CBT involves identifying patient be

CBT involves identifying patient behaviors that
lead to unwanted outcomes (e.g., poor medication compliance);
identifying thoughts and beliefs that lead to
these behaviors (e.g., “I don’t need medications, they
never help”); identifying the distortions in those beliefs
(e.g., all-or-nothing thinking distortion such as “medication
never helps”); and gathering evidence that contradicts
unhelpful beliefs (e.g., “I am able to stay out of
the hospital when I stay on my medication; that suggests
that it helps in some way”). Patients were trained to use
this process to examine their thinking, then modify their
thoughts to increase healthy thoughts and behaviors.
The module addressed specific issues faced by older
patients with schizophrenia, including beliefs regarding
ability to change; coping with chronic medical problems;
coping with stressors (e.g., loss of role or supports);
and dealing with sequelae of long-term
neuroleptic treatment

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

CBT เกี่ยวข้องกับการระบุพฤติกรรมของผู้ป่วยที่
นำไปสู่ผลที่ไม่พึงประสงค์ (เช่นการปฏิบัติตามการใช้ยาที่ไม่ดี)
ระบุความคิดและความเชื่อที่นำไปสู่
​​พฤติกรรมเหล่านี้ (เช่น "ฉันไม่จำเป็นต้องใช้ยาที่พวกเขา
ไม่เคยช่วยให้ "); ระบุการบิดเบือนในความเชื่อเหล่านั้น
(เช่นทั้งหมดหรือไม่มีอะไรคิดบิดเบือนเช่น "ยา
ไม่เคยช่วยให้ "); และรวบรวมพยานหลักฐานที่ขัดแย้งกับ
ความเชื่อช่วยเหลือ (เช่น "ฉันสามารถที่จะพักออกจาก
โรงพยาบาลเมื่อผมอยู่ในยาของฉันนั่นแสดงให้เห็น
ว่ามันจะช่วยในทางใดทางหนึ่ง ") ผู้ป่วยที่ได้รับการฝึกฝนที่จะใช้
กระบวนการนี้ในการตรวจสอบความคิดของพวกเขาแล้วพวกเขาปรับเปลี่ยน
ความคิดที่จะเพิ่มความคิดที่ดีต่อสุขภาพและพฤติกรรม.
โมดูลเฉพาะประเด็นที่ต้องเผชิญกับที่มีอายุมากกว่า
ผู้ป่วยที่มีอาการจิตเภทรวมทั้งความเชื่อเกี่ยวกับ
ความสามารถในการเปลี่ยนแปลง การรับมือกับปัญหาสุขภาพเรื้อรัง
การรับมือกับความเครียด (เช่นการสูญเสียของบทบาทหรือสนับสนุน)
และการจัดการกับผลที่ตามมาของการระยะยาว
การรักษาโรคจิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกี่ยวข้องกับการระบุพฤติกรรมการผู้ป่วย
นำไปสู่ผลที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ยากจน การใช้ยาตามสั่ง ) ;
ระบุความคิดและความเชื่อที่นำไปสู่
พฤติกรรมเหล่านี้ ( เช่น " ฉันไม่ต้องการยา พวกเขา
ไม่เคยช่วย " ) ; การบิดเบี้ยวในความเชื่อเหล่านั้น
( เช่นทั้งหมดหรือไม่มีอะไรคิดบิดเบือน เช่น " ยา
ไม่เคยช่วย " ) ; และการรวบรวมหลักฐานที่ขัดแย้งกับ
แต่ความเชื่อ ( เช่น " ฉันสามารถออกจากโรงพยาบาลเมื่อฉันอยู่

ฉันยา ที่บ่งบอกว่า มันช่วยในบางวิธี " ) ผู้ป่วยที่ถูกฝึกให้ใช้กระบวนการนี้เพื่อตรวจสอบ
คิดแล้วปรับเปลี่ยนความคิดของพวกเขาเพื่อเพิ่มความคิดและพฤติกรรมสุขภาพ
.
โมดูล addressed เฉพาะปัญหาที่ประสบโดยผู้ป่วยจิตเภทเก่า

รวมทั้งความเชื่อเกี่ยวกับความสามารถในการเปลี่ยนแปลง การเผชิญกับปัญหาเรื้อรังแพทย์ ;
เผชิญกับความเครียด เช่น การสูญเสียบทบาทหรือสนับสนุน ) ;
และจัดการกับทางหัวใจของการรักษา neuroleptic ระยะยาว