ความชั่วร้ายกับโลกนี้เป็นของคู่กันเ

ความชั่วร้ายกับโลกนี้เป็นของคู่กัน
เนื่องจากโลกนี้เป็นโลกแห่งสสาร เป็นโลกแห่งการเคลื่อนที่ (motion) การเปลี่ยนแปลง (change) ความขัดแย้ง (contrast) และความสัมพัทธ์ (relative) ถึงแม้ว่าโลกนี้จะเป็นผลมาจากการสร้างของสัตที่สัมบูรณ์ (Absolute Being) ก็ตาม แต่หากพิจารณาตามกฎของเหตุและผลแล้ว สิ่งที่เป็นผล (effect) จะต้องมีระดับความสมบูรณ์และความเข้มข้นน้อยกว่าสิ่งที่เป็นเหตุ (cause) เหมือนกับแสงของดวงอาทิตย์ที่มีระดับความเข้มข้นและความสมบูรณ์ที่น้อยกว่าดวงอาทิตย์ ดังนั้น การมีอยู่ของโลกนี้โดยปราศจากความชั่วร้ายและความทุกข์เข็ญต่าง ๆ นั้นจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

อาจมีผู้ตั้งข้อสงสัยต่อว่า ในเมื่อโลกนี้ไม่อาจดำรงอยู่ได้โดยปราศจากความชั่วร้าย แล้วเหตุใดพระเจ้าจึงยังต้องสร้างโลกนี้ขึ้นมาอีก ไม่เป็นการดีกว่าหรือที่พระองค์จะทรงระงับการสร้างโลกนี้ไว้ เพื่อที่ความชั่วร้ายและความทุกข์ยากต่าง ๆ จะได้ไม่เกิดขึ้น?

จริงอยู่ที่ข้อสงสัยดังกล่าวเป็นข้อสงสัยที่น่าคิด แต่หากเราได้พิจารณาถึงความเป็นเหตุสัมบูรณ์ของพระเจ้าแล้ว เราก็จะเข้าใจได้ทันทีว่าการเกิดขึ้นของโลกนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นโดยหลีกเลี่ยงมิได้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าเมื่อใดที่เหตุสัมบูรณ์เกิดขึ้นแล้วผลของมันก็ต้องเกิดขึ้นด้วย เสมือนกับกองไฟที่จะต้องเกิดขึ้นเมื่อมีเชื้อเพลิงและปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้เพลิงลุกไหม้

อนึ่ง นักปรัชญาอิสลามหลาย ๆ ท่านก็ได้นำเสนอทฤษฎีของการไหลหลั่ง (al-faydh, emanation) ที่กล่าวว่าสรรพสิ่งต่าง ๆ จะต้องไหลหลั่งมาจากปฐมธาตุ (First Principle) อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งปฐมธาตุในความหมายของพวกเขาก็คือพระเจ้า อีกทั้งสิ่งที่ไหลหลั่งลงมาจะต้องมีระดับความสมบูรณ์ที่ลดหลั่นกันไป เสมือนกับแสงที่ส่องมาจากดวงจันทร์ หรือความร้อนที่มาจากไฟ ที่ยิ่งออกห่างจากแหล่งที่มาของมันมากเท่าใด ความสมบูรณ์และความเข้มข้นของมันก็จะยิ่งลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งโลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นโลกที่อยู่ในระดับล่างของการมีอยู่

This is the world of the evils of the pair.
Because this world is the world of matter is the Earth's motion (motion) changes (change) the conflict (contrast) and relative (relative) Although this world as a result of the creation of a living being, the absolute (Absolute Being) but if considered in accordance with the rules of cause and effect. What is the outcome (effect) must have the integrity and the concentration is less than what is why (cause) is the same as the Sun's light intensity levels and integrity that is smaller than the Sun, so? The existence of this world without evil and suffering all kinds of evil, it is something that is impossible.

Could someone set this question when that existence is not a world without evil? Then why does God still created the Earth coming up again. Not better or that he will suspend the creation of this world. So evil and misery will not occur?

Truth is that these questions are questions that are worth thinking. But if we consider the absolute reason of God then we will understand immediately that the emergence of this world is necessary, to avoid overheating. This is because when a certain event occurs, then the result of it would happen with a virtual fire to occur when is fire, and factors that will make the fire burn.

Several philosophers of Islam, many have proposed the theory of the pour (al-faydh, emanation), who says things to pour from the first element (First Principle) without missing a call that the first element in the meaning of them is God. Moreover, what is the pour has the integrity that one as the light that shines from the Moon or the heat coming from the fire even more away from the source of it? The integrity and the intensity of it, it will be even less so that the world in which we live, this is the world that exists in the lower level of existence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความชั่วร้ายกับโลกนี้เป็นของคู่กันเนื่องจากโลกนี้เป็นโลกแห่งสสารเป็นโลกแห่งการเคลื่อนที่ (เคลื่อนไหว) การเปลี่ยนแปลง (เปลี่ยน) ความขัดแย้ง (คม) และความสัมพัทธ์ (ญาติ) (การนอน) ถึงแม้ว่าโลกนี้จะเป็นผลมาจากการสร้างของสัตที่สัมบูรณ์ก็ตามแต่หากพิจารณาตามกฎของเหตุและผลแล้วสิ่งที่เป็นผล (ผล) จะต้องมีระดับความสมบูรณ์และความเข้มข้นน้อยกว่าสิ่งที่เป็นเหตุ (สาเหตุ) เหมือนกับแสงของดวงอาทิตย์ที่มีระดับความเข้มข้นและความสมบูรณ์ที่น้อยกว่าดวงอาทิตย์ดังนั้นการมีอยู่ของโลกนี้โดยปราศจากความชั่วร้ายและความทุกข์เข็ญต่างๆ นั้นจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อาจมีผู้ตั้งข้อสงสัยต่อว่าในเมื่อโลกนี้ไม่อาจดำรงอยู่ได้โดยปราศจากความชั่วร้ายแล้วเหตุใดพระเจ้าจึงยังต้องสร้างโลกนี้ขึ้นมาอีกไม่เป็นการดีกว่าหรือที่พระองค์จะทรงระงับการสร้างโลกนี้ไว้เพื่อที่ความชั่วร้ายและความทุกข์ยากต่างๆ จะได้ไม่เกิดขึ้นจริงอยู่ที่ข้อสงสัยดังกล่าวเป็นข้อสงสัยที่น่าคิดแต่หากเราได้พิจารณาถึงความเป็นเหตุสัมบูรณ์ของพระเจ้าแล้วเราก็จะเข้าใจได้ทันทีว่าการเกิดขึ้นของโลกนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นโดยหลีกเลี่ยงมิได้ทั้งนี้ก็เพราะว่าเมื่อใดที่เหตุสัมบูรณ์เกิดขึ้นแล้วผลของมันก็ต้องเกิดขึ้นด้วยเสมือนกับกองไฟที่จะต้องเกิดขึ้นเมื่อมีเชื้อเพลิงและปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้เพลิงลุกไหม้อนึ่งนักปรัชญาอิสลามหลายๆ ท่านก็ได้นำเสนอทฤษฎีของการไหลหลั่ง (al-faydh, emanation) ที่กล่าวว่าสรรพสิ่งต่างๆ (หลักแรก) จะต้องไหลหลั่งมาจากปฐมธาตุอย่างไม่ขาดสายซึ่งปฐมธาตุในความหมายของพวกเขาก็คือพระเจ้าอีกทั้งสิ่งที่ไหลหลั่งลงมาจะต้องมีระดับความสมบูรณ์ที่ลดหลั่นกันไปเสมือนกับแสงที่ส่องมาจากดวงจันทร์หรือความร้อนที่มาจากไฟที่ยิ่งออกห่างจากแหล่งที่มาของมันมากเท่าใดความสมบูรณ์และความเข้มข้นของมันก็จะยิ่งลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งโลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นโลกที่อยู่ในระดับล่างของการมีอยู่นี่คือโลกของความชั่วร้ายของคู่เพราะโลกนี้เป็นโลกของสสาร มีการเคลื่อนไหวของโลก (เคลื่อนไหว) เปลี่ยนแปลง (เปลี่ยนแปลง) ความขัดแย้ง (คม) และญาติ (ญาติ) แม้ว่าโลกนี้เป็นผลมาจากการสร้างอยู่อาศัย สัมบูรณ์ (ถูกแน่นอน) แต่ถ้าพิจารณาตามกฎของเหตุและผล สิ่ง (ผล) ผลที่ได้ต้องมีความสมบูรณ์ และมีความเข้มข้นน้อยกว่าคืออะไรทำไม (สาเหตุ) จะเหมือนกับเป็นระดับความเข้มแสงของดวงอาทิตย์และความที่มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์ เพื่อ การดำรงอยู่ของโลกนี้ไม่มีความชั่วร้ายและความทุกข์เข็ญ มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้บางคนอาจตั้งคำถามนี้เมื่อไม่ได้อยู่ที่โลกไม่ มีความชั่วร้าย แล้ว เหตุใดพระเจ้ายังคงสร้างโลกขึ้นมาอีก ไม่ดีกว่า หรือว่าจะระงับการสร้างโลกนี้ ดังนั้น ความชั่วร้ายและความทุกข์ยากจะไม่เกิดขึ้นหรือไม่ความจริงก็คือ ว่า คำถามเหล่านี้คือ คำถามที่น่าคิด แต่ถ้าเราพิจารณาเหตุผลสมบูรณ์ของพระเจ้า แล้วเราจะเข้าใจทันทีว่าการเกิดขึ้นของโลกนี้จำเป็น ต้องหลีกเลี่ยงมิ ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แล้วผลของมันจะเกิดขึ้นกับไฟเสมือนเกิดขึ้นเมื่อถูกไฟไหม้ และปัจจัยที่จะทำให้ไฟเผาปรัชญาต่าง ๆ ของอิสลาม จำนวนมากได้เสนอทฤษฎีของเท (al-faydh, emanation), ซึ่งกล่าวว่า สิ่งที่หลั่งจากองค์แรก (หลักแรก) โดยไม่ขาดเรียกว่าองค์ประกอบแรกในความหมายของพระเจ้า นอกจากนี้ การหลั่งคืออะไรมีความสมบูรณ์ที่หนึ่งเป็นแสงที่ส่องจากดวงจันทร์หรือความร้อนที่มาจากไฟจากแหล่งที่มาของมันยิ่ง ความสมบูรณ์และความเข้มของมัน มันจะเป็นแม้แต่น้อยเพื่อให้โลกที่เราอาศัยอยู่ เป็นโลกที่มีอยู่ในระดับต่ำของการดำรงอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นโลกแห่งการเคลื่อนที่ (เคลื่อนไหว) การเปลี่ยนแปลง (change) ความขัดแย้ง (ความคมชัด) และความสัมพัทธ์ (ญาติ) (แอบโซลูทเป็น) ก็ตาม สิ่งที่เป็นผล (ผล) (สาเหตุ) ดังนั้น ๆ ๆ ๆ ที่จะทำให้เพลิงลุกไหม้อนึ่งนักปรัชญาอิสลามหลาย ๆ (อัล faydh บ่อเกิด) ที่กล่าวว่าสรรพสิ่งต่าง ๆ จะต้องไหลหลั่งมาจากปฐมธาตุ (หลักการแรก) อย่างไม่ขาดสาย เสมือนกับแสงที่ส่องมาจากดวงจันทร์หรือความร้อนที่มาจากไฟ ๆ เป็นโลกของความชั่วร้ายของทั้งคู่. เพราะโลกนี้เป็นโลกของเรื่องคือการเคลื่อนไหวของโลก (เคลื่อนไหว) เปลี่ยนแปลง (เปลี่ยน) ความขัดแย้ง (ความคมชัด) และญาติ (ญาติ) แม้ว่าโลกนี้เป็นผลมาจากการสร้าง ที่อาศัยอยู่เป็นอยู่แน่นอน (แอบโซลูทเป็น) แต่ถ้าพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของเหตุและผล ผลที่ได้คืออะไร (ผล) ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตและความเข้มข้นน้อยกว่าสิ่งที่เป็นเหตุผลว่าทำไม (สาเหตุ) เป็นเช่นเดียวกับระดับความเข้มของแสงของดวงอาทิตย์และความซื่อสัตย์ที่มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์เพื่อ? การดำรงอยู่ของโลกนี้ไปโดยความชั่วร้ายและความทุกข์ทรมานทุกชนิดของความชั่วร้ายก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้. ใครบางคนอาจตั้งคำถามนี้เมื่อการดำรงอยู่ที่ไม่ได้เป็นโลกที่ปราศจากความชั่วร้าย? แล้วทำไมพระเจ้าไม่ยังคงสร้างโลกขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ดีกว่าหรือว่าเขาจะระงับการสร้างโลกนี้ ดังนั้นความชั่วร้ายและความทุกข์ยากจะไม่เกิดขึ้น? ความจริงก็คือว่าคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่มีมูลค่าคิด แต่ถ้าเราพิจารณาเหตุผลที่แน่นอนของพระเจ้าแล้วเราจะเข้าใจได้ทันทีว่าการเกิดขึ้นของโลกนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนสูงเกินไป เพราะนี่คือเมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นแล้วผลของมันจะเกิดขึ้นด้วยไฟเสมือนจะเกิดขึ้นเมื่อไฟและปัจจัยที่จะทำให้การเผาไหม้ไฟ. นักปรัชญาหลายศาสนาอิสลามจำนวนมากได้เสนอทฤษฎีของเท (อัล -faydh บ่อเกิด) ที่กล่าวว่าสิ่งที่เทจากองค์ประกอบแรก (หลักการแรก) โดยไม่หายไปเรียกว่าองค์ประกอบแรกในความหมายของพวกเขาก็คือพระเจ้า นอกจากนี้สิ่งที่เทมีความสมบูรณ์ว่าเป็นแสงที่ส่องจากดวงจันทร์หรือความร้อนที่มาจากการเกิดไฟไหม้มากขึ้นห่างจากแหล่งที่มาของมัน? ความซื่อสัตย์และความรุนแรงของมันก็จะยิ่งน้อยลงเพื่อให้โลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นโลกที่มีอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าของการดำรงอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความชั่วร้ายกับโลกนี้เป็นของคู่กัน
เนื่องจากโลกนี้เป็นโลกแห่งสสารเป็นโลกแห่งการเคลื่อนที่ ( เคลื่อนไหว ) การเปลี่ยนแปลง ( เปลี่ยน ) ความขัดแย้ง ( ความคมชัด ) และความสัมพัทธ์ ( ญาติ ) ถึงแม้ว่าโลกนี้จะเป็นผลมาจากการสร้างของสัตที่สัมบูรณ์ ( แน่นอน ) ก็ตามสิ่งที่เป็นผล ( ผล ) จะต้องมีระดับความสมบูรณ์และความเข้มข้นน้อยกว่าสิ่งที่เป็นเหตุ ( เหตุ ) เหมือนกับแสงของดวงอาทิตย์ที่มีระดับความเข้มข้นและความสมบูรณ์ที่น้อยกว่าดวงอาทิตย์ดังนั้นจะนั้นจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

อาจมีผู้ตั้งข้อสงสัยต่อว่าในเมื่อโลกนี้ไม่อาจดำรงอยู่ได้โดยปราศจากความชั่วร้ายแล้วเหตุใดพระเจ้าจึงยังต้องสร้างโลกนี้ขึ้นมาอีกไม่เป็นการดีกว่าหรือที่พระองค์จะทรงระงับการสร้างโลกนี้ไว้จะจะได้ไม่เกิดขึ้น ?

จริงอยู่ที่ข้อสงสัยดังกล่าวเป็นข้อสงสัยที่น่าคิดแต่หากเราได้พิจารณาถึงความเป็นเหตุสัมบูรณ์ของพระเจ้าแล้วเราก็จะเข้าใจได้ทันทีว่าการเกิดขึ้นของโลกนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นโดยหลีกเลี่ยงมิได้เสมือนกับกองไฟที่จะต้องเกิดขึ้นเมื่อมีเชื้อเพลิงและปัจจัยต่างจะที่จะทำให้เพลิงลุกไหม้

อนึ่งนักปรัชญาอิสลามหลายจะ faydh ท่านก็ได้นำเสนอทฤษฎีของการไหลหลั่ง ( อัล ,สิ่งที่ ) ที่กล่าวว่าสรรพสิ่งต่างจะจะต้องไหลหลั่งมาจากปฐมธาตุ ( หลักแรก ) อย่างไม่ขาดสายซึ่งปฐมธาตุในความหมายของพวกเขาก็คือพระเจ้าอีกทั้งสิ่งที่ไหลหลั่งลงมาจะต้องมีระดับความสมบูรณ์ที่ลดหลั่นกันไปหรือความร้อนที่มาจากไฟที่ยิ่งออกห่างจากแหล่งที่มาของมันมากเท่าใดความสมบูรณ์และความเข้มข้นของมันก็จะยิ่งลดน้อยลงไปเรื่อยจะซึ่งโลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นโลกที่อยู่ในระดับล่างของการมีอยู่

นี่คือโลกของความชั่วร้ายของคู่
เพราะโลกนี้เป็นโลกของวัตถุ เป็นโลกของการเคลื่อนไหว ( เคลื่อนไหว ) การเปลี่ยนแปลง ( change ) ความขัดแย้ง ( ความคมชัด ) และญาติ ( ญาติ ) แม้ว่าโลกนี้เป็นผลมาจากการสร้างของสิ่งมีชีวิต , สัมบูรณ์ ( Absolute ) แต่ หากพิจารณาตามกฎของเหตุและผลอะไรคือผล ( Effect ) ต้องมีความสมบูรณ์และความเข้มข้นน้อยกว่าสิ่งที่เป็นเหตุ ( เหตุ ) เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่ระดับความเข้มของแสงและความสมบูรณ์ที่มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์มาก การดำรงอยู่ของโลกนี้ไม่มีความชั่วร้ายและความทุกข์ทุกชนิดของความชั่วร้าย มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

คนที่สามารถตั้งค่าคำถามนี้เมื่อการดำรงอยู่ไม่ใช่โลกนี้ไม่มีความชั่วร้าย ?แล้วทำไมพระเจ้ายังสร้างโลกขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่ดีกว่าหรือที่เขาจะระงับการสร้างโลกนี้ เพื่อให้ความชั่วร้ายและความทุกข์จะไม่เกิดขึ้น ? ความจริง

คือว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่น่าคิด แต่ถ้าเราพิจารณาแน่นอน เหตุผลของพระเจ้าเราก็จะเข้าใจได้ทันทีว่า การเกิดขึ้นของโลกนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนสูงเกินไปนี้เป็นเพราะเมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น แล้วผลมันจะเกิดขึ้นกับไฟเสมือนจริง เกิดขึ้นเมื่อมีไฟ และปัจจัยที่จะทำให้ไฟเผา

หลายนักปรัชญาอิสลามหลายคนได้เสนอทฤษฎีของริน ( อัล faydh , สิ่งที่ )ใครว่าสิ่งที่รินจากองค์ประกอบแรก ( หลักแรก ) โดยไม่พลาด เรียกได้ว่าองค์ประกอบแรกในความหมายของพวกเขาเป็นพระเจ้า นอกจากนี้ สิ่งที่รินมีความสมบูรณ์ที่เป็นแสงที่ส่องจากดวงจันทร์ หรือ ความร้อนที่มาจากไฟมากขึ้นห่างจากแหล่งที่มาของมัน ความสมบูรณ์และความเข้มของมันก็จะน้อยลง ดังนั้น โลกที่เราอาศัยอยู่นี้ เป็นโลกที่ยังอยู่ในระดับล่างของการดำรงอยู่ .