AMPLMomentFigure 6.48 provides the

AMPLMoment
Figure 6.48 provides the AMPL model for the CPM (file amplEx6.52.txt). The model is
driven by the data of Example 6.5-2. This AMPL model is a unique application because
it uses indexed sets (see Section A.4) and requires no optimization. In essence, no
solve command is needed, and AMPL is implemented as a pure programming language
similar to Basic or C.
The nature of the computations in CPM requires representing the network by
associating two indexed sets with each node: into and from. For node i, the set into [i]
defines all the nodes that feed into node i, and the set from [i] defines all the nodes
that are reached from node i. For example, in Example 6.5-2, from[l] = {2, 3} and
into [1] is empty.
The determination of subsets from and into is achieved in the model as follows:
Because D [ i , j 1 can be zero when a CPM network uses dummy activities, the default
value for D[ i , j] is -1 for all nonexisting arcs. Thus, the set from [ i] represents all the
nodes j in the set {1 .. n} that can be reached from node i, which can happen only if
D[i, j] >=0. This says that from[i] is defined by the subset {j in 1. .n:D[i, j] > =O} .

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

AMPLMomentรูปที่ 6.48 แสดงแบบ AMPL CPM (แฟ้ม amplEx6.52.txt) รูปแบบคือขับเคลื่อน ด้วยข้อมูลของตัวอย่างที่ 6.5-2 รุ่น AMPL นี้เป็นโปรแกรมเฉพาะเนื่องจากใช้ดัชนีชุด (ดูส่วน A.4) และต้องปรับให้เหมาะสมไม่ ในสาระสำคัญ ไม่แก้ไขคำสั่งจำเป็นต้องใช้ และใช้งานเป็นภาษาบริสุทธิ์ AMPLคล้ายกับ Basic หรือคลักษณะของการประมวลผลใน CPM ต้องแสดงถึงเครือข่ายโดยเชื่อมโยงสองดัชนีชุดกับแต่ละโหนด: เป็น และจากนั้น สำหรับโหนด i ตั้งค่าเป็น [i]กำหนดโหนทั้งหมดที่ป้อนเข้าสู่โหนดฉัน และชุด [i] กำหนดโหนทั้งหมดที่จะมาถึงจากโหนฉัน ตัวอย่าง ตัวอย่าง 6.5-2 จาก [l] = {2, 3 } และใน [1] ว่างเปล่ากำหนดชุดย่อยจาก และไปทำในรูปแบบดังนี้:เนื่องจาก D [i, j 1 สามารถเป็นศูนย์เมื่อเครือข่าย CPM ใช้กันขโมยกิจกรรม ค่าเริ่มต้นค่า D [i, j] เป็น -1 สำหรับเส้นโค้ง nonexisting ทั้งหมด ดังนั้น ชุด [i] แสดงทั้งหมดโหนด j ในชุด { 1 .. n } ที่สามารถเข้าถึงได้จากโหน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อD [i, j] > = 0 นี้บอกว่า จาก [i] จะถูกกำหนด โดยชุดย่อย {เจใน 1. .n:D [i, j] > = O }

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

AMPLMoment
รูป 6.48 มีรูปแบบ AMPL สำหรับ CPM (ไฟล์ amplEx6.52.txt) รูปแบบที่
ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของตัวอย่าง 6.5-2 รูปแบบ AMPL นี้เป็นโปรแกรมพิเศษเพราะ
มันใช้ชุดการจัดทำดัชนี (ดูมาตรา A.4) และไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพ ในสาระสำคัญไม่มีการ
แก้คำสั่งเป็นสิ่งจำเป็นและ AMPL จะดำเนินการเป็นภาษาโปรแกรมที่บริสุทธิ์
คล้ายกับ Basic หรือซี
ธรรมชาติของการคำนวณใน CPM ต้องเป็นตัวแทนของเครือข่ายโดยการ
เชื่อมโยงสองชุดจัดทำดัชนีแต่ละโหนด: เข้าและจาก สำหรับโหนดผมตั้งเป็น [I]
กำหนดโหนดที่ป้อนเข้าสู่โหนด i และชุดจาก [I] กำหนดโหนดทั้งหมด
ที่มีการเข้าถึงได้จากโหนดฉัน ยกตัวอย่างเช่นในตัวอย่างที่ 6.5-2 จาก [L] = {2, 3} และ
เป็น [1] เป็นที่ว่างเปล่า
มุ่งมั่นของส่วนย่อยจากและเข้าไปคือความสำเร็จในรูปแบบดังต่อไปนี้:
เพราะ D [i, j 1 กระป๋อง เป็นศูนย์เมื่อเครือข่าย CPM ใช้กิจกรรมหุ่นเริ่มต้น
ค่าสำหรับ D [i, j] เป็น -1 สำหรับโค้ง nonexisting ทั้งหมด ดังนั้นการตั้งค่าจาก [i] หมายถึงทุก
โหนด J ในชุด {1 .. n} ที่สามารถเข้าถึงได้จากโหนดฉันซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะในกรณีที่
D [i, j]> = 0 นี้กล่าวว่าจาก [i] ถูกกำหนดโดยเซต {J 1. .n: D [i, j]> = O}

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

amplmoment
รูป 6.48 ให้ ampl แบบ CPM ( amplex6.52 . ไฟล์ txt ) นางแบบ
ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลตัวอย่าง 6.5-2 . รูปแบบ ampl นี้เป็นโปรแกรมเฉพาะ เพราะ
มันใช้ชุดดัชนี ( ดูมาตรา a.4 ) และต้องไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพ ในสาระสำคัญ , ไม่
แก้คำสั่งเป็นสิ่งจำเป็น และ ampl จะดําเนินการเป็นบริสุทธิ์ภาษาซี
คล้ายกับ Basic หรือ C .
ธรรมชาติของการคำนวณใน CPM ต้องเป็นตัวแทนของเครือข่ายโดย
ประกอบสองดัชนีชุดกับแต่ละโหนด : เป็น และ จาก สำหรับปมผม ตั้งเป็น [ i ]
นิยามโหนดทั้งหมดที่ป้อนเข้าไปในต่อมผม และชุดจาก [ i ] กำหนดโหนดทั้งหมดที่เดินทางจากโหนด
. ตัวอย่างเช่นในตัวอย่าง 6.5-2 จาก [ l ] = { 2 , 3 }
เป็น [ 1 ] ว่าง .
การหาข้อมูลและลงได้ในรูปแบบดังนี้
เพราะ D [ I , J 1 สามารถเป็นศูนย์เมื่อ CPM เครือข่ายใช้กิจกรรมหุ่น ค่าเริ่มต้นสำหรับ d [
, J ] - 1 สำหรับทุก nonexisting ARCS ดังนั้น การตั้งค่าจาก [ i ] แทนโหนดทั้งหมด
J ในเซต { 1 . . . . . . . n } ที่สามารถเดินทางจากโหนดแม่ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ถ้า
d [ i , J ] > = 0นี้กล่าวว่า [ ผม ] จะถูกกำหนดโดยย่อย { J ใน 1 . N : d [ i , J ] > = O }