Scientists have pieced together the

Scientists have pieced together the world’s earliest murder mystery, showing that an ancient human appears to have met their end after being bludgeoned to death and thrown down a cave shaft.

The skull, which has two holes above the left eye, belonged to an early human closely related to Neanderthals who lived around 430,000 years ago. The discovery suggests that violence and murder long predate the emergence of modern humans, around 200,000 years ago.

The skull was pieced together from 52 fragments found in an underground cave at the Sima de los Huesos archeological site in northern Spain. The almost complete skull shows clear evidence of two serious impacts. The scientists found no evidence that any healing had taken place around the holes, indicating that the blows were either fatal or occurred after death.

Nohemi Sala, a palaeontologist who led the analysis at the Institute of Health Carlos III in Madrid, said: “We believe that violence caused the death of this individual. It would be very unlikely to break the cranium twice in nearly the same place, accidentally.”

Assuming that the murder thesis is correct, the latest analysis could shed light on the significance of other finds at the Sima de los Huesos. In 2013, scientists reported on the discovery of more than 28 early human skeletons, all excavated from the same cave. Since the site is only accessible via a 13m vertical shaft – and there is no evidence that it was used as a dwelling place – questions have arisen about how the skeletons ended up there in the first place.

Skull Sima de los Huesos Facebook Twitter Pinterest
Pieced together from 52 fragments, the skull has two puncture wounds above its left eye, suggesting the victim was bludgeoned to death. Photograph: PR
The discovery of an individual who appears to have been murdered would seem to rule out the possibility that the shaft was acting as a death trap. “It’s not possible to have an accident down there if you’re already dead,” said Sala.

Instead, it is likely that the bodies were carried to the cave entrance and dropped down the shaft after they were killed by fellow humans, according to the paper in PLOS One.

This suggests that early humans began burying – or at least collecting – their dead far earlier than thought. Previously, scientists had found evidence that Neanderthal bones from up to 15 bodies, dating back around 225,000 years, may have been deliberately placed in Pontnewydd cave in Wales.

The researchers said that finding evidence for brutal violence among early humans was not altogether surprising. “Violence is a very usual behaviour for animals,” said Sala. “It’s not surprising that interpersonal violence took place.”

The apparent use of a murder weapon, even if it was only a stone, and the apparent repeated blows to the head hints that humans were turning their increasingly sophisticated intellect towards violent ends as well as towards cooperation and survival.

“It implies a clear intent to kill,” said Sala.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิทยาศาสตร์ได้ pieced กันในโลกสุดฆาตกรรมลึกลับ แสดงว่า มนุษย์โบราณที่ปรากฏ ตรงตามการสิ้นสุดหลังจาก bludgeoned ตาย และโยนลงเพลาถ้ำกะโหลกศีรษะ ที่มีสองข้างตาซ้าย เป็นสมาชิกบุคคลต้นสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Neanderthals ผู้อาศัยอยู่ประมาณ 430,000 ปี การค้นพบแสดงให้เห็นว่า ความรุนแรงและการฆ่ายาว predate การเกิดขึ้นของมนุษย์สมัยใหม่ ประมาณ 200000 ปีที่ผ่านมากะโหลกศีรษะมี pieced กันจาก 52 ชิ้นส่วนที่พบในถ้ำใต้ดินมีสีมา de los Huesos โบราณสถานในภาคเหนือ กะโหลกศีรษะเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้วแสดงหลักฐานที่ชัดเจนของผลกระทบร้ายแรงสอง ที่นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานไม่ว่า ใด ๆ รักษาสารภาพรอบ ๆ หลุม ระบุว่า พัดที่ไม่ร้ายแรง หรือเกิดขึ้นหลังความตายศาลา Nohemi, palaeontologist ผู้วิเคราะห์ที่สถาบันของสุขภาพ Carlos III ในกรุงมาดริด กล่าวว่า: "เราเชื่อว่า ความรุนแรงเกิดจากการตายของแต่ละนี้ มันจะยากมากที่จะทำลาย cranium สองในเกือบเหมือน ตั้งใจ"สมมติว่าวิทยานิพนธ์ฆาตกรรมถูกต้อง การวิเคราะห์ล่าสุดสามารถหลั่งน้ำตาแสงในความสำคัญของการค้นหาอื่น ๆ ที่ลอสเดของสีมา Huesos ในปี 2013 นักวิทยาศาสตร์รายงานการค้นพบของมากกว่า 28 ต้นโครงกระดูกมนุษย์ ทั้งหมดที่ขุดพบจากถ้ำเดียวกัน เนื่องจากเว็บไซต์จะสามารถเข้าถึงได้ผ่านเพลาแนวตั้ง 13 เมตร – และมีหลักฐานไม่ให้ถูกใช้เป็นอยู่อาศัย – มีเกิดคำถามเกี่ยวกับว่าโครงกระดูกสิ้นสุดมีแรก กะโหลกศีรษะสีมา de los Huesos เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ Pinterest Pieced กันจากบางส่วนของ 52 กะโหลกศีรษะมีแผลยางแตกสองข้างตาซ้าย แนะนำเหยื่อถูก bludgeoned ตาย ถ่ายรูป: PRการค้นพบบุคคลที่ดูเหมือนจะมีการฆาตกรรมจะดูเหมือนการ ยกเลิกนั้นเพลาทำหน้าที่เป็นกับดักตาย "ไม่ได้มีคุณอยู่แล้วตาย อุบัติเหตุลงมี" กล่าวว่า ศาลาแทน มีแนวโน้มว่า ศพถูกนำไปเข้าถ้ำ และหล่นลงเพลาหลังจากพวกเขาได้ฆ่าเพื่อนมนุษย์ ตามกระดาษใน PLOS หนึ่งนี้แนะนำว่า มนุษย์แรกเริ่ม burying – หรือน้อย รวบ รวม – ความตายก่อนหน้านี้ไกลกว่าที่คิด ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์ได้พบหลักฐานว่า คหรือกระดูกจากร่างกายถึง 15 ลช่วยประมาณ 225,000 ปี อาจมีตั้งใจไว้ในถ้ำ Pontnewydd ในเวลส์นักวิจัยกล่าวว่า การค้นหาหลักฐานสำหรับความโหดร้ายรุนแรงในหมู่มนุษย์ก่อนไม่น่าแปลกใจทั้งหมด "ความรุนแรงเป็นพฤติกรรมที่ปกติมากสำหรับสัตว์ กล่าวว่า ศาลา "ไม่น่าแปลกใจว่า มนุษยสัมพันธ์ความรุนแรงเกิดขึ้น"การใช้ชัดเจนฆาตกรรมอาวุธ แม้มันเป็นเพียงหิน และการปรากฏซ้ำพัดให้คำแนะนำหัวที่ว่า มนุษย์ถูกเปิดสติปัญญาของพวกเขามีความซับซ้อนมากขึ้น ไปสิ้นสุดที่มีความรุนแรง และความร่วมมือและการอยู่รอด"มันหมายถึงความตั้งใจที่ชัดเจนจะฆ่า กล่าวว่า ศาลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิทยาศาสตร์ได้ปะติดปะต่อฆาตกรรมลึกลับที่เก่าแก่ที่สุดของโลกแสดงให้เห็นว่ามนุษย์โบราณที่ดูเหมือนจะได้พบจุดจบของพวกเขาหลังจากที่ถูกกระบองไปสู่ความตายและถูกโยนลงไปในปล่องถ้ำ. กะโหลกศีรษะที่มีสองหลุมเหนือตาซ้ายเป็นมนุษย์ในช่วงต้น เกี่ยวข้องกับยุคที่อาศัยอยู่รอบ 430,000 ปีที่ผ่านมา การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้ความรุนแรงและการฆาตกรรมนานขึ้นก่อนการเกิดขึ้นของมนุษย์สมัยใหม่ที่ประมาณ 200,000 ปีที่ผ่านมา. กะโหลกศีรษะถูกปะติดปะต่อจาก 52 ชิ้นส่วนที่พบในถ้ำใต้ดินที่โบราณคดีสีมาเดอลอ Huesos ในภาคเหนือของสเปน กะโหลกศีรษะเกือบเสร็จสมบูรณ์แสดงหลักฐานที่ชัดเจนของทั้งสองผลกระทบร้ายแรง . นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานว่าการรักษาใด ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ หลุมที่ระบุว่าพัดทั้งอันตรายถึงชีวิตหรือเกิดขึ้นหลังจากการตายNohemi ศาลาเป็น palaeontologist ที่นำการวิเคราะห์ที่สถาบันสุขภาพ Carlos III ในมาดริดกล่าวว่า "เรา เชื่อว่าการใช้ความรุนแรงที่เกิดจากการตายของแต่ละคนนี้ มันจะไม่น่าที่จะทำลายกะโหลกเป็นครั้งที่สองในรอบเกือบสถานที่เดียวกันตั้งใจ. "สมมติว่าวิทยานิพนธ์ฆาตกรรมที่ถูกต้องการวิเคราะห์ล่าสุดสามารถหลั่งน้ำตาแสงในความสำคัญของการค้นพบอื่นๆ ที่สีมาเดอลอ Huesos ในปี 2013 นักวิทยาศาสตร์รายงานเกี่ยวกับการค้นพบมากกว่า 28 โครงกระดูกมนุษย์ต้นทั้งหมดที่ขุดขึ้นมาจากถ้ำเดียวกัน เนื่องจากเว็บไซต์เป็นเพียงเข้าถึงได้ผ่านทาง 13m เพลาแนวตั้ง - และมีหลักฐานว่ามันถูกใช้เป็นสถานที่อยู่อาศัย - คำถามที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับวิธีการที่โครงกระดูกที่จบลงด้วยการมีในสถานที่แรก. กะโหลกสีมาเดอลอ Huesos Facebook Twitter Pinterest pieced ร่วมกันจาก 52 ชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะมีสองแผลเจาะเหนือตาซ้ายบอกเหยื่อถูกกระบองไปสู่ความตาย ภาพ: ประชาสัมพันธ์การค้นพบของบุคคลที่ดูเหมือนจะถูกฆ่าตายก็ดูเหมือนจะออกกฎความเป็นไปได้ว่าเพลากำลังทำหน้าที่เป็นกับดักตายที่ "มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเกิดอุบัติเหตุลงไปที่นั่นถ้าคุณตายไปแล้ว" ศาลา. กล่าวว่าแต่มันเป็นไปได้ว่าศพถูกนำไปปากถ้ำและลงเพลาหลังจากที่พวกเขาถูกฆ่าโดยเพื่อนมนุษย์ตาม . กระดาษใน PLoS One นี้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เริ่มต้นฝัง - หรืออย่างน้อยการจัดเก็บภาษี - ไกลตายเร็วกว่าที่คิด ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ได้พบหลักฐานที่แสดงว่ากระดูกมนุษย์ยุคหินได้ถึง 15 ศพย้อนหลังรอบ 225,000 ปีที่ผ่านมาอาจจะถูกวางไว้ในถ้ำจงใจ Pontnewydd ในเวลส์. นักวิจัยกล่าวว่าการหาหลักฐานสำหรับความรุนแรงที่โหดร้ายในหมู่มนุษย์ต้นไม่น่าแปลกใจโดยสิ้นเชิง "ความรุนแรงเป็นพฤติกรรมปกติมากสำหรับสัตว์," ศาลากล่าวว่า "มันไม่น่าแปลกใจว่าการใช้ความรุนแรงระหว่างบุคคลที่เกิดขึ้น." การใช้งานที่ชัดเจนของอาวุธที่ใช้สังหารแม้ว่ามันเป็นเพียงหินและพัดซ้ำที่เห็นได้ชัดที่ศีรษะเป็นนัย ๆ ว่ามนุษย์หันสติปัญญาความซับซ้อนมากขึ้นของพวกเขาที่มีต่อปลายที่มีความรุนแรงเช่นเดียวกับ ไปสู่ความร่วมมือและความอยู่รอด. "มันหมายถึงความตั้งใจที่ชัดเจนในการฆ่า" ศาลากล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิทยาศาสตร์ได้ปะติดปะต่อฆาตกรรมลึกลับที่สุดของโลก การแสดงที่เป็นมนุษย์โบราณที่ปรากฏตรงปลายของพวกเขาหลังจากที่ถูกตีด้วยกระบองจนตายและโยนลงถ้ำเพลา

กะโหลก ซึ่งมี 2 หลุม เหนือตาซ้าย เป็นต้น มนุษย์ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับมนุษย์ยุคหินที่อาศัยอยู่รอบ ๆ 430000 ปีก่อนการค้นพบแสดงให้เห็นว่าความรุนแรงและการฆาตกรรมเกิดขึ้นก่อนการเกิดของมนุษย์สมัยใหม่ ยาวประมาณ 200000 ปีที่แล้ว

กะโหลกศีรษะถูกปะติดปะต่อจาก 52 ชิ้นพบในถ้ำใต้ดินที่สีมา de los huesos โบราณคดีเว็บไซต์ในภาคเหนือของประเทศสเปน กะโหลกศีรษะที่สมบูรณ์เกือบแสดงหลักฐานชัดเจน 2 ร้ายแรงผลกระทบนักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานว่ามีการรักษาได้ยึดสถานที่รอบๆรู แสดงว่าพัดทั้งร้ายแรงหรือเกิดหลังจากตาย

nohemi ศาลา เป็นผู้ศึกษาซากดึกดำบรรพ์หรือซากฟอสซิลที่ทำให้การวิเคราะห์ที่สถาบันสุขภาพ Carlos III ใน มาดริด กล่าวว่า " เราเชื่อว่าความรุนแรงที่เกิดจากความตายของบุคคลนี้มันคงจะยากมากที่จะทำลายกะโหลกสองครั้งในเกือบจะที่เดียวกัน บังเอิญ "

สมมติว่ามีการฆาตกรรมที่ถูกต้อง การวิเคราะห์ล่าสุดสามารถหลั่งไฟบนความสำคัญของหาอื่น ๆที่ สีมา de los huesos . ใน 2013 , นักวิทยาศาสตร์รายงานการค้นพบมากกว่า 28 ต้นมนุษย์โครงกระดูกทั้งหมดที่ขุดพบจากถ้ำเดียวกันเนื่องจากเว็บไซต์เท่านั้นสามารถเข้าถึงได้ผ่านทาง 13M เพลาแนวตั้ง ) และไม่มีหลักฐานว่ามันถูกใช้เป็นสถานที่ที่อยู่อาศัย–คำถามเกิดขึ้นว่าโครงกระดูกก็มีในสถานที่แรก .

หัวสีมา de los huesos Facebook Twitter Pinterest
pieced กันจาก 52 เศษกะโหลก มี 2 รอยแผล เหนือตาซ้ายของมัน ว่าเหยื่อถูกทุบตีจนตายรูปถ่าย : PR
ค้นพบบุคคลที่ปรากฏจะถูกฆ่า น่าจะออกกฎความเป็นไปได้ที่เพลาทำตัวเป็นกับดักมรณะ " มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีอุบัติเหตุที่นั่นถ้าคุณตายแล้ว " ศาลา

แต่ก็มีแนวโน้มว่า ศพถูกขนไปยังถ้ำทางเข้าและหล่นลงเพลา หลังจากที่พวกเขาถูกฆ่าจากเพื่อนมนุษย์ตามกระดาษใน PLoS One .

ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ยุคแรกเริ่มฝัง ( หรืออย่างน้อยเก็บ–ตายแล้วไกลเร็วกว่าที่คิด ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์ได้พบหลักฐานว่ามนุษย์ยุคหินกระดูกจากถึง 15 ศพ ย้อนหลังประมาณ 225 , 000 ปี อาจมีเจตนาอยู่ในถ้ำ pontnewydd

ในเวลส์นักวิจัยกล่าวว่า การหาหลักฐานความรุนแรงป่าเถื่อนของมนุษย์แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่น่าแปลกใจ " ความรุนแรงเป็นพฤติกรรมปกติมากสำหรับสัตว์ กล่าวว่า ศาลา " มันไม่น่าแปลกใจว่า ความรุนแรงระหว่างบุคคลเกิดขึ้น "

การใช้ที่ชัดเจนของอาวุธฆาตกรรม แม้มันเป็นเพียงก้อนหินและปรากฏซ้ำๆ หัวคําแนะนําว่า มนุษย์กำลังจะกลายเป็นปัญญาที่ซับซ้อนมากขึ้นของพวกเขาที่มีต่อสิ้นสุดรุนแรง รวมทั้งต่อความร่วมมือและความอยู่รอด

" มันแสดงถึงความตั้งใจที่ชัดเจนที่จะฆ่า , " กล่าวว่า ศาลา