Thiscontrasts with the findings of

This
contrasts with the findings of Ahangar et al. (2008b), who reported
a much tighter range of increases in KOC on HF-treatment; this is
unsurprising given that Ahangar et al. (2008b) used a much less
diverse range of soils. Neither soil clay content nor soil C content
appears to control the magnitude of the organic matter–mineral
interactions, since the ratio of KOC before and after HF-treatment
correlates poorly with each of these parameters (data not shown).
Clay mineralogy is likely to be important, based on the results from
humic acid studies (Murphy et al., 1994; Celis et al., 1998; Laor
et al., 1998; Feng et al., 2005; Celis et al., 2006; Feng et al.,
2006). Indeed, a recent study (Ketrot et al., 2013) reported the
strength of interactions between organic matter and clay minerals
was influenced by clay mineralogy across a range of tropical soils;
in this study these interactions were found to influence cation
exchange capacity and electrophoretic mobility of the soil clays

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี้แตกต่างกับผลการวิจัยของ Ahangar et al. (2008b), ผู้รายงานมากสัดช่วงเพิ่ม KOC ใน HF-รักษา นี่คือunsurprising ที่ Ahangar et al. (2008b) ใช้น้อยมากหลากหลายของดินเนื้อปูน ไม่มีเนื้อหาดินดินเหนียวหรือดิน C เนื้อหาดูเหมือนจะ ควบคุมขนาดของเรื่อง – แร่อินทรีย์โต้ตอบ ตั้งแต่อัตราส่วนของ KOC ก่อน และ หลังการ รักษา HFสัมพันธ์กับงานแต่ละพารามิเตอร์เหล่านี้ (ข้อมูลไม่แสดง)Mineralogy ดินมีแนวโน้มที่จะมีความสำคัญ ผลจากศึกษากรดฮิวมิค (เมอร์ฟี et al., 1994 Celis และ al., 1998 Laorและ al., 1998 เฟิง et al., 2005 Celis และ al., 2006 เฟิง et al.,2006) จริง การศึกษาล่าสุด (Ketrot et al., 2013) รายงานการความแรงของการโต้ตอบระหว่างอินทรีย์และแร่ธาตุดินได้รับอิทธิพลจากดิน mineralogy ข้ามช่วงของดินเนื้อปูนร้อนในการศึกษานี้ โต้ตอบเหล่านี้พบชวน cationแลกเปลี่ยนกำลังและเคลื่อน clays ดินด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซึ่งแตกต่างกับผลการวิจัยของ Ahangar et al,
(2008b)
ซึ่งรายงานช่วงที่เข้มงวดมากขึ้นของการเพิ่มขึ้นมากในKOC ใน HF-รักษา นี้จะน่าแปลกใจให้ที่ Ahangar et al,
(2008b)
ใช้มากน้อยหลากหลายของดิน ทั้งเนื้อหาดินเหนียวดินหรือดินซีดูเหมือนจะควบคุมขนาดของเรื่องแร่ธาตุอินทรีย์ปฏิสัมพันธ์เนื่องจากอัตราส่วนของKOC ก่อนและหลังการ HF-การรักษาความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับแต่ละพารามิเตอร์เหล่านี้(ไม่ได้แสดงข้อมูล). แร่ดินเหนียวมีแนวโน้มที่จะ เป็นสิ่งที่สำคัญขึ้นอยู่กับผลที่ได้จากการศึกษากรดฮิวมิก(เมอร์ฟี่, et al, 1994;. Celis, et al, 1998;. Laor et al, 1998;. ฮ et al, 2005;.. Celis et al, 2006; ฮ et al, ., 2006) อันที่จริงการศึกษาล่าสุด (. Ketrot et al, 2013) รายงานความแข็งแรงของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารอินทรีย์และแร่ธาตุดินได้รับอิทธิพลจากแร่ดินเหนียวในช่วงของดินเขตร้อน; ในการศึกษาปฏิสัมพันธ์เหล่านี้พบว่ามีอิทธิพลต่อไอออนความจุแลกเปลี่ยนและอิเลคการเคลื่อนไหวของดินเหนียวดิน