและคอนกรีตความสำคัญของการอัดความแข็งแรงของปูนถูกเน้นมากเกินไปลักษณะปูนอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานทั่วไป เช่นรวมคัดเกรด retentivity น้ำ และ ไหล สามารถถูกวัด โดยห้องปฏิบัติการทดสอบ และอยู่ในมาตรฐาน ASTM Retentivity น้ำให้ปูนต้านทานการดูดหน่วยก่ออิฐแห้ง และรักษาความชื้นในการบ่มที่เหมาะสม มันเป็นสามารถของปูนรักษาของปั้นกับก่ออิฐดูดให้ท้องได้อย่างรอบคอบจัดตำแหน่ง และระดับหน่วยโดยไม่ทำลายความผูกพันภายใต้สภาพห้องปฏิบัติการ การกักเก็บน้ำจะถูกวัด โดยการทดสอบการไหล และมีแสดงเป็นอัตราส่วนของกระแสการไหลเริ่มต้นดูด การทดสอบกระแสจะคล้ายกับคอนกรีตเกษตรพาเหรดราคาทดสอบ แต่จะดำเนินการบน "ไหลตาราง" ที่จะสั่นสะเทือนขึ้นและลงสำหรับอย่างรวดเร็วหลายวินาทีก่อสร้างครกต้องการค่ากระแสเริ่มต้นระหว่าง 130 ถึง 150%ครกห้องปฏิบัติการจะต้องมีการไหลเริ่มต้น 100 115% มีประสบการณ์masons อย่างรวด เร็วปรับจำนวนผสมน้ำที่จำเป็นในการผลิตใช้งานง่าย ไหล และการกักเก็บน้ำปูนโดยปกติเริ่มแข็ง หรือตั้งประมาณ 2 ชั่วโมงหลังผสมเริ่มต้น หลังจากนี้จุด retempering จะลดแรงอัดประมาณ 25% มาตรฐาน ASTMกำหนดให้ว่า ใช้ปูนทั้งหมดภายในเวลา 2.5 ชั่วโมงและใบอนุญาต retempering เป็นบ่อยตามความจำเป็นภายในระยะเวลานี้การทดสอบแสดงให้เห็นว่าการลดแรงอัดน้อย retemperingเกิดขึ้นเพียง 1-2 ชั่วโมงหลังผสม ปูนที่ไม่ได้ใช้ภายใน 2.5 ชม. หรือที่มีเริ่มที่จะตั้งควรจะทิ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมจากแหล่งที่มาเสริมเช่น Internet,
หนังสือที่เกี่ยวข้องและบทความและที่สำคัญที่สุดขั้นตอนการทดสอบมาตรฐานของ
มาตรฐานอเมริกันสำหรับการทดสอบและวัสดุ (ASTM) ถูกนำมาใช้.
การศึกษาครั้งนี้ได้รับการพัฒนาเพื่อช่วยลดปัญหาที่เกิดจากอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
เกี่ยวกับการจัดการของเสียและการขาดแคลนวัสดุ ผู้วิจัยพิจารณาเหล่านี้
ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเหตุผลหลักสำหรับวัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อที่จะเกิดขึ้นกับ
การส่งออกของงานวิจัยนี้ซึ่งเป็นส่วนผสมการออกแบบของบดเศษคอนกรีต, การทดสอบต่างๆ
และทดลองทำที่เป็นพื้นฐานของการศึกษานี้และเหล่านี้เป็น
ดังต่อไปนี้ (ก) การวิเคราะห์ตะแกรง (ข ) การทดสอบการเจาะลูก (ค) การทดสอบตกต่ำและ (ง) การบีบอัด
การทดสอบ.
3.4 ขั้นตอนการบริการให้คำปรึกษา
วิธีการที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ได้รับการพิสูจน์ว่าการรีไซเคิลคอนกรีต
วัสดุเศษเป็นที่ยอมรับหรือไม่รวมที่ดีอีกทางเลือกหนึ่งในการผสมปูน.
แรงอัดของปูนบางครั้งใช้เป็นเกณฑ์หลักในการ
เลือกชนิดปูนเนื่องจากแรงอัดเป็น ความง่ายในการวัดและ
ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับบางคุณสมบัติอื่น ๆ เช่นความต้านทานแรงดึงและการดูดซึมของ
ปูน แรงอัดของมอร์ต้าร์ขึ้นอยู่กับเนื้อหาปูนซีเมนต์และ
อัตราส่วนน้ำต่อซีเมนต์ ห้องปฏิบัติการได้รับการยอมรับสำหรับการวัดหมายถึงการอัด
ความแข็งแรงคือการทดสอบ 2. ก้อนปูน เพราะการทดสอบอ้างอิงในข้อกำหนดนี้เป็น
ที่ค่อนข้างง่ายและเพราะมันจะช่วยให้สอดคล้องผลลัพธ์ที่เที่ยงตรง, อัด
ความแข็งแรงถือว่าเป็นพื้นฐานสำหรับการประเมินการทำงานร่วมกันของส่วนผสมปูน สนาม
ทดสอบแรงอัดของปูนทำได้ด้วยวิธีทดสอบ C 780 ใช้
อย่างใดอย่างหนึ่งใน 2. ก้อนหรือชิ้นงานทรงกระบอกเล็ก ๆ ของปูน บางทีอาจเป็นเพราะของ
ก่อนหน้านี้ตั้งข้อสังเกตความสับสนเกี่ยวกับปูนและคอนกรีตความสำคัญของการอัด
ความแข็งแรงของปูนเกินเน้น.
ลักษณะปูนอื่น ๆ ที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานทั่วไปเช่นการรวม
การจัดลำดับ retentivity น้ำและการไหลสามารถวัดได้อย่างถูกต้องโดยการทดสอบในห้องปฏิบัติการและ
มี รวมอยู่ในมาตรฐาน ASTM retentivity น้ำช่วยให้ปูนที่จะต่อต้านการดูดของ
หน่วยการก่ออิฐแห้งและรักษาความชุ่มชื้นที่เหมาะสมสำหรับการบ่ม มันคือความสามารถในปูนที่จะ
รักษาปั้นในการติดต่อกับผนังก่ออิฐดูดซึมเพื่อให้เมสันอย่างรอบคอบสามารถ
จัดและระดับหน่วยโดยไม่ทำลายความผูกพัน.
ภายใต้เงื่อนไขทางห้องปฏิบัติการการกักเก็บน้ำที่วัดโดยทดสอบอัตราการไหลและมีการ
แสดงความเป็นอัตราส่วนของการเริ่มต้น ไหลไปไหลดูด การทดสอบการไหลคล้ายกับคอนกรีต
ทดสอบตกต่ำ แต่จะดำเนินการใน "การไหลของตาราง" ที่มีการสั่นสะเทือนอย่างรวดเร็วขึ้นและลงสำหรับ
หลายวินาที.
ครกก่อสร้างจำเป็นต้องมีค่าการไหลของการเริ่มต้นในการสั่งซื้อของ 130-150%. the
ครกห้องปฏิบัติการจะต้อง ที่จะมีการเริ่มต้นของการไหล 100-115% ประสบการณ์
อิฐได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องปรับปริมาณของน้ำที่จำเป็นในการผลิตผสม
สามารถใช้การได้ดีไหลที่เหมาะสมและการกักเก็บน้ำ.
ปูนปกติเริ่มต้นที่จะแข็งหรือตั้งประมาณ 2.5 ชั่วโมงหลังจากที่เริ่มต้นผสม หลังจากนี้
จุด retempering จะลดแรงอัดโดยประมาณ 25% ASTM
มาตรฐานที่จำเป็นต้องใช้ปูนทั้งหมดจะใช้ภายใน 2.5 ชั่วโมงและอนุญาต retempering เป็น
บ่อยครั้งตามความจำเป็นภายในระยะเวลานี้.
ทดสอบได้แสดงให้เห็นว่าการลดลงของแรงอัดมีน้อยถ้า retempering
เกิดขึ้นเพียง 1 ถึง 2 ชั่วโมงหลังจากผสม ปูนที่ไม่ได้ใช้ภายใน 2.5 ชั่วโมงหรือที่ได้
เริ่มที่จะตั้งควรจะยกเลิก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อมูลเพิ่มเติมและเงื่อนไขจากแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเช่นอินเทอร์เน็ตหนังสือและบทความที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญมาตรฐานวิธีการทดสอบของมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเพื่อการทดสอบและวัสดุ ( ASTM ) สถิติที่ใช้การศึกษานี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยลดปัญหาของอุตสาหกรรมก่อสร้างเกี่ยวกับการจัดการขยะ และการขาดแคลนวัตถุดิบ ผู้วิจัยได้พิจารณาเหล่านี้ปัญหาที่เป็นเหตุผลหลักสำหรับวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ เพื่อที่จะมาด้วยผลผลิตของการวิจัย ซึ่งเป็น การออกแบบส่วนผสมของคอนกรีตบดเศษ แบบต่าง ๆและการทดลองทำขึ้นที่ทำหน้าที่เป็นพื้นฐานของการศึกษาและเหล่านี้คือดังต่อไปนี้ ( ก ) ( ข ) การวิเคราะห์ตะแกรงทดสอบการเจาะบอล ( C ) และค่าทดสอบ ( D ) การบีบอัดทดสอบ3.4 . ขั้นตอนการประเมินผลวิธีการที่ใช้ในการวิจัยได้พิสูจน์ว่าคอนกรีตรีไซเคิลเศษวัสดุที่เป็นที่ยอมรับหรือไม่ มวลรวมละเอียดทางเลือกในปูนผสมกำลังอัดของมอร์ต้าร์ บางครั้งใช้เป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการเลือกชนิดของปูน เนื่องจากแรงอัดจะค่อนข้างง่ายในการวัด และมันมักเกี่ยวข้องกับบางคุณสมบัติอื่น ๆเช่น แรงดึง และการดูดซึมของปูน กำลังอัดของมอร์ต้าร์ซีเมนต์ และขึ้นอยู่กับส่วนใหญ่บนที่อัตราส่วนน้ำต่อปูนซีเมนต์ ยอมรับว่าวัดกำลังอัดในห้องปฏิบัติการกำลังทดสอบ 2 . ก้อนปูน เพราะแบบทดสอบนี้คือสเปคค่อนข้างง่าย เพราะมันให้ผลสอดคล้องกันอัด ) ,กำลังพิจารณาพื้นฐานสำหรับการประเมินความเข้ากันได้ของวัสดุปูน ฟิลด์การทดสอบกำลังรับแรงอัดของมอร์ต้าร์ได้ ด้วยวิธีการทดสอบ C แล้วใช้ทั้ง 2 อยู่ ก้อนทรงกระบอก ขนาดเล็ก หรือตัวอย่างของมอร์ตาร์ บางทีอาจเป็นเพราะของเคยสังเกตความสับสนเกี่ยวกับปูนและคอนกรีต ความสำคัญของการรับแรงอัดความละเอียดสูงมากกว่าเน้นอื่น ๆที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานปูน ลักษณะทั่วไป เช่น รวมการไหลของน้ำ และการจดจำ สามารถวัดได้อย่างถูกต้อง โดยห้องปฏิบัติการทดสอบและจะรวมอยู่ในมาตรฐาน ASTM . น้ำช่วยให้ปูนการจดจำเพื่อต่อต้านการดูดของหน่วย วัสดุก่อสร้าง บริการและรักษาความชื้นที่เหมาะสมในการบ่ม . มันเป็นปูน ความสามารถในการรักษาในการติดต่อกับปั้นปูนเพื่อให้เมสันสามารถอย่างระมัดระวังและจัดระดับหน่วยโดยไม่ทำลายบอนด์ภายใต้สภาวะห้องปฏิบัติการ น้ำค้างที่วัดโดยการทดสอบการไหล และคือแสดงเป็น อัตราส่วนการไหลของการไหลที่ดูด การไหลแบบคล้ายคลึงกับคอนกรีตทดสอบ แต่แสดงบน " ตาราง " กระแสที่สั่นสะเทือนขึ้นและลงอย่างรวดเร็วหลายวินาทีครกก่อสร้างต้องเริ่มต้นไหลค่าในลำดับของ 130 - 150 บาทครกห้องปฏิบัติการจะต้องมีการเริ่มต้น 100 - 115 % ที่มีประสบการณ์Masons ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องปรับปริมาณของน้ำที่ใช้ในการผลิต ผสมดีสามารถใช้การได้ และน้ำไหลที่เหมาะสม การเก็บรักษาปูนปกติเริ่มแข็งหรือชุดประมาณ 2.5 ชั่วโมงหลังจากการผสม หลังจาก นี้จุด retempering จะลดกำลังอัดประมาณ 25% แบบมาตรฐานมาตรฐานเป็นปูนทั้งหมดถูกใช้ภายใน 2.5 ชั่วโมง และอนุญาตให้ retempering เป็นบ่อยเท่าที่ต้องการในช่วงเวลานี้การทดสอบได้แสดงให้เห็นว่าการลดลงของกำลังรับแรงอัดน้อยที่สุดถ้า retemperingเกิดขึ้นเพียง 1 - 2 ชั่วโมง หลังผสม ปูนที่ไม่ใช้แล้ว หรือที่ได้ภายใน 2.5 ชั่วโมงเริ่มตั้งควรละทิ้ง