Fig. 4: Path of a ray in the micros

Fig. 4: Path of a ray in the microscope.
3.3 Telescope after Kepler
A convex lens of long focal length ƒ1 (+300 mm, for example),
and one of short focal length ƒ2 (e.g. +50 mm) are secured to
the optical bench at a distance of ƒ1 + ƒ2 (Fig. 5).
Fig. 5: Path of a ray in a Kepler telescope.
If we look through the lens of short focal length, we can see
an inverted, magnified image of a distant object.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่ 4 fig.: เส้นทางของแสงในกล้องจุลทรรศน์กล้องโทรทรรศน์ 3.3 หลังจากกฎนูนของ ƒ1 ความยาวโฟกัสยาว (+300 mm ตัวอย่าง),และหนึ่งใน ƒ2 ความยาวโฟกัสสั้น (เช่น + 50 mm) ปลอดภัยกับบัลลังก์แสงที่ระยะห่างของ ƒ1 + ƒ2 (Fig. 5)ที่ 5 fig.: เส้นทางของเรย์ในกล้องกฎถ้าเรามองผ่านเลนส์ความยาวโฟกัสสั้น เราสามารถดูกลับ ขยายรูปโน้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเดื่อ 4:. เส้นทางของรังสีในกล้องจุลทรรศน์
3.3 กล้องโทรทรรศน์เคปเลอร์หลัง
เลนส์นูนของความยาวโฟกัสยาวƒ1 (300 มมเป็นต้น)
และเป็นหนึ่งในความยาวโฟกัสสั้นƒ2 (เช่น 50 มม) มีความปลอดภัยที่จะ
นั่งออปติคอล ที่ระยะห่างจากƒ1 + ƒ2 (รูปที่. 5).
รูป . 5: เส้นทางของรังสีในกล้องโทรทรรศน์เคปเลอร์
ถ้าเรามองผ่านเลนส์ของความยาวโฟกัสสั้นเราจะเห็น
คว่ำภาพขยายของวัตถุที่อยู่ห่างไกล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 4 : เส้นทางของแสงในกล้องจุลทรรศน์ กล้องดูดาวเคปเลอร์

3 หลังนูนของเลนส์ความยาวโฟกัสยาวƒ 1 ( 300 มม. , ตัวอย่างเช่น ) ,
และหนึ่งของความยาวโฟกัสสั้นƒ 2 ( เช่น 50 มม. ) มีความปลอดภัย

ม้านั่งแสงที่ระยะƒƒ 2 ( 1 ภาพที่ 5 ) .
รูปที่ 5 : เส้นทางของเรย์ในกล้องโทรทรรศน์เคปเลอร์ .
ถ้าเรามองผ่านเลนส์ความยาวโฟกัสสั้น ที่เราเห็น
เป็นฤๅษี ,ภาพขยายของวัตถุที่อยู่ห่างไกล