If you were to draw a square around

If you were to draw a square around each tree, the sides of each square would also be 5 meters (see diagram). The area occupied by each tree is therefore 5 m X 5 m (or 52) sq. m = 25 sq. m. This gives you the number of square meters per tree. We want to calculate density, which is the number of trees per square meter. Density is therefore the inverse. Density = 1/(distance between trees)2.

In nature, organisms are seldom distributed in such a regular pattern. The distance between each tree in a forest, for example varies. The formula for density calculations given above can still be used if we use the average (mean) distance between each tree.

To calculate the density of all species, it is necessary to sum the point-to-organism distances for all species and calculate a mean. The square of this number is equal to the mean area occupied per organism.

Mean area per organism = mean point-to-plant distance2

Density is equal to the inverse of the area per organism as shown below.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถ้าคุณมีการวาดสี่เหลี่ยมรอบต้นไม้แต่ละด้านของแต่ละตารางก็จะเป็น 5 เมตร (ดูแผนภาพ) พื้นที่ที่ถูกครอบครองโดยต้นไม้แต่ละต้นจึงเป็น 5 เมตร x 5 เมตร (หรือ 52) ตารางเมตร = 25 ตารางเมตร นี้จะช่วยให้คุณจำนวนของตารางเมตรต่อต้น เราต้องการที่จะคำนวณความหนาแน่นซึ่งเป็นจำนวนต้นต่อตารางเมตร ความหนาแน่นดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม ความหนาแน่น = 1 / (ระยะห่างระหว่างต้น) 2.

ในธรรมชาติมีชีวิตที่ไม่ค่อยมีการกระจายในรูปแบบดังกล่าวเป็นประจำ ระยะห่างระหว่างต้นไม้ในป่าแต่ละตัวอย่างแตกต่างกันไป สูตรสำหรับการคำนวณความหนาแน่นดังกล่าวข้างต้นยังสามารถใช้ถ้าเราใช้ค่าเฉลี่ยของระยะทาง (mean) ระหว่างต้นไม้แต่ละต้น.

ในการคำนวณความหนาแน่นของทุกสายพันธุ์ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะรวมระยะทางที่จุดหนึ่งไปยังสิ่งมีชีวิตที่สำหรับทุกชนิดและ คำนวณค่าเฉลี่ยที่สองของจำนวนนี้จะมีค่าเท่ากับค่าเฉลี่ยของพื้นที่ครอบครองต่อชีวิต.

หมายถึงพื้นที่ต่อชีวิต = หมายถึงจุดหนึ่งไปยังพืช distance2

ความหนาแน่นเท่ากับผกผันของพื้นที่ต่อสิ่งมีชีวิตที่แสดงด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หากคุณต้องวาดสี่เหลี่ยมรอบต้นไม้แต่ละต้น ด้านข้างของแต่ละช่องจะยังเป็น 5 เมตร (ดูแผนภาพ) พื้นที่ครอบครองตามต้นไม้แต่ละต้นจึง 5 X 5 เมตร (หรือ 52) ตารางเมตร = 25 ตารางเมตร ซึ่งทำให้หมายเลขตารางเมตรต่อต้น เราต้องคำนวณความหนาแน่น ซึ่งมีจำนวนต้นต่อตารางเมตร ความหนาแน่นจึงผกผัน ความหนาแน่น = 1 / (ห่างจากระหว่างต้นไม้) 2.

ธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตแทบกระจายในแบบปกติ ระยะห่างระหว่างต้นไม้แต่ละต้นในป่า เช่นไปจน สูตรสำหรับการคำนวณความหนาแน่นที่ให้ไว้ข้างต้นยังใช้ถ้าเราใช้ระยะห่าง (เฉลี่ย) เฉลี่ยระหว่างต้นไม้แต่ละกัน

เพื่อคำนวณความหนาแน่นของพันธุ์ทั้งหมด จำเป็นต้องรวมระยะทางจุดมีชีวิตในสปีชีส์ทั้งหมด และคำนวณเป็นค่าเฉลี่ยได้ กำลังสองของเลขนี้จะเท่ากับพื้นที่หมายถึงการครอบครองต่อสิ่งมีชีวิต

หมายถึง พื้นที่ต่อสิ่งมีชีวิต =หมายถึงจุดโรงงาน distance2

ความหนาแน่นเท่ากับส่วนกลับของพื้นที่ต่อสิ่งมีชีวิตดังต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หากคุณกำลังจะดึง Square ที่อยู่โดยรอบต้นแต่ละด้านข้างของแต่ละพื้นที่จะได้ 5 เมตร(กรุณาดู ภาพ ) บริเวณพื้นที่ที่ครอบครองโดยแต่ละต้นจึงเป็น 5 ม.ตร.ม. x 5 ม.(หรือ 52 )= 25 ตร.ม. นี้จะช่วยให้คุณทราบจำนวนของตารางเมตรต่อทรี เราต้องการใช้คำนวณความหนาแน่นซึ่งก็คือจำนวนสูงสุดของต้นไม้ต่อตารางเมตร ความหนาแน่นดังนั้นกลับกัน ความหนาแน่น( density )= 1 /(ระยะห่างระหว่างต้น) 2 .

สิ่งมีชีวิตในธรรมชาติจะมีการจำหน่ายในรูปแบบปกตินั้นแทบจะไม่ ระยะห่างระหว่างต้นแต่ละตัวในป่าตัวอย่างเช่นจะแตกต่างกันไป สูตรสำหรับการคำนวณความหนาแน่นให้ขึ้นไปสามารถถูกใช้หากเราใช้งานโดยเฉลี่ย(หมายถึง)ระยะทางระหว่างต้นไม้แต่ละยัง.

ในการคำนวณความหนาแน่นของสายพันธุ์ทั้งหมดมีความจำเป็นในการเงินระยะไกลแบบจุดต่อสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดสำหรับสายพันธุ์ทั้งหมดและคำนวณว่าที่พื้นที่แห่งนี้จำนวนเท่ากับที่หมายถึงพื้นที่ในบริเวณต่อสัตว์.

หมายถึงพื้นที่ต่อสิ่งมีชีวิต=หมายถึงแบบจุดต่อโรงงานระยะทาง 2

ความหนาแน่นเท่ากับที่กลับกันของพื้นที่ต่อทางร่างกายตามที่แสดงไว้ด้านล่าง.