Before we get to specifics of actua

Before we get to specifics of actual sound levels, let's consider a more foundational perspective first. In many of His parables, Jesus talked about stewardship. He refers to us as stewards and that God has entrusted us with His possessions. If you understand the full ramifications of this, then one of the things over which we are to exercise stewardship is our physical bodies. The Apostle Paul elaborated on this idea when he said, "Do you not know that you are God's temple and that God's Spirit dwells in you? If anyone destroys God's temple, God will destroy him. For God's temple is holy, and you are that temple" (1 Corinthians 3:16-17). Paul also shared the same idea in a bit different way later in the same letter, "Or do you not know that your body is a temple of the Holy Spirit within you, whom you have from God? You are not your own, for you were bought with a price" (1 Corinthians 6:19-20).
From an honest scriptural perspective, our physical bodies belong to God and therefore, as stewards, we are required to take good care of them. As a result, more and more Christians today are recognizing the need to eat properly and to maintain a healthy lifestyle. These are obvious things when we recognize that our bodies belong to the Lord and we are to be good stewards of them. The flip side of this should be obvious. As Christians who recognize our mandate to be good stewards of God's property, we should not smoke three packs of cigarettes a day for the rest of our lives. Medical evidence demonstrates that this is extremely unhealthy. We also should not eat only foods that have little or no true nutritional content. Again, this is verifiably bad for us. From a scriptural perspective, it's all about stewardship. Unfortunately, one of the areas that often is missed in understanding stewardship is an area that is relatively easy to maintain: our hearing. According to the latest medical reports, of all those who have experienced some measure of hearing loss, between one-fourth and one-third are a result of over-exposure to high levels of sound. Worse, according to the National Institute on Deafness and Other Communication Disorders (NIDCD) more than 30 million Americans are exposed to hazardous sound levels on a regular basis. These are tragic numbers, and ones that are easily preventable.

Let's be clear. Certain volume levels of sound will do damage to hearing. Sounds louder than 80 decibels are considered potentially dangerous. Both the amount of noise and the length of time of exposure determine the amount of damage. The higher the volume, the less time is necessary to damage hearing (see chart below). It's not a matter of "maybe" or "perhaps." These findings are scientifically verifiable. It seems obvious, then, since the Lord calls us to be good stewards of our physical bodies, we need to be careful with the volume levels to which we subject ourselves and others. We dare not damage our hearing and/or the hearing of others simply because we like loud. Such a scenario would clearly demonstrate a lack of good stewardship. So, to the point of how loud is too loud for church music, I recommend investing in a sound level meter (decibel meter) for your church. You will then be able to monitor the level of sound and thereby be careful with the volume. So let's get specific. According to the chart below, with each increase of 3dB, the time necessary to cause damage is cut in half. That means if your music spikes to 130dB for just one second, you can do damage to people's hearing. Could anyone honestly equate such a scenario to being a good steward? I know I can't.


Once, when I shared these thoughts at a church, they assured me that their musicians always wore earplugs while performing. "That's great," I responded, "but what about the congregation? Is it somehow acceptable to not be good stewards of their hearing? Is it okay to cause hearing loss in them while protecting yourselves?" Up to a certain point this issue is about personal preference. Some people like louder music than others. This is no different than my preference for chocolate-fudge ice cream over strawberry banana. It's personal taste.
However, at a certain level, when damage is being done to hearing, it then ceases to be about personal taste. It's all about stewardship.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อนที่เราจะไปประเภทของระดับเสียงจริง ลองพิจารณามุมมอง foundational เพิ่มเติมก่อน ใน parables พระองค์ พระเยซูพูดคุยเกี่ยวกับการดูแล เขาหมายถึงเราเป็นเสนาบดี และพระที่ได้รับมอบหมายเรากับทรัพย์สินของเขา ถ้าคุณเข้าใจ ramifications เต็มนี้ แล้วหนึ่งในสิ่งที่เราจะดูแลออกกำลังกายเป็นร่างกายของเรามีอยู่จริง Paul อัครทูต elaborated ในความคิดนี้เมื่อเขากล่าวว่า "คุณไม่รู้ว่า คุณเป็นวัดของพระเจ้า และให้พระวิญญาณอยู่ในตัวคุณ ถ้าใครทำลายวัดของพระเจ้า พระเจ้าจะทำลายเขา สำหรับวัดพระศักดิ์สิทธิ์ และคุณที่วัด" (1 โครินธ์ 3:16-17) Paul ยังร่วมความคิดเดียวกันในลักษณะที่แตกต่างในจดหมายเดียวกัน "หรือคุณไม่รู้ว่า ร่างกายเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในตัวคุณ ที่คุณได้จากพระเจ้า คุณไม่ใช่ของคุณเอง สำหรับคุณถูกซื้อ ด้วยราคา " (1 โครินธ์ 6:19-20)จากการมองว่าซื่อสัตย์ ร่างกายของเราจริงเป็นของพระเจ้า และดังนั้น เป็นเสนาบดี เราจะต้องดูแลพวกเขาที่ดี ดัง คริสเตียนมาก ขึ้นวันนี้จะจดจำต้องกินอย่างถูกต้อง และรักษาสุขภาพ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเมื่อเรารู้ว่า ร่างกายของเราเป็นของพระเจ้า และเราจะเป็นเสนาบดีดีของพวกเขา ด้านพลิกนี้ควรเห็นได้ชัด เป็นคริสเตียนที่รู้จักอาณัติของเราให้เป็นเสนาบดีแห่งพระดี เราไม่ควรสูบสามซองบุหรี่วันที่เหลือของชีวิตของเรา หลักฐานทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่า นี่คือไม่แข็งแรงมาก เรายังไม่ควรรับประทานอาหารที่มีน้อย หรือไม่มีจริงทางโภชนาการเนื้อหา อีก นี้เป็นข่าวสารไม่ดีสำหรับเรา จากมุมมองว่า มันคือการดูแล อับ หนึ่งในพื้นที่ที่มักจะพลาดในการดูแลความเข้าใจเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างง่ายต่อการรักษา: ได้ยินของเรา ตามรายงานทางการแพทย์ล่าสุด ของผู้ที่มีประสบการณ์ในการได้ยินผิดปกติ ระหว่าง สี่คน และหนึ่งในสามวัดบาง เป็นผลของแสงมากกว่าระดับสูงของเสียง เลว ตาม สถาบันหูหนวกและโรคติดต่อสื่อสารอื่น ๆ (NIDCD) มากกว่า 30 ล้านชาวอเมริกันกำลังเผชิญกับอันตรายระดับเสียงเป็นประจำ นี่คือโศกนาฏกรรมหมายเลข และคนที่เดิน preventableลองได้ชัดเจน กำหนดระดับเสียงของเสียงจะเสียการได้ยิน เสียงดังกว่า 80 decibels กำลังอันตราย จำนวนของเสียงและระยะเวลาของการสัมผัสกำหนดจำนวนความเสียหาย ระดับเสียงสูง เวลาจำเป็นเพื่อความเสียหายที่ได้ยิน (ดูแผนภูมิด้านล่าง) ไม่ได้เป็นเรื่อง ของ "อาจจะ" หรือ "อาจ" ผลการวิจัยเหล่านี้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ ดูเหมือนว่าชัดเจน นั้น เนื่องจากพระเจ้าเรียกเราให้ เสนาบดีดีจริงร่างกายของเรา เราต้องระมัดระวังกับระดับเสียงที่เราเรื่องตนเองและผู้อื่น เรากล้าให้เสียของเราได้ยินหรือได้ยินของคนอื่นเพียง เพราะเราชอบเสียงดัง สถานการณ์ดังกล่าวจะชัดเจนแสดงให้เห็นถึงการขาดการดูแลที่ดี ดังนั้น การจุดของวิธีดังจะดังเกินไปสำหรับเพลงโบสถ์ ผมขอแนะนำให้ลงทุนในการวัดเสียง (เดซิเบลเมตร) สำหรับคริสตจักรของคุณ คุณจะแล้วสามารถตรวจสอบระดับเสียง และดังนั้นจึงต้องระวังกับไดรฟ์ข้อมูล ดังนั้นลองรับเฉพาะ ตามแผนภูมิด้านล่าง มีเพิ่มแต่ละ 3dB เวลาจำเป็นเพื่อทำให้เกิดความเสียหายถูกตัดครึ่ง หมายความ ว่า ถ้าเพลงของคุณ spikes ถึง 130dB สำหรับเพียงหนึ่งวินาที ของการได้ยินเสียคน คนสุจริตอย่างสามารถกำหนดสถานการณ์ดังกล่าวเป็น steward ดี ฉันรู้ว่า ฉันไม่สามารถ เมื่อ เมื่อฉันบอกความคิดเหล่านี้ที่โบสถ์ พวกเขามั่นใจฉันที่ นักดนตรีของพวกเขาสวมโรงแรมเสมอขณะทำ "ก็ดี ฉันตอบ "แต่ที่คณะอะไรบ้าง อย่างใดยอมรับไม่ดีเสนาบดีของการได้ยินหรือเปล่า ใจมันทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินในขณะที่ปกป้องตัวคุณเอง" ถึงจุดหนึ่ง เรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับการกำหนดลักษณะส่วนบุคคล บางคนชอบดนตรีดังกว่าคนอื่น นี้จะไม่แตกต่างจากการตั้งค่าของฉันสำหรับไอศครีมช็อคโกแลตฟัดจ์มากกว่ากล้วยสตรอเบอร์รี่ มันเป็นรสนิยมส่วนบุคคลอย่างไรก็ตาม ที่ระดับ เมื่อกำลังทำความเสียหายได้ยิน ได้แล้วยุติจะเกี่ยวกับรสนิยมส่วนบุคคล มันคือการดูแล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก่อนที่เราจะได้รับไปยังรายละเอียดของระดับเสียงที่เกิดขึ้นจริงให้พิจารณามุมมองพื้นฐานมากขึ้นเป็นครั้งแรก ในหลายคำอุปมาของพระองค์พระเยซูพูดคุยเกี่ยวกับการดูแล เขาหมายถึงเราเป็นเสนาบดีและว่าพระเจ้าได้รับความไว้วางใจเราด้วยทรัพย์สินของเขา หากคุณเข้าใจเครือข่ายเต็มรูปแบบของนี้แล้วหนึ่งในสิ่งที่เกินกว่าที่เราจะไปออกกำลังกายดูแลเป็นร่างกายของเรา อัครสาวกเปาโลเนื้อหาเกี่ยวกับความคิดนี้เมื่อเขากล่าวว่า "คุณไม่ได้รู้ว่าคุณเป็นวิหารของพระเจ้าและพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในตัวคุณหรือไม่ถ้าผู้ใดทำลายวิหารของพระเจ้าพระเจ้าจะทรงทำลายเขา. สำหรับพระวิหารของพระเจ้าเป็นที่บริสุทธิ์และคุณว่า วัด "(1 โครินธ์ 3: 16-17) พอลยังได้ร่วมกันคิดเดียวกันในบิตที่แตกต่างกันต่อมาในจดหมายฉบับเดียวกัน "หรือคุณไม่ทราบว่าร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในตัวคุณที่คุณได้รับจากพระเจ้าคุณยังไม่ได้ของคุณเองสำหรับคุณ ได้ซื้อมาด้วยราคา "(1 โครินธ์ 6: 19-20).
จากมุมมองของพระคัมภีร์เที่ยงตรง, ร่างกายของเราเป็นของพระเจ้าและดังนั้นจึงเป็นเสนาบดีเราจะต้องดูแลที่ดีของพวกเขา เป็นผลให้ชาวคริสต์มากขึ้นในวันนี้จะตระหนักถึงความจำเป็นที่จะกินอย่างถูกต้องและเพื่อรักษาชีวิตสุขภาพ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเมื่อเรารู้ว่าร่างกายของเราเป็นของพระเจ้าและเราจะเป็นเสนาบดีที่ดีของพวกเขา พลิกด้านของนี้ควรจะเป็นที่เห็นได้ชัด ในฐานะที่เป็นคริสเตียนที่รับรู้คำสั่งของเราเป็นเสนาบดีที่ดีของสถานที่ให้บริการของพระเจ้าที่เราไม่ควรสูบบุหรี่สามแพ็คของบุหรี่วันสำหรับส่วนที่เหลือของชีวิตของเรา หลักฐานทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่าเป็นโรคนี้มาก นอกจากนี้เรายังไม่ควรกินอาหารที่มีเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเนื้อหาทางโภชนาการที่แท้จริง อีกครั้งนี้เป็น verifiably ดีสำหรับเรา จากมุมมองของพระคัมภีร์ก็คือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการดูแล แต่น่าเสียดายที่หนึ่งในพื้นที่ที่มักจะพลาดในการทำความเข้าใจการดูแลเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างง่ายต่อการรักษา: การได้ยินของเรา ตามรายงานทางการแพทย์ล่าสุดของทุกคนที่มีประสบการณ์การวัดของการสูญเสียการได้ยินบางอย่างระหว่างหนึ่งในสี่และหนึ่งในสามเป็นผลมาจากการสัมผัสมากกว่าที่จะอยู่ในระดับสูงของเสียง เลวร้ายตามที่สถาบันแห่งชาติที่หูหนวกและความผิดปกติการสื่อสารอื่น ๆ (NIDCD) กว่า 30 ล้านคนอเมริกันมีการสัมผัสกับระดับเสียงที่เป็นอันตรายเป็นประจำ เหล่านี้เป็นตัวเลขที่น่าเศร้าและคนที่สามารถป้องกันได้อย่างง่ายดาย. ขอให้เป็นคนที่ชัดเจน ระดับเสียงบางเสียงจะทำเกิดความเสียหายต่อการได้ยิน เสียงดังกว่า 80 เดซิเบลได้รับการพิจารณาที่อาจเป็นอันตราย ทั้งปริมาณของเสียงและระยะเวลาของการเปิดรับการตรวจสอบปริมาณของความเสียหาย สูงกว่าปริมาณการใช้เวลาน้อยลงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อความเสียหายการได้ยิน (ดูกราฟด้านล่าง) มันไม่ใช่เรื่องของ "อาจจะ" หรือ "อาจจะ". การค้นพบนี้มีการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ดูเหมือนว่าที่เห็นได้ชัดแล้วตั้งแต่พระเจ้าเรียกเราให้เป็นเสนาบดีที่ดีของร่างกายของเราเราจะต้องระมัดระวังกับระดับเสียงที่เราเรื่องตัวเองและคนอื่น ๆ เราไม่กล้าที่จะสร้างความเสียหายต่อการได้ยินของเราและ / หรือการได้ยินของคนอื่นเพียงเพราะเราชอบเสียงดัง สถานการณ์ดังกล่าวอย่างชัดเจนจะแสดงให้เห็นถึงการขาดการดูแลที่ดี ดังนั้นเพื่อจุดของวิธีการดังเป็นเสียงดังมากเกินไปสำหรับการฟังเพลงคริสตจักรผมขอแนะนำให้ลงทุนในระดับเสียงเมตร (เดซิเบลเมตร) สำหรับคริสตจักรของคุณ จากนั้นคุณจะสามารถที่จะตรวจสอบระดับของเสียงและจึงต้องระมัดระวังกับปริมาณ จึงขอได้ที่เฉพาะเจาะจง ตามตารางด้านล่างมีการเพิ่มขึ้นของ 3dB แต่ละครั้งจำเป็นที่จะต้องทำให้เกิดความเสียหายที่ถูกตัดในช่วงครึ่งปี ซึ่งหมายความว่าถ้าแหลมเพลงของคุณเพื่อ 130dB เพียงหนึ่งครั้งที่สองคุณสามารถทำความเสียหายให้กับการได้ยินของผู้คน ใครสามารถตรงไปตรงมาถือเอาสถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นสจ๊วตดีหรือไม่? ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถ. เมื่อตอนที่ผมได้แบ่งปันความคิดเหล่านี้ในคริสตจักรที่พวกเขาผมมั่นใจว่านักดนตรีของพวกเขามักจะสวมที่อุดหูขณะปฏิบัติ "นั่นคือสิ่งที่ดี" ผมตอบ "แต่สิ่งที่เกี่ยวกับการชุมนุมหรือไม่มันได้รับการยอมรับอย่างใดไม่เป็นเสนาบดีที่ดีของการได้ยินของพวกเขาหรือไม่มันโอเคที่จะก่อให้เกิดการสูญเสียการได้ยินในพวกเขาในขณะที่ปกป้องตัวเอง?" ถึงจุดหนึ่งปัญหานี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการตั้งค่าส่วนตัว บางคนชอบเพลงดังกว่าคนอื่น ๆ นี้ไม่แตกต่างจากการตั้งค่าของฉันสำหรับช็อคโกแลตฟัดจ์ไอศครีมสตรอเบอร์รี่กล้วยกว่า มันเป็นรสนิยมส่วนตัว. แต่ในระดับหนึ่งเมื่อเกิดความเสียหายจะถูกทำเพื่อการได้ยินก็สิ้นสุดสภาพการเป็นเกี่ยวกับรสนิยมส่วนตัว มันเป็นเรื่องของการดูแล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก่อนที่เราจะไปถึงรายละเอียดของระดับเสียงจริง มาพิจารณามุมมองพื้นฐานเพิ่มเติมก่อน หลายของคำอุปมาของพระองค์ พระเยซูได้พูดเกี่ยวกับการดูแล เขาหมายถึงให้เราเป็นผู้ดูแล และที่พระเจ้าได้มอบหมายให้เรากับทรัพย์สินของเขา ถ้าคุณเข้าใจ ramifications เต็มนี้แล้ว สิ่งหนึ่งที่เราออกกำลังกาย การดูแล คือ ร่างกายของเราอัครสาวกเปาโลอธิบายแนวคิดนี้เมื่อเขากล่าวว่า " คุณไม่ทราบว่าคุณเป็นวัดของพระเจ้าและพระวิญญาณของพระเจ้าทรงสถิตอยู่ในท่าน ถ้าผู้ใดทำลายพระวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายเขา สำหรับพระวิหารของพระเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นวัดที่ " ( 1 โครินธ์ 3:16-17 ) พอล ยังได้แบ่งปันความคิดเดียวกันในทางที่แตกต่างกันเล็กน้อยในภายหลังในจดหมายฉบับเดียวกัน" หรือคุณไม่ทราบว่าร่างกายของคุณเป็นวัดของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในท่าน ซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า คุณไม่ได้ด้วยตัวคุณเอง เพราะคุณซื้อด้วยราคา " ( 1 โครินธ์ 6:19-20 ) .
จากมุมมองของพระคัมภีร์เที่ยงตรง , ร่างกายของเราเป็นของพระเจ้า และ เป็นผู้ดูแล เราจะต้องดูแลที่ดีของพวกเขา ผลมากขึ้นและคริสเตียนในวันนี้มีการต้องกินอย่างถูกต้อง และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เหล่านี้เป็นสิ่งชัดเจนเมื่อเรารู้ว่าร่างกายของเราเป็นของพระเจ้าและเราเป็นสจ๊วตดีของพวกเขา ด้านพลิกนี้ควรจะชัดเจน เป็นคริสเตียนที่รู้จักอาณัติของเราเป็นสจ๊วตดีของทรัพย์สินของพระเจ้าเราไม่ควรสูบบุหรี่วันละ 3 ซอง สำหรับส่วนที่เหลือของชีวิตของเรา หลักฐานทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่านี้เป็นสิ่งที่ไม่แข็งแรง เรายังไม่ควรกินแต่อาหารที่มีเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเนื้อหาทางโภชนาการจริง อีกครั้งนี้เป็นอย่างพิสูจน์ความจริงได้ไม่ดีสำหรับเรา จากมุมมองของพระคัมภีร์ มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการดูแล ขออภัยหนึ่งในพื้นที่ที่มักจะพลาดในเรื่องการดูแลเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างง่ายในการรักษา : หูของเรา จากรายงานทางการแพทย์ล่าสุด บรรดาผู้ที่มีประสบการณ์บางวัดการสูญเสียการได้ยิน ระหว่าง 4 และ 1 ใน 3 มาจากการเปิดรับให้สูงระดับเสียง เลวร้ายตามที่สถาบันแห่งชาติเกี่ยวกับคนหูหนวกและความผิดปกติทางการสื่อสาร ( nidcd ) มากกว่า 30 ล้านคนอเมริกันจะเปิดระดับเสียงที่เป็นอันตรายบนพื้นฐานปกติ เหล่านี้จะทำให้ตัวเลข และคนที่จะสามารถป้องกันได้ง่ายๆ

ขอให้เข้าใจด้วย บางระดับเสียงเสียงจะทำให้ความเสียหายที่จะได้ยิน เสียงดังกว่า 80 เดซิเบล ถือว่าเป็นอันตรายทั้งจํานวนเสียงและความยาวของเวลาในการตรวจสอบปริมาณของความเสียหาย สูงกว่าปริมาณที่น้อยกว่าเวลาที่จำเป็นเพื่อทำลายการได้ยิน ( ดูตารางด้านล่าง ) นี่ไม่ใช่เรื่องของ " อาจ " หรือ " อาจจะ " การค้นพบนี้น่าตรวจสอบได้ ดูเหมือนว่าที่เห็นได้ชัดแล้ว เพราะพระเจ้าเรียกให้เราเป็นผู้ดูแลที่ดีของร่างกายของเราเราต้องระวังระดับเสียงที่เราเรื่องตัวเองและคนอื่น ๆ เราไม่กล้าความเสียหายการได้ยิน และ / หรือ การฟังคนอื่น เพียงเพราะเราเหมือนดังของเรา สถานการณ์ดังกล่าวจะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ขาดการดูแล ดังนั้น ประเด็นของวิธีการดังก็ดัง เพลงคริสตจักรผมขอแนะนำให้ลงทุนในเครื่องวัดเสียง ( เครื่องวัดเดซิเบล ) สำหรับคริสตจักรของคุณจากนั้นคุณจะสามารถตรวจสอบระดับของเสียงและจึงต้องระมัดระวังกับปริมาณ งั้นเรามาเริ่มที่เฉพาะเจาะจง ตามตารางข้างล่างนี้ โดยแต่ละเพิ่ม 3dB , เวลาที่จำเป็นเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายที่ถูกตัดในครึ่ง นั่นหมายความว่า ถ้าเพลงของคุณแทบจะ 130db แป๊บ คุณสามารถทําความเสียหายต่อการได้ยินของคน สามารถใครสุจริตต่อสถานการณ์ดังกล่าว เป็นพ่อบ้านที่ดีผมรู้ว่าผมทำไม่ได้


ครั้งหนึ่งเมื่อฉันแบ่งปันความคิดเหล่านี้ที่โบสถ์ พวกเขามั่นใจว่านักดนตรีของพวกเขามักจะใส่หูฟังขณะปฏิบัติ” เยี่ยมมาก " ผมตอบ " แต่สิ่งที่เกี่ยวกับการชุมนุม ? มันก็ยอมรับไม่ได้เป็นสจ๊วตดีของการได้ยินของพวกเขา ? มันโอเคที่จะทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินในพวกเขาในขณะที่การปกป้องตัวเอง" ถึงจุดหนึ่ง ปัญหานี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความชอบส่วนตัว บางคนชอบฟังเพลงดังกว่าคนอื่น ๆ นี่ไม่ต่างจากการตั้งค่าของฉันสำหรับช็อกโกแลตฟัดจ์ ไอศกรีมกว่าสตรอเบอร์รี่กล้วย มันเป็นรสนิยมส่วนตัว .
แต่ได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเกิดความเสียหายจะถูกทำมาให้ฟัง มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับรสนิยมส่วนตัว มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการดูแล