great promises for improving world

great promises for improving world food security through the enhancement of agricultural yield in developing continents such as Africa and Asia, which together hold approximately 50% and
74% of the total land mass and population of the globe, respectively
(Population Reference Bureau, 2012).
Unlike chemical fertilizers, digestate biofertilizers can be cheaply produced through anaerobic digestion anywhere, utilizing a wide range of raw materials including agro, commercial and domestic wastes. Population growth and rising living standard have led to a great increase in food waste generation (Curry and Pillay, 2012). Sewage sludge has also been predicted to increase continuously in the next decade as a result of increasing population connected to sewage networks (Dai et al., 2013). Direct landfiling of food wastes has created various problems such as putrid smell and leachate pollution of ground and surface waters (Ming et al., 2008), and incineration has also been restricted due to its generation of greenhouse gases (Donald, 1988). Anaerobic digestion as a sustainable waste treatment technology transforms organic matter into biogas and reduces the amount of pathogens in digestates (Martínez et al., 2012).
The demand for digestate biofertilizer is dependent on compliance with quality standards (Alburquerque et al., 2012). Though the use of digestate biofertilizer to increase agricultural food production, and soil improvement has been established, its safety as determined by the amount of pathogens contained is still of public health concern to end users (Alfa et al., 2014). Reports on the fertilizer and sanitary quality of digestate from anaerobic digestion are scanty in scientific literature, despite the large vol- ume of literature on biogas yield from various substrates. However, the fertilizer potential of digestate from farm and agro-industrial residues was investigated by Alburquerque et al. (2012). Johansen et al. (2013) have also reported that digestate biofertilizer increases soil microbial community. Alfa et al. (2014) have assessed the biofertilizer quality of digestate from the digestion of cow dung and chicken droppings. The properties of guinea pig manure digestate were reported by Garfi et al. (2011).
Despite the numerous benefits of digestate biofertilizer to agricultural production, the relative abundance and ease of gener- ation of chosen substrates within the particular region of proposed usage should also be given due consideration, inorder to meet with demands. Food wastes and excreta are among the most common wastes generated in Nigeria and are carelessly disposed into the environment to constitute public health risk. The objective of this research therefore is to assess the biofertilizer and sanitary quality of the digestate resulting from the mesophilic anaerobic co-digestion of food waste and human excreta.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สัญญาที่ดีสำหรับการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยของอาหารโลก โดยเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิตทางการเกษตรในการพัฒนาทวีปแอฟริกาและเอเชีย ที่กันประมาณ 50% และ74% ของแผ่นดินรวมมวลและประชากรของโลก ตามลำดับ(สำนักงานอ้างอิงประชากร 2012)ซึ่งแตกต่างจากปุ๋ยเคมี digestate biofertilizers สามารถย่านผลิตไม่ใช้ย่อยอาหารได้ ใช้ประโยชน์จากความหลากหลายของวัตถุดิบรวมทั้งเกษตร ประเทศ และพาณิชย์เสีย อัตราการเติบโตและเพิ่มมาตรฐานชีวิตได้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นมากในการสร้างขยะอาหาร (แกงและ Pillay, 2012) กากตะกอนมีการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทศวรรษถัดไปจากการเพิ่มประชากรที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายน้ำเสีย (Dai et al., 2013) Landfiling โดยตรงของอาหารเสียได้สร้างปัญหาต่าง ๆ เช่นกลิ่น putrid และ leachate มลพิษของดินและผิวน้ำ (หมิ et al., 2008), และเผายังถูกจำกัดเนื่องจากการสร้างก๊าซเรือนกระจก (โดนัลด์ 1988) ย่อยอาหารที่ไม่ใช้ออกซิเจนเป็นเทคโนโลยีที่ยั่งยืนรักษาแปลงอินทรีย์เป็นก๊าซชีวภาพ และลดจำนวนของโรคใน digestates (Martínez et al., 2012)ความต้องการสำหรับ digestate biofertilizer จะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามมาตรฐานคุณภาพ (Alburquerque et al., 2012) แม้ว่ามีการสร้างใช้ biofertilizer digestate เพื่อเพิ่มการผลิตอาหารเกษตร และปรับปรุงดิน ความปลอดภัยของที่จำนวนโรคที่มีอยู่เป็นของสาธารณสุขกังวลผู้ (อัลฟาเอ็ด al., 2014) ยังคง รายงานเกี่ยวกับปุ๋ยและ digestate จากไม่ใช้ย่อยอาหารคุณภาพสุขาภิบาล scanty scientific วรรณคดี แม้ vol-ออฟฟิศใหญ่ของวรรณคดีบนผลผลิตก๊าซชีวภาพจากพื้นผิวต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม เป็นปุ๋ยของ digestate จากฟาร์มและอุตสาหกรรมเกษตรตกถูกสอบสวนโดย Alburquerque et al. (2012) Al. et Johansen (2013) มียังรายงานว่า biofertilizer digestate เพิ่มชุมชนจุลินทรีย์ดิน อัลฟาเอ็ด al. (2014) ได้ประเมินคุณภาพ biofertilizer digestate จากการย่อยอาหารของมูลวัว และมูลไก่ คุณสมบัติของอ้อยมูล digestate ที่รายงานโดย Garfi et al. (2011)แม้ มี benefits มากมายของ biofertilizer digestate การเกษตร ความสัมพันธ์และง่าย gener-ation ของท่านได้ภายในภูมิภาคโดยเฉพาะการใช้เสนอควรยังจะครบกำหนดพิจารณา inorder เพื่อตอบสนองกับความต้องการ กากอาหารและ excreta เป็นขยะทั่วไปที่สร้างขึ้นในไนจีเรีย และลวก ๆ ได้ขายทิ้งในสิ่งแวดล้อมสาธารณสุขความเสี่ยงว่าเป็น ดังนั้นวัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการ ประเมิน biofertilizer และคุณภาพสุขาภิบาลของ digestate เกิดจาก mesophilic ไม่ใช้ร่วมย่อยอาหารขยะอาหารและมนุษย์ excreta

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สัญญาที่ดีสำหรับการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยอาหารของโลกผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิตทางการเกษตรในทวีปพัฒนาเช่นแอฟริกาและเอเชียซึ่งถือหุ้นรวมกันประมาณ 50% และ
74% ของมวลรวมที่ดินและจำนวนประชากรของโลกตามลำดับ
(ประชากรอ้างอิงสำนัก, 2012) .
ซึ่งแตกต่างจากปุ๋ยเคมี biofertilizers ย่อยสลายสามารถผลิตได้อย่างถูกผ่านการหมักได้ทุกที่ใช้ความหลากหลายของวัตถุดิบรวมทั้งการเกษตรการค้าและของเสียในประเทศ การเติบโตของประชากรและคุณภาพชีวิตที่เพิ่มขึ้นได้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมากในการผลิตอาหารเสีย (แกงและ Pillay, 2012) กากตะกอนน้ำเสียยังได้รับการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทศวรรษหน้าเป็นผลมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายน้ำเสีย (ได et al., 2013) สายที่ดินโดยตรงลิงของเสียอาหารได้สร้างปัญหาต่างๆเช่นกลิ่นเน่าเหม็นและมลพิษทางน้ำชะขยะจากพื้นดินและน้ำผิวดิน (หมิง et al., 2008) และการเผายังถูก จำกัด เนื่องจากรุ่นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (โดนัลด์, 1988) การย่อยอาหาร Anaerobic เป็นเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียอย่างยั่งยืนเปลี่ยนสารอินทรีย์เป็นก๊าซชีวภาพและช่วยลดปริมาณของเชื้อโรคในมูลสัตว์ (Martínez et al., 2012).
ความต้องการใช้ปุ๋ยชีวภาพย่อยสลายจะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามมาตรฐานที่มีคุณภาพ (เก et al., 2012) . แม้ว่าการใช้ปุ๋ยชีวภาพย่อยสลายเพื่อเพิ่มการผลิตอาหารการเกษตรและการปรับปรุงดินได้รับการจัดตั้งความปลอดภัยตามที่กำหนดโดยปริมาณของเชื้อโรคที่มีอยู่ยังคงเป็นความกังวลต่อสุขภาพของประชาชนให้กับผู้ใช้ (อัลฟ่า et al., 2014) รายงานเกี่ยวกับปุ๋ยที่มีคุณภาพและสุขอนามัยของย่อยสลายจากการย่อยสลายแบบไร้อากาศมีน้อยมากในทางวิทยาศาสตร์วรรณกรรมคแม้จะเมะปริมาตรขนาดใหญ่ของวรรณกรรมที่มีต่อผลผลิตก๊าซชีวภาพจากพื้นผิวต่างๆ อย่างไรก็ตามการที่มีศักยภาพของปุ๋ยย่อยสลายสารตกค้างจากฟาร์มและอุตสาหกรรมเกษตรได้รับการตรวจสอบโดยเกร์และคณะ (2012) ฮันเซนและคณะ (2013) ยังได้รายงานว่าปุ๋ยชีวภาพย่อยสลายเพิ่มชุมชนจุลินทรีย์ดิน อัลฟ่าและคณะ (2014) ได้รับการประเมินคุณภาพของปุ๋ยชีวภาพย่อยสลายจากการย่อยของมูลวัวและมูลไก่ คุณสมบัติของย่อยสลายมูลสุกรตะเภาได้รับรายงานจากสายการ์และคณะ (2011).
แม้จะมีหลายสาย Bene TS ของปุ๋ยชีวภาพย่อยสลายเพื่อการผลิตทางการเกษตรญาติพี่น้องมากมายและความสะดวกใน ation คงเหลือของพื้นผิวได้รับการแต่งตั้งในภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานที่นำเสนอก็ควรจะได้รับการพิจารณาเนื่องจาก inorder เพื่อตอบสนองกับความต้องการ เสียอาหารและอุจจาระอยู่ในหมู่ผู้เสียที่พบมากที่สุดที่เกิดขึ้นในไนจีเรียและมีการจำหน่ายลวกในสภาพแวดล้อมจะเป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้จึงเป็นที่จะประเมินปุ๋ยชีวภาพและคุณภาพของการสุขาภิบาลที่เกิดจากการย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจน mesophilic ร่วมการย่อยเศษอาหารและอุจจาระของมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สัญญาที่ดีสำหรับการปรับปรุงความมั่นคงด้านอาหารผ่านการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในทวีปที่กำลังพัฒนา เช่น แอฟริกา และเอเชีย ซึ่งร่วมกันถือประมาณ 50% และ
74% ของมวลที่ดินทั้งหมด และประชากรของโลกตามลำดับ
( สำนักประชากรอ้างอิง 2012 ) .
ซึ่งแตกต่างจากปุ๋ยเคมีdigestate ปุ๋ยชีวภาพสามารถถูกผลิตผ่านระบบการย่อยอาหารได้ทุกที่ ใช้ความหลากหลายของวัตถุดิบ ได้แก่ เกษตร , ของเสียเชิงพาณิชย์และในประเทศ การเติบโตของประชากรและ rising มาตรฐานการครองชีพได้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมากในการผลิตอาหารขยะ ( แกงและ พิลเลย์ , 2012 )กากตะกอนน้ำเสียยังถูกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทศวรรษหน้า เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของประชากรที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายสิ่งปฏิกูล ( ได et al . , 2013 ) หลิงจึงที่ดินโดยตรงของกากอาหารได้สร้างปัญหาต่างๆ เช่น กลิ่นเน่าเหม็นและมลพิษของน้ำผิวดินและน้ำ ( หมิง et al . , 2008 )การเผาไหม้และยังถูก จำกัด เนื่องจากรุ่นของก๊าซเรือนกระจก ( Donald , 1988 ) ระบบการย่อยอาหารเป็นเทคโนโลยีการบำบัดของเสียอย่างยั่งยืนแปลงอินทรีย์เป็นก๊าซชีวภาพ และลดปริมาณเชื้อโรคใน digestates ( มาร์ตีเนซ et al . , 2012 ) .
ความต้องการ digestate ปุ๋ยชีวภาพขึ้นอยู่กับความสอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพ ( alburquerque et al . , 2012 )แม้ว่าการใช้ digestate ปุ๋ยชีวภาพเพื่อเพิ่มการผลิตอาหาร การเกษตร และปรับปรุงดิน ได้ก่อตั้งขึ้น , ความปลอดภัยของตามที่กำหนดโดยปริมาณของเชื้อโรคที่มีอยู่ยังมีปัญหาสาธารณสุขแก่ผู้ใช้ ( อัลฟ่า et al . , 2010 ) รายงานเกี่ยวกับปุ๋ยและคุณภาพสุขอนามัยของ digestate จากการหมักจะขาดแคลนใน scienti จึง C วรรณกรรมแม้จะมี Vol - ใหญ่อุเมะวรรณกรรมในผลผลิตก๊าซชีวภาพจากวัสดุต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ศักยภาพของ digestate ปุ๋ยตกค้างจากฟาร์มและเกษตรอุตสาหกรรมถูกตรวจสอบโดย alburquerque et al . ( 2012 ) Johansen et al . ( 2013 ) นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า digestate ปุ๋ยชีวภาพเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน ชุมชน อัลฟ่า et al .( 2014 ) ประเมินคุณภาพของ digestate ปุ๋ยชีวภาพจากมูลสัตว์และมูลไก่ การย่อยอาหารของวัว . คุณสมบัติของหนูตะเภามูล digestate ถูกรายงานโดย Gar จึง et al . ( 2011 )
แม้จะมีมากมายดีจึง TS ของ digestate ปุ๋ยชีวภาพเพื่อการผลิตทางการเกษตรเทียบกับความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกของมกราคม - ation ของเลือกพื้นผิวภายในภูมิภาค โดยเฉพาะการเสนอควรให้พิจารณาเนื่องจาก inorder เพื่อตอบสนองกับความต้องการ กากอาหารและของเสียในร่างกายอยู่ในหมู่ผู้ที่พบมากที่สุดของเสียที่เกิดในไนจีเรีย และเผลอทิ้งสู่สิ่งแวดล้อมจะถือเป็นความเสี่ยงทางสาธารณสุขการวิจัยนี้จึงเป็นการประเมินปุ๋ยชีวภาพคุณภาพและอนามัยของ digestate ที่เกิดจากการย่อยอาหาร anaerobic Co มีเศษอาหารและของเสียในร่างกายมนุษย์ .