The present investigation deals wit

The present investigation deals with the application of a continuous wave-high power diode laser to modify the surface of porous substrates made from spherical particles in sintered bronze. In particular, the influence of laser power and interaction time on the capability of the laser processing to restructure the substrate morphology was investigated. Scanning Electron Microscope (SEM) and contact-gage surface profiler were used to analyze the evolution of the substrate morphology after laser treatments, whilst their mechanical properties were evaluated by micro-hardness and scratch tests.

The experimental findings showed a decrease in the surface roughness of the porous substrates after laser treatments of ∼70%. In addition, an improvement in micro-hardness, scratch and wear resistance could also be achieved. Indeed, large laser power combined with high scan speed took to the most attractive results, thus favoring the onset of a promising morphological structure and the establishment of improved hardness and scratch resistance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสอบสวนมีข้อเสนอ ด้วยการประยุกต์ใช้เลเซอร์ไดโอดพลังงานสูงคลื่นต่อเนื่องการปรับเปลี่ยนพื้นผิวของพื้นผิวมีรูพรุนที่ทำจากอนุภาคทรงกลมในเผาบรอนซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อิทธิพลของเลเซอร์พลังงานและการโต้ตอบเวลาในความสามารถของการประมวลผลของเลเซอร์จะปรับโครงสร้างสัณฐานพื้นผิวถูกตรวจสอบ กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (SEM) และสร้างโปรไฟล์ผิวติดต่อเกจถูกใช้เพื่อวิเคราะห์วิวัฒนาการของสัณฐานพื้นผิวหลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ ในขณะที่คุณสมบัติทางกลของพวกเขาถูกประเมิน โดยความแข็งไมโครและทดสอบรอยขีดข่วนผลการวิจัยทดลองที่แสดงให้เห็นว่าพื้นผิวที่ขรุขระของพื้นผิวมีรูพรุนลดลงหลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ ∼70% นอกจากนี้ การปรับปรุงประสิทธิภาพในการต้านทานความ แข็งไมโคร รอยขีดข่วน และสึกหรออาจยังทำได้ จริง พลังงานเลเซอร์ขนาดใหญ่รวมกับความเร็วสูงสแกนเอาผลน่าสนใจที่สุด ดังนั้น นิยมการโจมตีแนวโน้มโครงสร้างสัณฐานและการจัดตั้งปรับปรุงความแข็งและทนต่อรอยขีดข่วน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อเสนอที่ตรวจสอบในปัจจุบันด้วยการประยุกต์ใช้เลเซอร์คลื่นพลังงานสูงไดโอดอย่างต่อเนื่องในการปรับเปลี่ยนพื้นผิวของพื้นผิวที่มีรูพรุนที่ทำจากอนุภาคทรงกลมสีบรอนซ์เผา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิทธิพลของพลังงานเลเซอร์และการมีปฏิสัมพันธ์เวลาในการประมวลผลความสามารถในการเลเซอร์เพื่อปรับโครงสร้างสัณฐานพื้นผิวถูกตรวจสอบ กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (SEM) และผิวสัมผัส-Gage Profiler ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์วิวัฒนาการของการเปลี่ยนรูปร่างของพื้นผิวหลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ในขณะที่คุณสมบัติทางกลของพวกเขาได้รับการประเมินโดยไมโครแข็งและรอยขีดข่วนการทดสอบ. ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการลดลงของความขรุขระของพื้นผิว ของพื้นผิวที่มีรูพรุนหลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ของ ~70% นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงในไมโครแข็งรอยขีดข่วนและความต้านทานการสึกหรอก็อาจจะประสบความสำเร็จ อันที่จริงกำลังแสงเลเซอร์ที่มีขนาดใหญ่รวมกับความเร็วในการสแกนสูงเอาไปผลที่น่าสนใจที่สุดจึงนิยมการโจมตีของโครงสร้างทางสัณฐานวิทยาที่มีแนวโน้มและสถานประกอบการของความแข็งที่ดีขึ้นและต้านทานรอยขีดข่วนได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสอบสวนในปัจจุบัน เกี่ยวข้องกับการใช้คลื่นพลังงานเลเซอร์ไดโอดสูงอย่างต่อเนื่องการปรับเปลี่ยนพื้นผิวของพื้นผิวที่มีรูพรุนที่ทำจากอนุภาคทรงกลมในผงบรอนซ์ โดยเฉพาะอิทธิพลของพลังงานเลเซอร์และเวลาการปฏิสัมพันธ์ต่อความสามารถในการประมวลผลเลเซอร์เพื่อปรับโครงสร้างวัสดุโครงสร้างถูกตรวจสอบ กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด ( SEM ) และรายละเอียดพื้นผิวสัมผัส เกจ วิเคราะห์วิวัฒนาการของพื้นผิวของพวกเขาหลังจากการรักษาด้วยเลเซอร์ในขณะที่สมบัติเชิงกล ได้แก่ ความแข็งจุลภาคและการทดสอบเริ่มต้นผลการทดลองพบว่าลดลงในพื้นผิวความหยาบของพื้นผิวที่มีรูพรุน หลังการรักษาด้วยเลเซอร์ของ∼ 70% นอกจากนี้ในการปรับปรุงความแข็งจุลภาค , รอยขีดข่วนและความต้านทานการสึกหรอก็อาจจะประสบความสำเร็จ แน่นอน พลังงานเลเซอร์ขนาดใหญ่รวมกับความเร็วสูงสแกนได้ผลที่น่าสนใจที่สุดจึงนิยมการโจมตีของสัญญา ลักษณะโครงสร้าง และการเพิ่มความแข็งและต่อรอยขีดข่วน