Hypotheses in qualitative researchO

Hypotheses in qualitative research
One of the differences between qualitative and quantitative research is around the importance attached to and the extent of use of hypotheses when undertaking a study. As qualitative studies are characterised by an emphasis on describing, understanding and exploring phenomena using categorical and subjective measurement procedures, construction of hypotheses is neither greatly advocated nor significantly practiced. In addition, as the degree of specificity needed to test a hypothesis is deliberately not adhered to in qualitative research, the testing of a hypothesis becomes difficult. This does not mean that you cannot construct hypotheses in qualitative research; however non-specificity of the problem as well as methods and procedure make the convention of hypothesis formulation far less practicable and advisable. Even within quantitative studies the importance attached to and the practice of formulating hypotheses vary markedly from one academic discipline to another. For example, hypotheses are most prevalent in epidemiological research and research relating to the establishment of causality of a phenomenon, where it becomes important to narrow the list of probable causes so that a specific cause-and-effect relationship can be researcher and the academic discipline, whereas within an academic discipline it varies markedly between the quantitative and qualitative research paradigms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมมุติฐานในการวิจัยเชิงคุณภาพความแตกต่างระหว่างวิจัยเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่กับความสำคัญและขอบเขตของการใช้สมมุติฐานเมื่อดำเนินการศึกษา เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพมีประสบการ์เน้นอธิบาย ทำความเข้าใจ และสำรวจปรากฏการณ์โดยใช้วิธีการวัดที่แน่ชัด และตามอัตวิสัย ก่อสร้างสมมุติฐานเป็นไม่ advocated อย่างมาก หรือประสบการณ์อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ เป็นระดับ specificity ที่จำเป็นในการทดสอบสมมติฐานจะจงใจไม่ปฏิบัติตามในการวิจัยเชิงคุณภาพ การทดสอบสมมติฐานการจะยาก นี้ไม่ได้หมายความ ว่า คุณไม่สามารถสร้างสมมุติฐานในการวิจัยเชิงคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่-specificity ของปัญหาตลอดจนวิธีการ และขั้นตอนทำการประชุมกำหนดสมมติฐานไกลน้อย practicable และแนะนำ แม้แต่ภายในความสำคัญกับการศึกษาเชิงปริมาณและการปฏิบัติ formulating สมมุติฐานแตกต่างกันอย่างเด่นชัดจากวิชาหนึ่งไปยังอีก ตัวอย่าง สมมุติฐานได้แพร่หลายมากที่สุดในการวิจัยความและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้ง causality ของปรากฏการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำรายการของสาเหตุอาจเกิดขึ้นเพื่อให้ความสัมพันธ์สาเหตุ และลักษณะเฉพาะสามารถเป็นนักวิจัยและวิชา ในขณะที่ภายในวิชามีความแตกต่างอย่างเด่นชัดระหว่าง paradigms วิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมมติฐานในการวิจัยเชิงคุณภาพ
หนึ่งในความแตกต่างระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณเป็นรอบสำคัญที่แนบมากับและขอบเขตของการใช้สมมติฐานเมื่อรับการศึกษา การศึกษาเชิงคุณภาพที่โดดเด่นด้วยการเน้นการอธิบายความเข้าใจและสำรวจปรากฏการณ์โดยใช้วิธีการวัดเด็ดขาดและอัตนัยก่อสร้างสมมติฐานจะไม่มีการสนับสนุนอย่างมากและไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังเป็นระดับของความจำเพาะจำเป็นในการทดสอบสมมติฐานจงใจไม่ปฏิบัติตามในการวิจัยเชิงคุณภาพการทดสอบสมมติฐานกลายเป็นเรื่องยาก นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถสร้างสมมติฐานในการวิจัยเชิงคุณภาพ แต่ที่ไม่เฉพาะเจาะจงของปัญหาเช่นเดียวกับวิธีการและขั้นตอนการทำให้การประชุมการกำหนดสมมติฐานไกลน้อยปฏิบัติและแนะนำ แม้จะอยู่ในการศึกษาเชิงปริมาณสำคัญที่แนบมากับและการปฏิบัติของการกำหนดสมมติฐานแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดจากการมีวินัยทางวิชาการหนึ่งไปยังอีก ยกตัวอย่างเช่นการตั้งสมมติฐานเป็นที่แพร่หลายมากที่สุดในการวิจัยทางระบาดวิทยาและการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งเวรกรรมของปรากฏการณ์ที่มันจะกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะแคบรายการของสาเหตุน่าจะเป็นเพื่อให้เฉพาะความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบที่สามารถวิจัยและวิชาการ ในขณะที่อยู่ในระเบียบวินัยทางวิชาการมันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างกระบวนทัศน์การวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมมติฐานในการวิจัยเชิงคุณภาพ
หนึ่งของความแตกต่างระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเป็นรอบสำคัญแนบและขอบเขตของการใช้สมมติฐานเมื่อเรียนศึกษา เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพมีลักษณะเน้นการอธิบาย ความเข้าใจ และสำรวจปรากฏการณ์การใช้เด็ดขาด และหลังกระบวนการการวัดการสร้างสมมติฐานไม่ช่วยสนับสนุนหรือทางปฏิบัติ นอกจากนี้ยังเป็นระดับของความจำเพาะต้องการทดสอบสมมติฐาน จงใจไม่ปฏิบัติตาม ในการวิจัยเชิงคุณภาพ ทดสอบสมมติฐานกลายเป็นยาก นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถสร้างสมมติฐานในการวิจัยเชิงคุณภาพแต่ไม่เฉพาะเจาะจงของปัญหา ตลอดจนวิธีการและขั้นตอนให้อนุสัญญาสมมติฐานการกำหนดน้อยกว่าในทางปฏิบัติและแนะนํา แม้แต่ในการศึกษาเชิงปริมาณความสำคัญแนบและการปฏิบัติของการกำหนดสมมติฐานแตกต่างอย่างเด่นชัดจากวิชาการวินัยอีก ตัวอย่างเช่นสมมติฐานที่เป็นที่แพร่หลายมากที่สุดในการวิจัยทางระบาดวิทยาและการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการของความเป็นเหตุเป็นผลของปรากฏการณ์ที่มันจะกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะแคบลงรายการของสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นสาเหตุที่เฉพาะเจาะจงและผลกระทบความสัมพันธ์สามารถสร้างวินัยทางวิชาการในขณะที่ภายในธรรมวินัยมันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างกระบวนทัศน์การวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ