Further express treaty-making power

Further express treaty-making powers were added in 1987 by the Single European Act
in the fields of research, technological development and the environment, and, after
Maastricht, in the fields of development cooperation and economic and monetary policy.
- The reason why we need to establish what is competence of the EU under the
functioning Treaty is to see which areas are covered by European law as
interpreted by the ECJ – for instance, CFSP is still kept outside to a large extent. If it
does not fall within the EU legal order in the sense of Van Gend en Loos then it is still
public international law. Then, we must ask ourselves to what extent can the ECHR
step in, since it is not a set of rules originating from the EU legal order and it does not
fall within the Bosphorus case law.
- Once the existence of EU competence is established, the next important question is
whether it is exclusive competence, or whether it is shared with the Member States
to the EU and that there is no concurrent Member State competence.
- One should keep in mind that EU legislation and ECJ jurisprudence are both
complementary and interactive, with the ECJ adopting the doctrine of effet utile, or
effectiveness in the interpretation of EU law. The ECJ systematically tries to give a
meaning or a full effect to the express provisions of the Treaty, many times
inspiring the legislator (think about the Cassis de Dijon case, that laid out the framework
for future harmonisation, or the rulings on the locus standi of the EP in Les Verts or
Chernobyl). There is a kind of dialectic – the poorer the legislative work, the more
prolific will the ECJ’s case law be.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพิ่มเติม เพิ่มด่วนทำสนธิสัญญาอำนาจในปีค.ศ. 1987 โดยพระราชบัญญัติการยุโรปเดียวในเขต ของการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม และ หลังมาสทริชต์ ในด้านของความร่วมมือในการพัฒนาและนโยบายเศรษฐกิจ และการเงิน-เหตุผลที่ทำไมเราต้องสร้างอะไรเป็นความสามารถของสหภาพยุโรปภายใต้การจะเห็นว่าพื้นที่ครอบคลุม โดยกฎหมายยุโรปเป็นสนธิสัญญาที่ทำงานแปล โดย ECJ – เช่น CFSP ยังอยู่นอกขอบเขตขนาดใหญ่ ถ้ามันไม่อยู่ในลำดับกฎหมาย EU ในแง่ของแวน Gend น้ำนวดลด แล้วก็กฎหมายระหว่างประเทศสาธารณะ จากนั้น เราต้องถามตัวเองใดสามารถ ECHR การขั้นตอนใน เนื่องจากมันไม่ใช่ชุดของกฎที่เกิดจากการสั่งการตามกฎหมายของ EU และมันไม่ได้อยู่ภายในกฎหมายกรณีสวี-เมื่อก่อตั้งมีความสามารถใน EU คำถามสำคัญต่อไปคือไม่ว่าจะเป็นความสามารถพิเศษ หรือว่าจะร่วมกับรัฐสมาชิกEU และที่ มีความสามารถของรัฐสมาชิกไม่พร้อมกัน-หนึ่งควรจำไว้ว่า กฎหมาย EU และฟิกฮ ECJ มีทั้งเสริม และแบบโต้ ตอบ กับ ECJ ใช้หลักคำสอนของ effet utile หรือประสิทธิภาพในการตีความกฎหมาย EU ECJ พยายามอย่างเป็นระบบเพื่อให้การความหมายหรือลักษณะพิเศษทั้งหมดจะแสดงบทบัญญัติของสนธิสัญญา หลายครั้งแรงบันดาลใจจาก legislator (คิดว่าเกี่ยวกับกรณีดิจอง de Cassis ที่วางกรอบสำหรับในอนาคต harmonisation หรือบัญญัติใน standi โลกัสโพลของ EP ใน Verts เลส หรือโรง) มีแบบ dialectic – ย่อมทำงานสภา มากลูกของ ECJ กรณีกฎหมายจะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากด่วนทำสนธิสัญญาอำนาจที่ถูกเพิ่มเข้าในปี 1987
โดยยุโรปแสดงเดี่ยวในด้านของการวิจัยการพัฒนาเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมและหลังจาก
Maastricht ในในด้านของการพัฒนาความร่วมมือและนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน.
- เหตุผลที่ว่าทำไมเราต้อง เพื่อสร้างสิ่งที่เป็นความสามารถของสหภาพยุโรปภายใต้การทำงานของสนธิสัญญาคือการเห็นพื้นที่ที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายยุโรปตีความโดยECJ - สำหรับเช่น CFSP ยังคงเก็บไว้ข้างนอกเพื่อขอบเขตขนาดใหญ่ ถ้ามันไม่ได้ตกอยู่ในลำดับที่ถูกต้องตามกฎหมายของสหภาพยุโรปในความรู้สึกของแวน Gend en ลูสแล้วก็ยังคงเป็นกฎหมายต่างประเทศที่สาธารณะ จากนั้นเราต้องถามตัวเองกับสิ่งที่ขอบเขต ECHR สามารถก้าวเข้ามาเพราะมันไม่ได้เป็นชุดของกฎที่มาจากคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายของสหภาพยุโรปและจะไม่ตกอยู่ในกฎหมายกรณีBosphorus. - เมื่อการดำรงอยู่ของความสามารถของสหภาพยุโรปที่มีการจัดตั้งขึ้น คำถามที่สำคัญต่อไปคือไม่ว่าจะเป็นความสามารถพิเศษหรือไม่ว่าจะร่วมกับประเทศสมาชิกไปยังสหภาพยุโรปและไม่มีสมาชิกสามารถรัฐพร้อมกัน. - หนึ่งควรจะเก็บไว้ในใจว่ากฎหมายสหภาพยุโรปและนิติศาสตร์ ECJ มีทั้งที่สมบูรณ์และการโต้ตอบกับ ECJ การนำหลักคำสอนของ effet มีประโยชน์หรือประสิทธิภาพในการตีความของกฎหมายสหภาพยุโรป ECJ ระบบพยายามที่จะให้ความหมายหรือผลเต็มรูปแบบถึงบทบัญญัติด่วนของสนธิสัญญาหลายครั้งสร้างแรงบันดาลใจสมาชิกสภานิติบัญญัติ(คิดเกี่ยวกับกรณีที่แคสซิสเดอ Dijon ที่ออกมาวางกรอบการทำงานสำหรับการประสานกันในอนาคตหรือคำวินิจฉัยในstandi สถานที ของอีใน Les Verts หรือเชอร์โนบิล) มีชนิดของเหตุผลคือ - ยากจนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติที่มากกว่าที่อุดมสมบูรณ์จะกฎหมายกรณีECJ เป็นคน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพิ่มเติมทำให้พลังเพิ่มด่วนสนธิสัญญาในปี 1987 โดยเดี่ยวยุโรปทำ
ในด้านการวิจัย , การพัฒนาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม และหลังจาก
บาร์เซโลนาในด้านความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน .
- เหตุผลที่ทำไมเราต้องสร้างอะไรคือความสามารถของ EU ภายใต้
การทํางานของสนธิสัญญาคือเห็นพื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยกฎหมายยุโรป
ตีความโดย– ECJ สำหรับอินสแตนซ์ cfsp ยังเก็บไว้ข้างนอกเพื่อขอบเขตขนาดใหญ่ ถ้ามัน
ไม่ได้ตกอยู่ภายในสหภาพยุโรปกฎหมาย คำสั่ง ในความรู้สึกของ แวน gend en ห้องน้ำก็ยังคง
กฎหมายระหว่างประเทศ งั้น เราต้องถามตัวเองสิ่งที่ขอบเขตสามารถ ECHR
ขั้นตอนในเพราะมันไม่ได้เป็นชุดของกฎที่มาจากสหภาพยุโรปกฎหมาย สั่ง และมันไม่ได้
ตกอยู่ภายใน Bosphorus กฎหมาย .
- เมื่อการดำรงอยู่ของสหภาพยุโรปได้ก่อตั้ง คำถามต่อไปที่สำคัญคือ
ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถ พิเศษ หรือ ว่ามันใช้ร่วมกันกับสมาชิก
ไปยังสหภาพยุโรปและ ไม่มีสมาชิกพร้อมกัน
สภาพความสามารถ- ควรระลึกไว้เสมอว่า กฎหมายสหภาพยุโรปและกฎหมายทั้ง
ECJ เสริมและโต้ตอบกับ ECJ ใช้สอนจริงกิจการที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภค , สาธารณูปโภค , หรือ
ประสิทธิผลในการตีความกฎหมายของสหภาพยุโรป ECJ เพื่อพยายามที่จะให้ความหมายหรือผลเต็ม
ด่วนบทบัญญัติของสนธิสัญญาหลายครั้ง
สร้างแรงบันดาลใจในสภานิติบัญญัติ ( คิดถึงแคสซิส เดอ ดิจอง กรณีที่วางกรอบ
สำหรับการประสานกันในอนาคตหรือชี้ขาดในความเชื่อ standi ของ EP ในพรรคเขียวหรือ
เชอร์โนบิล ) มีชนิดของวิภาษวิธีและยากจนทำงานนิติบัญญัติ ยิ่ง
อุดมสมบูรณ์จะกฎหมายของ ECJ แน่