Skill Cluster 1: Classroom Structur

Skill Cluster 1: Classroom Structure to Discourage Misbehavior: Jones believes teachers should create a classroom structure that works to prevent behavior problems. It is important to set up the classroom structure in the first weeks of school. Two methods are:
Room Arrangement - Teachers must minimize the physical distance between themselves and their students. Jones believes that teachers should be constantly moving among their students. He suggests creating an "interior loop" so teachers can move easily among the classroom.
Opening Routines - Teachers must open each class with bell work that does not require active instruction from the teacher. Jones suggests that students should start working the moment they enter the classroom. The bell work should consume about the first five minutes of class, which helps to eliminate the problem of students settling in. (Source)
Others include:
Classroom Chores
Classroom Rules
Skill Cluster 2: Limit-Setting through Body Language: Jones says that teachers must discipline through the use of body language rather than with words, which use up teaching time. “The ultimate goal of limit setting is to prompt students to get back to work.” (Source) Jones also stresses the importance of a teacher's body language as a factor in determining students’ good behavior in class. It is important for teachers to remain calm and use body language to set limits. One method is:
Physical Proximity - By moving closer to a misbehaving student, teachers can stop the misbehavior, avoid verbal confrontation and can continue with instruction.
Others include:
Proper breathing
Eye contact
Body carriage
Skill Cluster 3: Using Say, See, Do Teaching: "Say, See, Do Teaching is another essential tool for teachers. It structures the lesson into a series of "Say, See, Do Cycles" which cause students to continually learn by doing. It becomes the students' job to actively engage in learning activities while the teacher checks for understanding." (Source)
Say, See, Do Teaching - During a lesson, teachers must tell students what to do, show them what to do, and then have them do it before having time to forget it. Throughout the lesson, this process is repeated as teachers provide information to the students in short intervals. Teachers must have students learn by doing, one step at a time. Jones states that it is important to focus on students’ correct performance rather than remembering what was said. (Source)
The process looks like: teacher input -> student output -> teacher input -> student output -> teacher input -> student output

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทักษะคลัสเตอร์ 1: โครงสร้างห้องเรียนกีดกัน Misbehavior: โจนส์เชื่อว่า ครูควรสร้างโครงสร้างห้องเรียนที่ทำงานเพื่อป้องกันปัญหาพฤติกรรม ต้องตั้งค่าโครงสร้างห้องเรียนในสัปดาห์แรกของโรงเรียนได้ มีสองวิธี:การจัดห้องพัก - ครูต้องลดระยะห่างทางกายภาพระหว่างตนเองและนักศึกษา โจนส์เชื่อว่า ครูควรจะเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในหมู่นักศึกษา เขาแนะนำให้สร้างเป็น "ลูปภายใน" เพื่อให้ครูสามารถย้ายได้ระหว่างเรียนคำสั่งเปิด - ครูต้องเปิดแต่ละคลาส มีระฆังงานที่ต้องการใช้งานคำแนะนำจากครู โจนส์แนะนำนักเรียนควรเริ่มต้นทำงานขณะเข้าห้องเรียน งานเบลล์ควรบริโภคเกี่ยวกับห้านาทีแรกของคลาส ซึ่งช่วยขจัดปัญหาของนักเรียนที่ชำระเงินค่ะ (ต้นทาง)บริการอื่น ๆ:งานห้องเรียนกฎของห้องเรียนทักษะคลัสเตอร์ 2: จำกัดการตั้งค่าผ่านทางภาษากาย: โจนส์กล่าวว่า ครูต้องสอนโดย ใช้ภาษากาย แทน ด้วยถ้อย คำ ซึ่งใช้เวลาการสอน "เป้าหมายสูงสุดของการตั้งค่าขีดจำกัดคือให้นักเรียนกลับไปทำงาน" (ต้นทาง) โจนส์ยังเน้นความสำคัญของภาษากายของครูเป็นปัจจัยในการกำหนดพฤติกรรมดีของนักเรียนในชั้นเรียน มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครูเพื่อสงบสติอารมณ์ และใช้ภาษากายเพื่อจำกัด วิธีการหนึ่งคือ:ความใกล้ชิดทางกายภาพ - โดยย้ายใกล้ชิดกับนักเรียน misbehaving ครูสามารถหยุดการ misbehavior หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าด้วยวาจา และสามารถต่อกับคำแนะนำบริการอื่น ๆ: การหายใจที่เหมาะสมตาขนส่งของร่างกายทักษะคลัสเตอร์ 3: ใช้พูด ดู สอนทำ: "พูด ดู ทำสอนเป็นอีกเครื่องมือสำคัญสำหรับครู เรื่องโครงสร้างบทเรียนในชุดของ "พูด เห็น รอบ" ซึ่งทำให้นักเรียนเรียนรู้ ด้วยการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เป็นงานที่นักเรียนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกิจกรรมการเรียนรู้ในขณะที่ครูตรวจสอบความเข้าใจ" (ต้นทาง)พูด ดู สอนทำ - ในระหว่างบทเรียน ครูต้องแจ้งนักศึกษาสิ่งที่ต้องทำ แสดงสิ่งที่ต้องทำ และจากนั้น ให้ทำก่อนเวลาที่จะลืมมัน ตลอดบทเรียน กระบวนการนี้จะซ้ำกับครูให้ข้อมูลแก่นักเรียนในช่วงเวลาสั้น ๆ ครูต้องเรียนรู้ โดยการทำ ขั้นตอนหนึ่งที่นักเรียน โจนส์ระบุว่า สิ่งสำคัญคือต้องเน้นนักเรียนถูกต้องประสิทธิภาพมากกว่าจดจำคำพูด (ต้นทาง) การค้นหาเช่น: ครูป้อนผลผลิตนักเรียน -> -> ครูป้อนผลผลิตนักเรียน -> -> ครูป้อนผลผลิตนักเรียน ->

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทักษะคลัสเตอร์ที่ 1: โครงสร้างห้องเรียนที่จะกีดกันความซุกซน: โจนส์เชื่อว่าครูควรสร้างโครงสร้างห้องเรียนที่ทำงานเพื่อป้องกันปัญหาพฤติกรรม มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะตั้งค่าโครงสร้างห้องเรียนในสัปดาห์แรกของโรงเรียน สองวิธีคือการจัดห้องพัก - ครูจะต้องลดระยะห่างทางกายภาพระหว่างตัวเองและนักเรียนของพวกเขา
โจนส์เชื่อว่าครูควรจะมีการเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่องในหมู่นักเรียนของพวกเขา เขาแสดงให้เห็นการสร้าง "ห่วงภายใน" เพื่อให้ครูสามารถย้ายได้อย่างง่ายดายในหมู่ห้องเรียน.
เปิดตามปกติ - ครูต้องเปิดแต่ละชั้นเรียนกับการทำงานระฆังที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานการเรียนการสอนจากครู โจนส์แสดงให้เห็นว่านักเรียนควรจะเริ่มต้นการทำงานขณะที่พวกเขาเข้าสู่ห้องเรียน งานระฆังควรกินประมาณห้านาทีแรกของการเรียนซึ่งจะช่วยขจัดปัญหาของนักเรียนปักหลักอยู่ที่ (ที่มา).
อื่น ๆ รวมถึง: เหลือเกินห้องเรียนกฎห้องเรียนทักษะคลัสเตอร์ที่2: การ จำกัด การตั้งค่าผ่านภาษากาย: โจนส์กล่าวว่าครูต้อง วินัยผ่านการใช้ภาษากายมากกว่ากับคำซึ่งใช้เวลาการเรียนการสอน "เป้าหมายสูงสุดของการ จำกัด การตั้งค่าเพื่อให้นักเรียนที่จะได้รับกลับไปทำงาน." (ที่มา) โจนส์ยังเน้นถึงความสำคัญของภาษากายของครูเป็นปัจจัยในการพิจารณาของนักเรียนพฤติกรรมที่ดีในชั้นเรียน มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครูที่จะอยู่ในความสงบและใช้ภาษากายในการกำหนดวงเงิน วิธีการหนึ่งคือความใกล้ชิดทางกายภาพ - โดยการย้ายใกล้ชิดกับนักเรียนไม่หยุดหย่อนครูสามารถหยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม, หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางวาจาและสามารถดำเนินการกับการเรียนการสอน. อื่น ๆ รวมถึงการหายใจที่ถูกต้องสัมผัสกับตาการขนส่งร่างกายทักษะคลัสเตอร์ที่3: ใช้พูดดูทำการเรียนการสอน "พูดดู Do การเรียนการสอนเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับครูผู้สอนโครงสร้างมันบทเรียนเป็นชุดของ." กล่าวว่าเห็นทำวงจร "ซึ่งเป็นสาเหตุให้นักเรียนอย่างต่อเนื่องได้เรียนรู้โดยการทำมันจะกลายเป็นงานของนักเรียนในการแข็งขันส่วนร่วมในการ. กิจกรรมการเรียนรู้ในขณะที่ครูจะตรวจสอบเพื่อความเข้าใจ. " (ที่มา) กล่าวว่าดูการเรียนการสอนทำ - ในระหว่างเรียนครูจะต้องบอกนักเรียนว่าจะทำอย่างไรให้พวกเขาได้สิ่งที่ต้องทำแล้วมีพวกเขาทำมันก่อนที่จะมีเวลาที่จะลืมมัน ตลอดบทเรียนกระบวนการนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นครูผู้ให้ข้อมูลแก่นักเรียนในช่วงเวลาสั้น ๆ ครูจะต้องมีนักเรียนได้เรียนรู้โดยการทำขั้นตอนหนึ่งที่เวลา โจนส์กล่าวว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่จะมุ่งเน้นประสิทธิภาพการทำงานที่ถูกต้องของนักเรียนมากกว่าการจดจำสิ่งที่ถูกกล่าว (ที่มา) กระบวนการนี้ดูเหมือนว่า: การป้อนข้อมูลครู -> เอาท์พุทของนักเรียน -> การป้อนข้อมูลครู -> เอาท์พุทของนักเรียน -> การป้อนข้อมูลครู -> เอาท์พุทของนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลุ่มทักษะ 1 : ห้องเรียนโครงสร้างห้ามปรามพฤติกรรมไม่เหมาะสม โจนส์ เชื่อครูควรสร้างห้องเรียนโครงสร้างที่ทํางาน เพื่อป้องกันปัญหาพฤติกรรม มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดโครงสร้างชั้นเรียนในสัปดาห์แรกของโรงเรียน สองวิธี :
จัดห้องครูต้องลดระยะห่างทางกายภาพระหว่างตนเองและนักเรียนโจนส์เชื่อว่า ครูควรจะเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของนักเรียนของพวกเขา เขาแนะนำการสร้างภายใน " ห่วง " เพื่อให้ครูสามารถย้ายได้อย่างง่ายดายระหว่างห้องเรียน ครูต้องเปิด
เปิดตามปกติแต่ละชั้นเรียน มีกระดิ่ง งานที่ไม่ต้องใช้งาน การสอนจากอาจารย์ โจนส์แสดงให้เห็นว่านักศึกษาควรเริ่มทำงานตั้งแต่เขาเข้าห้องเรียนระฆังทำงานควรกินประมาณ 5 นาทีแรกของชั้นเรียน ซึ่งจะช่วยขจัดปัญหาของนักศึกษา การจ่ายเงินใน ( แหล่ง )


คนอื่นรวมถึงงานบ้านห้องเรียนห้องเรียนกฎ
กลุ่มทักษะ 2 : จำกัดการตั้งค่าผ่านทางภาษากาย : โจนส์กล่าวว่า ครูต้องมีวินัยผ่านการใช้ภาษากายมากกว่าด้วยคำพูด ซึ่งใช้เวลาในการสอน" เป้าหมายสูงสุดของการตั้งค่าขีด จำกัด เพื่อให้นักศึกษาที่จะกลับไปทำงาน " ( แหล่ง ) โจนส์ยังเน้นความสำคัญของการเป็นครูภาษาร่างกายเป็นปัจจัยในการกำหนดพฤติกรรมที่ดีของนักเรียนในชั้นเรียน มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครูเพื่อสงบสติอารมณ์ และใช้ภาษากายเพื่อตั้งค่าขีดจำกัด วิธีหนึ่งคือความใกล้ชิดทางกายภาพ :
- โดยการย้ายใกล้ชิดกับการทํางาน นักเรียน นักศึกษาครูสามารถหยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าด้วยวาจา และสามารถสอนผู้อื่นรวมถึง : .



ร่างกายการหายใจที่เหมาะสมสบตารถม้า
ทักษะกลุ่มที่ 3 : ใช้พูด เห็นไหม ทำการสอน : " พูด เห็นไหม ทำการสอนเป็นอีกเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับครู มันโครงสร้างบทเรียนในชุด " พูด เห็นไหม ทำวงจร " ซึ่งสาเหตุที่นักเรียนต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่องด้วยการทำมันกลายเป็นงานที่นักศึกษามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกิจกรรมการเรียนรู้ ขณะที่ครูตรวจสอบความเข้าใจ " ( แหล่ง )
พูด เห็นไหม ทำการเรียนการสอนในบทเรียน ครูต้องบอกนักศึกษาจะทำอย่างไร แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ทำแล้วมีให้ทำก่อนที่จะมีเวลาที่จะลืมมัน ตลอดทั้งบทเรียนกระบวนการนี้จะทำซ้ำเป็นครูให้ความรู้แก่นักเรียน ในช่วงเวลาสั้น ๆ ครูต้องมีการเรียนรู้ของนักเรียน โดยการทำขั้นตอนหนึ่งที่เวลา โจนส์กล่าวว่า มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเน้นการปฏิบัติงานที่ถูกต้องของนักเรียนมากกว่าการจำสิ่งที่ถูกกล่าวว่า ( แหล่ง )
กระบวนการดูเหมือน :ครู - นักเรียนเข้าออก - > ครูใส่ - > นักศึกษาออก - > ครูใส่ - > นักศึกษาออก