The majority of research exploring

The majority of research exploring the adoption of ALT and eALT focuses on older, frailer users with high levels of need, who are most likely to be supported by statutory services. Those aged over 50 may be starting to notice signs of ageing, yet not eligible for statutory support, therefore eALT could be used in a preventative manner (Beech and Roberts, 2008). However, for successful adoption, eALT must be seen as relevant to people's lives and currently many authors are reporting barriers to use, including practical, psychological, educational and economic barriers (Udo et al., 2014). A literature review to explore barriers found they included: lack of perceived need, lack of information and awareness, differences in cultural views of acceptability, concerns about affordability, limited knowledge regarding technology, complexity of devices and ease of use, lack of confidence, lack of regulatory standards, concerns about privacy, lack of awareness amongst health and social care staff, and poor aesthetics (Ward and Ray, 2011; COMODAL, 2014). Other authors also recognise that a consumer's perceived need for eALT is vital for uptake and use (McCreadie and Tinker, 2005; Huang and Lin, 2009), including both a felt need for assistance, and the recognition of product quality–that eALT is efficient, reliable, safe, simple, available and affordable, and bridges the gap between disability and the tasks which people wish to perform to maintain independence (McCreadie and Tinker, 2005). Huang and Lin's (2009) quantitative survey of 369 Taiwanese people used structural equation modelling techniques to demonstrate that perceived benefit of eALT was key to predicting use. Interestingly, decline in physical ability is not always a trigger for a consumer to perceive a need for eALT. McInnes et al. (2011) found via a meta-ethnography that threats to a person's identity and wishing to remain at home were triggers to seek solutions. Similarly, Milhaildis et al. (2008) found that use of eALT (such as fall detectors, personal alarm systems and monitoring devices) was acceptable to younger older people aged between 40 and 59, if the products allowed the person to remain living independently at home. The researchers also found differences in perceived need and acceptability of devices based upon age, with younger participants preferring physiological health monitoring devices, and older participants preferring personal emergency response systems

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนใหญ่งานวิจัยสำรวจของ ALT และ eALT เน้นผู้ใช้ระดับสูงจำเป็น ซึ่งมักจะได้รับการสนับสนุน โดยบริการตามกฎหมาย เก่า frailer ผู้ที่อายุมากกว่า 50 อาจเริ่มสังเกตเห็นสัญญาณของริ้วรอย ยังไม่ได้สนับสนุนตามกฎหมาย ดังนั้น eALT สามารถใช้ในลักษณะเชิงป้องกัน (บีชและโรเบิตส์ 2008) อย่างไรก็ตาม เกมประสบความสำเร็จ eALT ต้องเห็นว่าเกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คน และขณะนี้หลายผู้เขียนจะรายงานอุปสรรคการใช้ รวมถึงอุปสรรคในทางปฏิบัติ จิตใจ ศึกษา และเศรษฐกิจ (โรร้อยเอ็ด al., 2014) ทบทวนวรรณกรรมการสำรวจอุปสรรคพบว่ารวม: ไม่เห็นความจำเป็น ขาดข้อมูล และความรู้ ความแตกต่างในมุมมองวัฒนธรรม acceptability ความรู้เทคโนโลยี ความซับซ้อนของอุปกรณ์และความสะดวกในการใช้ การขาดความเชื่อมั่น การขาดมาตรฐานการกำกับดูแล จำกัด ความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการจ่ายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว โมหะประกันหมู่สุขภาพ และพนักงานดูแลสังคม และยากจนสุนทรียศาสตร์ (Ward และเรย์ , 2011 COMODAL, 2014) คนยังรู้ว่าผู้บริโภคที่เห็นความจำเป็นสำหรับ eALT ความสำคัญในการดูดซับและใช้ (McCreadie และคนจรจัด 2005 หวงและหลิน 2009), รวมทั้งสักหลาดต้องขอความช่วยเหลือ และการรับรู้ของคุณภาพผลิตภัณฑ์ – eALT ที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ ปลอดภัย ง่าย มี และราคาไม่แพง และสะพานช่องว่างระหว่างพิการและงานที่ต้องดำเนินการเพื่อรักษาความเป็นอิสระ (McCreadie และคนจรจัด 2005) บุคคลใด หวงและการสำรวจเชิงปริมาณ (2009) ของหลิน 369 คนไต้หวันใช้เทคนิคการสร้างแบบจำลองสมการโครงสร้างแสดงว่า รับรู้ประโยชน์ของ eALT คือ คีย์การคาดการณ์การใช้ เป็นเรื่องน่าสนใจ ปฏิเสธในความสามารถทางกายภาพได้เสมอทริกเกอร์สำหรับผู้บริโภคสังเกตต้อง eALT McInnes et al. (2011) ที่พบผ่าน meta-ชาติพันธุ์วรรณนาว่า ภัยคุกคามของบุคคลตัวตนและต้องอยู่ที่บ้านถูกทริกเกอร์เพื่อค้นหาวิธีแก้ไขปัญหา ในทำนองเดียวกัน Milhaildis et al. (2008) พบว่า การใช้ eALT (เช่นตรวจจับการตก ระบบสัญญาณเตือนภัยส่วนบุคคล และอุปกรณ์ตรวจสอบ) เป็นที่ยอมรับคนสูงอายุอายุอายุระหว่าง 40 และ 59 ถ้าผลิตภัณฑ์อนุญาตให้บุคคลที่จะยังคงมีชีวิตอิสระที่บ้าน นักวิจัยยังพบความแตกต่างเห็นความจำเป็นและ acceptability อุปกรณ์ตามอายุ กับอายุคนพลุกพล่านสรีรวิทยาสุขภาพตรวจสอบอุปกรณ์ ผู้เรียนเก่าที่ร่วมระบบตอบสนองฉุกเฉินส่วนบุคคล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนใหญ่ของการวิจัยการสำรวจการยอมรับของ ALT และ eALT มุ่งเน้นไปที่เก่า frailer ผู้ใช้ที่มีระดับสูงของความต้องการที่มีแนวโน้มที่จะได้รับการสนับสนุนโดยการให้บริการตามกฎหมาย ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 อาจจะเริ่มต้นที่จะสังเกตเห็นสัญญาณของริ้วรอยยังไม่ได้รับการสนับสนุนตามกฎหมายจึง eALT สามารถนำมาใช้ในลักษณะที่ป้องกัน (บีชและโรเบิร์ต 2008) อย่างไรก็ตามสำหรับการนำไปใช้ที่ประสบความสำเร็จ eALT ต้องถูกมองว่าเป็นความเกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คนและผู้เขียนหลายขณะนี้มีการรายงานปัญหาและอุปสรรคในการใช้งานรวมทั้งการปฏิบัติทางจิตวิทยาการศึกษาและอุปสรรคทางเศรษฐกิจ (Udo et al., 2014) การทบทวนวรรณกรรมในการสำรวจปัญหาและอุปสรรคที่พบว่าพวกเขารวมถึงการขาดของความจำเป็นในการรับรู้, การขาดข้อมูลและการรับรู้ที่แตกต่างกันในมุมมองทางวัฒนธรรมของการยอมรับความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการจ่าย, ความรู้ จำกัด เทคโนโลยีเกี่ยวกับความซับซ้อนของอุปกรณ์และความสะดวกในการใช้งานที่ขาดความเชื่อมั่นขาด ของมาตรฐานการกำกับดูแลความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของการขาดความตระหนักในหมู่สุขภาพและพนักงานดูแลสังคมและความงามที่น่าสงสาร (วอร์ดและเรย์ 2011; COMODAL 2014) เขียนคนอื่น ๆ นอกจากนี้ยังยอมรับว่าการรับรู้ของผู้บริโภคที่จำเป็นสำหรับการ eALT มีความสำคัญสำหรับการดูดซึมและการใช้งาน (McCreadie และทิงเกอร์ 2005 Huang และหลิน 2009) รวมถึงทั้งสองรู้สึกว่าจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือและการรับรู้ของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ eALT เป็นที่มีประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือปลอดภัยที่เรียบง่ายและมีราคาไม่แพงและสะพานข้ามช่องว่างระหว่างความพิการและงานที่คนต้องการที่จะดำเนินการเพื่อรักษาความเป็นอิสระ (McCreadie และทิงเกอร์ 2005) และหวางหลิน (2009) การสำรวจเชิงปริมาณของ 369 คนชาวไต้หวันที่ใช้เทคนิคการสร้างแบบจำลองสมการโครงสร้างแสดงให้เห็นว่าการรับรู้ประโยชน์ของ eALT เป็นกุญแจสำคัญในการทำนายการใช้งาน ที่น่าสนใจลดลงในความสามารถทางกายภาพไม่เคยเรียกสำหรับผู้บริโภคในการรับรู้ที่จำเป็นสำหรับการ eALT McInnes et al, (2011) พบผ่านทางเมตาวรรณนาว่าภัยคุกคามตัวตนของบุคคลและต้องการที่จะอยู่ที่บ้านเป็นทริกเกอร์ที่จะหาทางแก้ปัญหา ในทำนองเดียวกัน Milhaildis et al, (2008) พบว่าการใช้ eALT นั้น (เช่นเครื่องตรวจจับฤดูใบไม้ร่วง, ระบบเตือนภัยส่วนบุคคลและอุปกรณ์การตรวจสอบ) เป็นที่ยอมรับของคนหนุ่มสาวที่มีอายุมากกว่าอายุระหว่าง 40 และ 59 หากสินค้าที่ได้รับอนุญาตให้บุคคลที่จะยังคงอยู่ที่อาศัยอยู่อย่างอิสระที่บ้าน นักวิจัยยังพบความแตกต่างในความต้องการการรับรู้และการยอมรับของอุปกรณ์ขึ้นอยู่กับอายุกับผู้เข้าร่วมที่มีอายุน้อยกว่าเลือกอุปกรณ์การตรวจสอบสุขภาพทางสรีรวิทยาและผู้เข้าร่วมที่มีอายุมากกว่าเลือกระบบการตอบสนองฉุกเฉินส่วนบุคคล