AbstractThe response of sleeping su

Abstract
The response of sleeping subjects to sound stimuli whose intensity increases with time is analysed, using a random walk model with varying upper boundary developed in a previous paper. The data came from an experiment carried out by Ball and Bruck to compare the response time of sleeping subjects to three different auditory stimuli. The sound intensity increased steadily with time and the young adult subjects (seven males and seven females) were tested when sober and with blood alcohol levels of 0.05 and 0.08. The analysis revealed that alcohol had a very significant effect in slowing down the response of all subjects. It also revealed that sober females responded at lower sound intensities than sober males and were less affected by alcohol than males at the same blood alcohol concentration. The great advantage of using the random walk model is that it allowed the estimation of the high percentiles of the probability distribution of the sound intensity required for waking up, for each combination of gender, type of auditory stimulus and alcohol level. It also allowed the estimation of the proportion of subjects in each category that would not wake up at the maximum realisable sound intensity of 95 dbA. The analysis underscores the severity of the danger of not being sober or even low alcohol consumption for sleeping subjects in a fire and points to possible improvements in the type of sound used in fire alarms.

Keywords
Auditory fire cues; Influence of sound type and intensity, Gender and alcohol; Stochastic modelling; Waking up percentage
1. Introduction
In three previous papers [1], [2] and [3] the authors have introduced a random walk model to analyse the length of time to response of sleeping subjects exposed to various simulated fire cues. The reason for developing such a model is that one of the most important aims of the study of the response time to fire cues is to estimate the high quantiles of the distribution of the response time, since it is those who respond the most slowly who are the most at risk. However, the raw experimental results based on a comparatively small number of observations cannot by themselves be extrapolated to the levels that are infrequently reached. The only alternative is to develop a theoretical model for the response to fire cues and fit it to the experimental data.

In [1] and [2], the intensity of the auditory cues was kept constant. By contrast, in [3], which concentrated on auditory cues, the intensity of the auditory stimuli was monotonically increased.

This third paper [3], analysed an experiment carried out by Ball and Bruck [4] in 2003 to compare the response time of sleeping subjects to three different auditory stimuli, as well as to determine the effect of gender and alcohol consumption on responsiveness. This important new aspect of the experimentation allowed the estimation of the sound intensity required to waken the individual participants for different types of sound and different degrees of sobriety. However, in [4], only averages of the sound intensity required for the subject to wake up were studied. In [3] a modified random walk model was introduced to analyse the experiment in [4] and a methodology to evaluate the upper quantiles of the time to awakening was developed. However, in [3] the corresponding results for the quantiles of the sound intensity required for the subjects to wake up were not given, due to space limitations. It is the purpose of the present paper to present these results, which are clearly of great importance for fire safety engineering design.

Fourteen young adults (7 males, 7 females) were recruited. The ages of the participants ranged from 18 to 25 years.

When the participant was confirmed to be in stage 4 sleep for at least 90 s a computer program was started. The computer was instructed to play the selected sound for a period of 30 s, beginning at 35 dBA. The intensity of the sound was then increased to 40 dBA for a further 30 s. The incremental pattern was continued until 95 dBA or until the participant awoke and pressed a button at their bedside, whichever occurred first. The time dependence of the sound intensity is illustrated in Fig. 1.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อการตอบสนองเพื่อเสียงสิ่งเร้าที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นกับเวลานอนเป็น analysed ใช้แบบเดินสุ่มกับขอบเขตบนที่พัฒนาในกระดาษก่อนหน้านี้แตกต่างกัน ข้อมูลมาจากการทดลองที่ดำเนินการ โดยลูกบอลและ Bruck เพื่อเปรียบเทียบเวลาตอบเรื่องนอนกับสามสิ่งเร้าหูแตกต่างกัน ความเข้มเสียงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กับเวลาและยังทดสอบเรื่องผู้ใหญ่ (ชายเจ็ดและเจ็ดหญิง) เมื่อเงียบขรึม และเลือดแอลกอฮอล์ระดับ 0.05 และ 0.08 การวิเคราะห์เปิดเผยว่า แอลกอฮอล์มีผลสำคัญมากในการชะลอการตอบสนองของเรื่องทั้งหมด มันยังเปิดเผยว่า หญิงนี่ตอบที่ปลดปล่อยก๊าซที่เสียงต่ำกว่าเพศชายที่เงียบขรึม และไม่ถูกกระทบ โดยแอลกอฮอล์กว่าชายที่ความเข้มข้นแอลกอฮอล์เลือดเดียวกัน ประโยชน์ที่ดีของการใช้แบบเดินสุ่มเป็นที่อนุญาตการประเมิน percentiles สูงของการแจกแจงความน่าเป็นของความเข้มเสียงที่จำเป็นสำหรับตื่น สำหรับแต่ละชุดของเพศ กระตุ้นหูและระดับแอลกอฮอล์ มันยังได้ประเมินสัดส่วนของวิชาในแต่ละประเภทที่จะไม่ตื่นในความเข้มเสียง realisable ที่สูงสุดของ 95 dbA การวิเคราะห์ underscores ความรุนแรงของอันตรายไม่เป็น นี่ หรือต่ำแม้แอลกอฮอล์สำหรับนอนในไฟและจุดที่จะปรับปรุงได้ในชนิดของเสียงที่ใช้ในสัญญาณเตือนไฟไหม้คำสำคัญสัญลักษณ์ไฟหู อิทธิพลของชนิดของเสียง และความเข้ม เพศ และ แอลกอฮอล์ สร้างแบบจำลอง สโทแคสติก ตื่นเปอร์เซ็นต์1. บทนำในเอกสารก่อนหน้าสาม [1], [2] [3] ผู้เขียนได้แนะนำแบบเดินสุ่มการวิเคราะห์ระยะเวลาการตอบสนองนอนเรื่องสัมผัสกับสัญลักษณ์ไฟจำลองต่าง ๆ เหตุผลของการพัฒนาแบบจำลองได้ว่า จุดมุ่งหมายสำคัญของการศึกษาเวลาคำตอบไฟสัญลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่งคือการประเมิน quantiles สูงของการแจกแจงของเวลาตอบสนอง เนื่องจากเป็นผู้ที่ตอบช้าที่สุด ที่จะมากที่สุดที่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ผลทดลองวัตถุดิบตามจำนวนที่ดีอย่างหนึ่งเล็กสังเกตไม่เองได้ extrapolated ระดับที่ขึ้นนาน ๆ ครั้งถึง สำรองเฉพาะได้พัฒนาแบบจำลองทางทฤษฎีสำหรับการตอบสนองต่อไฟสัญลักษณ์ และพอดีกับข้อมูลการทดลองใน [1] และ [2], ความรุนแรงของสัญลักษณ์หูถูกเก็บคง โดยความคมชัด [3], ที่เข้มข้นในสัญลักษณ์หู ความเข้มของสิ่งเร้าหู monotonically เพิ่มขึ้นกระดาษนี้สาม [3], analysed การทดลองที่ดำเนินการ โดยลูกบอลและ Bruck [4] ใน 2003 เพื่อเปรียบเทียบเวลาตอบนอนเพื่อสามต่างหูสิ่งเร้า เช่นเป็นกำหนดผลของเพศและแอลกอฮอล์การใช้ในการตอบสนอง การทดลองด้านใหม่นี้สำคัญการประเมินความเข้มเสียงที่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมแต่ละชนิดแตกต่างกันขององศาที่แตกต่างกัน และเสียงของ sobriety waken ได้ อย่างไรก็ตาม ใน [4], เท่าค่าเฉลี่ยของความเข้มเสียงที่จำเป็นสำหรับเรื่องการปลุกได้ศึกษา ใน [3] เดินสุ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบถูกนำไปวิเคราะห์ทดลองใน [4] และได้รับการพัฒนาวิธีการประเมิน quantiles ด้านบนเวลาจะตื่น อย่างไรก็ตาม ใน [3] ผลที่สอดคล้องกันสำหรับ quantiles ความเข้มเสียงที่จำเป็นสำหรับหัวข้อที่จะปลุกได้ไม่รับ เนื่องจากข้อจำกัดพื้นที่ วัตถุประสงค์ของกระดาษมีการแสดงผลเหล่านี้ ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับตู้ไฟวิศวกรรมออกแบบชัดเจน ได้สิบสี่ผู้ใหญ่ (ชาย 7 หญิง 7) ได้พิจารณา วัยของผู้เรียนที่อยู่ในช่วงจาก 18 ถึง 25 ปีเมื่อผู้เรียนได้รับการยืนยันในระยะ 4 ปสำหรับน้อย 90 s เริ่มต้นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ถูกสั่งให้เล่นเสียงที่เลือกสำหรับรอบระยะเวลา 30 s เริ่มต้นที่ 35 dBA ความเข้มของเสียงแล้วเพิ่มขึ้นถึง 40 dBA สำหรับ 30 เพิ่มเติม s รูปแบบเพิ่มขึ้นได้ต่อจน ถึง 95 dBA หรือจนกว่าผู้เรียนตื่นขึ้นมา และกดปุ่มที่ข้างเตียงของพวกเขา แล้วเกิดขึ้นครั้งแรก อาศัยเวลาของความเข้มเสียงจะแสดงใน Fig. 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
การตอบสนองของอาสาสมัครนอนเสียงสิ่งเร้าที่มีการเพิ่มขึ้นของความรุนแรงที่มีเวลาวิเคราะห์โดยใช้รูปแบบการสุ่มเดินที่แตกต่างกับขอบบนการพัฒนาในกระดาษก่อนหน้านี้ ข้อมูลที่มาจากการทดสอบที่ดำเนินการโดยบอลและ Bruck เพื่อเปรียบเทียบเวลาการตอบสนองของอาสาสมัครนอนถึงสามสิ่งเร้าหูที่แตกต่างกัน ความเข้มของเสียงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กับเวลาและอาสาสมัครผู้ใหญ่ (เจ็ดเพศชายและเพศหญิงเจ็ด) ถูกทดสอบเมื่อมีสติและมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 0.05 และ 0.08 การวิเคราะห์พบว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญมากในการชะลอตัวลงการตอบสนองของทุกวิชา นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าหญิงมีสติที่ตอบสนองความเข้มของเสียงที่ต่ำกว่าเพศชายมีสติและได้รับผลกระทบน้อยลงโดยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กว่าเพศชายที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดเดียวกัน ประโยชน์ที่ดีของการใช้รูปแบบการเดินสุ่มคือว่ามันได้รับอนุญาตประมาณเปอร์เซนต์สูงของการกระจายความน่าจะเป็นของความเข้มเสียงที่จำเป็นสำหรับการตื่นขึ้นมาสำหรับการรวมกันของเพศแต่ละประเภทของการกระตุ้นการได้ยินและระดับแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังได้รับอนุญาตให้ประมาณค่าสัดส่วนของอาสาสมัครในแต่ละประเภทที่จะไม่ตื่นขึ้นมาในความเข้มของเสียงว่าจะได้รับสูงสุด 95 เดซิเบล การวิเคราะห์ขีดความรุนแรงของอันตรายจากการไม่ได้รับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีสติหรือแม้กระทั่งต่ำสำหรับวิชานอนหลับอยู่ในไฟและจุดที่จะเป็นไปได้ในการปรับปรุงประเภทของเสียงที่ใช้ในสัญญาณเตือนไฟไหม้. คำที่ได้ยินชี้นำไฟ อิทธิพลของชนิดของเสียงและความรุนแรงเพศและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์; การสร้างแบบจำลอง Stochastic; ตื่นขึ้นร้อยละ1 ความรู้เบื้องต้นในสามเอกสารก่อนหน้า [1] [2] และ [3] ผู้เขียนได้นำรูปแบบการเดินสุ่มในการวิเคราะห์ความยาวของเวลาในการตอบสนองของอาสาสมัครนอนสัมผัสกับความหมายไฟจำลองต่างๆ เหตุผลในการพัฒนารูปแบบดังกล่าวเป็นที่หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของการศึกษาของเวลาการตอบสนองที่จะยิงตัวชี้นำคือการประเมิน quantiles สูงของการกระจายของเวลาตอบสนองเนื่องจากเป็นผู้ที่ตอบสนองช้ามากที่สุดที่มี ความเสี่ยงมากที่สุด อย่างไรก็ตามผลการทดลองดิบขึ้นอยู่กับจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับการสังเกตไม่สามารถด้วยตัวเองได้รับการประเมินให้อยู่ในระดับที่จะถึงบ่อย ทางเลือกเดียวคือการพัฒนารูปแบบทางทฤษฎีสำหรับการตอบสนองที่จะยิงตัวชี้นำและพอดีกับข้อมูลการทดลอง. ใน [1] และ [2], ความเข้มของตัวชี้นำหูถูกเก็บไว้อย่างต่อเนื่อง ในทางตรงกันข้ามใน [3] ซึ่งจดจ่ออยู่กับตัวชี้นำการได้ยินความเข้มของการกระตุ้นการได้ยินที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ . นี้กระดาษที่สาม [3] วิเคราะห์การทดลองดำเนินการโดยบอลและ Bruck [4] ในปี 2003 เพื่อเปรียบเทียบเวลาการตอบสนอง นอนวิชาถึงสามสิ่งเร้าหูที่แตกต่างกันเช่นเดียวกับการตรวจสอบผลกระทบของเพศและการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการตอบสนอง ด้านนี้ใหม่ที่สำคัญของการทดลองที่ได้รับอนุญาตประมาณเข้มของเสียงที่จำเป็นในการกระตุ้นเตือนผู้เข้าร่วมแต่ละชนิดแตกต่างกันของเสียงและองศาที่แตกต่างของความสุขุม อย่างไรก็ตามใน [4] ค่าเฉลี่ยเพียงอย่างเดียวของความเข้มเสียงที่จำเป็นสำหรับเรื่องที่จะตื่นขึ้นมามีการศึกษา ใน [3] รูปแบบการเดินสุ่มแก้ไขถูกนำไปวิเคราะห์การทดลองใน [4] และวิธีการในการประเมิน quantiles บนของเวลาที่จะตื่นได้รับการพัฒนา อย่างไรก็ตามใน [3] ผลที่สอดคล้องกันสำหรับ quantiles ของเข้มของเสียงที่จำเป็นสำหรับวิชาที่จะตื่นขึ้นมาไม่ได้รับเนื่องจากข้อ จำกัด ของพื้นที่ มันคือจุดมุ่งหมายของกระดาษในปัจจุบันเพื่อนำเสนอผลเหล่านี้ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีความสำคัญมากสำหรับความปลอดภัยจากอัคคีภัยการออกแบบทางวิศวกรรม. สิบสี่คนหนุ่มสาว (7 คนหญิง 7 คน) ได้รับคัดเลือก ทุกเพศทุกวัยของผู้เข้าร่วมตั้งแต่ 18 ถึง 25 ปี. เมื่อผู้เข้าร่วมได้รับการยืนยันที่จะอยู่ในขั้นตอนที่ 4 การนอนหลับเป็นเวลาอย่างน้อย 90 โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการเริ่มต้น คอมพิวเตอร์ได้รับคำสั่งให้เล่นเสียงที่เลือกระยะเวลา 30 วินาทีเริ่มต้นที่ 35 dBA ความเข้มของเสียงที่เพิ่มขึ้นแล้วถึง 40 dBA ไปอีก 30 วินาที รูปแบบที่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 95 dBA หรือจนกว่าจะมีผู้เข้าร่วมการตื่นขึ้นมาและกดปุ่มที่ข้างเตียงของพวกเขาแล้วแต่จำนวนใดที่เกิดขึ้นครั้งแรก การพึ่งพาอาศัยช่วงเวลาของความเข้มของเสียงจะถูกแสดงในรูปที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
ต่อวิชาสิ่งเร้าที่มีความเข้มเสียงนอนเพิ่มขึ้นกับเวลาจะวิเคราะห์โดยใช้รูปแบบการเดินสุ่มที่มีขอบเขตบนที่พัฒนาในบทความก่อนหน้า ข้อมูลที่ได้มาจากการทดลองทำโดย บอล และ บรั๊ค เปรียบเทียบเวลาในการตอบสนองของหลับวิชาสามกระตุ้นโสตประสาทต่าง ๆความเข้มเสียงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเวลา และกลุ่มผู้ใหญ่ ( ชาย 7 หญิง 7 ) ถูกทดสอบ เมื่อมีสติและมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของ 0.05 และ 0.08 . จากการวิเคราะห์พบว่า แอลกอฮอล์มีผลที่สำคัญในการชะลอตัวลงของการตอบสนองของทุกวิชานอกจากนี้ยังพบว่า ผู้หญิงเมาตอบที่ลดเสียงเข้มกว่าปกติ ชายน้อยที่ได้รับผลกระทบจากแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ชายที่เหมือนเลือดแอลกอฮอล์เข้มข้น ข้อดีของการใช้สุ่มแบบที่อนุญาตให้ การประมาณค่าเป็นเปอร์เซ็นต์สูงของการแจกแจงความน่าจะเป็นของความเข้มเสียงที่ต้องตื่นขึ้นมา เพื่อการรวมกันในแต่ละเพศชนิดของตัวกระตุ้นประสาทการได้ยิน และแอลกอฮอล์ ) มันทำให้การประมาณค่าสัดส่วนของประชากรในแต่ละประเภทนั้นจะไม่ตื่นขึ้นมาใน realisable เสียงความเข้มสูงสุด 95 dBA .การวิเคราะห์ถึงความรุนแรง อันตรายจากการดื่มแอลกอฮอล์ต่ำ หรือแม้แต่นอนคน จุด ไฟ และการปรับปรุงเป็นไปได้ในเสียงแบบใช้ไฟสัญญาณเตือน


ส่วนคำหลักไฟคิว อิทธิพลของประเภทเสียงและความรุนแรง เพศ และ เหล้าแบบสุ่มค่า
; ตื่นนอน 1 . บทนำ
3 ก่อนหน้าเอกสาร [ 1 ][ 2 ] และ [ 3 ] ผู้เขียนได้แนะนำเดินสุ่มแบบวิเคราะห์ความยาวของเวลาในการตอบสนองของหลับวิชาสัมผัสต่างๆ จำลองไฟคิว . เหตุผลสำหรับการพัฒนาเป็นรูปแบบคือ หนึ่งในวัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุดของการศึกษาเวลาในการตอบสนองสัญญาณไฟประมาณ quantiles สูงของการกระจายการตอบสนองเวลาเนื่องจากเป็นผู้ที่ตอบสนองช้าที่สุดที่ที่สุดเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ผลดิบใช้เป็นจำนวนน้อยเปรียบเทียบการสังเกตด้วยตนเอง จะไม่สามารถคาดถึงระดับที่ไม่ใคร่ถึง ทางเลือกเดียวคือการพัฒนาแบบจำลองทางทฤษฎีสำหรับการยิงของคิว และพอดีกับข้อมูลการทดลอง . . .

[ 1 ] และ [ 2 ]ความเข้มของสัญญาณเสียงคงที่ ในทางตรงกันข้าม , ใน [ 3 ] ซึ่งเน้นคิวการบรรยาย การบรรยายความเข้มของสิ่งเร้าเป็น monotonically เพิ่มขึ้น

นี้กระดาษที่สาม [ 3 ] วิเคราะห์การทดลองทำโดย บอล และ บรั๊ค [ 4 ] ในปี 2003 เพื่อเปรียบเทียบการตอบสนองเวลาหลับวิชาสามกระตุ้นโสตประสาทต่าง ๆรวมทั้งศึกษาผลของเพศ และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการตอบสนอง ลักษณะสำคัญของโปรแกรมใหม่นี้อนุญาตให้ประมาณเสียงเข้มต้องปลุกผู้เข้าร่วมแต่ละชนิดแตกต่างกันและเสียงที่แตกต่างกันองศาของความ . อย่างไรก็ตาม ใน [ 4 ] เพียงค่าเฉลี่ยของความเข้มเสียงที่จำเป็นสำหรับการตื่นขึ้นมา พบว่าใน [ 3 ] การสุ่มแบบแนะนำวิเคราะห์การทดลอง [ 4 ] และวิธีการประเมิน quantiles บนของเวลา เพื่อกระตุ้นกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม ใน [ 3 ] ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกันสำหรับ quantiles ของความเข้มเสียงที่จำเป็นสำหรับคนตื่นก็ไม่ได้ เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่มันเป็นจุดประสงค์ของกระดาษในปัจจุบัน ปัจจุบัน ผลที่ชัดเจนของความสำคัญมากสำหรับการออกแบบทางวิศวกรรมความปลอดภัยไฟ

14 เด็กผู้ใหญ่ ( ชาย 7 หญิง 7 ) ถูกเลือกมา อายุของผู้เข้าร่วมระหว่าง 18 ถึง 25 ปี

เมื่อผู้เข้าร่วมถูกยืนยันที่จะอยู่ในขั้นที่ 4 นอนอย่างน้อย 90 s คอมพิวเตอร์โปรแกรมเริ่มต้น .คอมพิวเตอร์ถูกสั่งให้เล่นเสียงที่เลือกสำหรับระยะเวลา 30 วินาที เริ่มต้นที่ 35 เดซิเบล . ความเข้มเสียงก็เพิ่มขึ้นถึง 40 เดซิเบลสำหรับอีก 30 วินาที เพิ่มเป็นรูปแบบต่อเนื่องจนถึง 95 DBA หรือจนกว่าผู้ตื่นขึ้นและกดปุ่มที่ข้างเตียงของตน ใดเกิดขึ้นก่อน เวลาอิสระของความเข้มเสียงที่แสดงในรูปที่ 1