we use this expression to say that

we use this expression to say that you should not criticize others if you have similar weaknesses yourself. If you throw a stone in a house made of glass, what happens? It will break the glass. This is the metaphor behind this expression. The idea of karma also comes into play because throwing stones in a glass house could break a window and open up the door to other people doing the same thing or criticizing you for it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราสามารถใช้นิพจน์นี้จะบอกว่า คุณไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นถ้าคุณมีจุดอ่อนคล้ายตัวเอง ถ้าคุณโยนหินในบ้านที่ทำจากแก้ว เกิดอะไรขึ้น มันจะทำลายกระจก นี่คืออุปมาหลังนิพจน์นี้ ความคิดของกรรมยังมาลงเล่นเนื่องจากที่โยนหินในบ้านแก้วอาจทำลายหน้าต่าง และเปิดประตูให้ผู้อื่นทำในสิ่งเดียวกัน หรือวิพากษ์วิจารณ์คุณสำหรับมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราใช้สำนวนนี้จะบอกว่าคุณไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น ๆ ถ้าคุณมีจุดอ่อนที่คล้ายกันด้วยตัวคุณเอง ถ้าคุณโยนหินในบ้านที่ทำจากแก้วจะเกิดอะไรขึ้น มันจะทำลายกระจก นี้เป็นคำอุปมาที่อยู่เบื้องหลังการแสดงออก ความคิดของกรรมยังมาพร้อมลงเล่นเพราะขว้างปาก้อนหินในบ้านแก้วสามารถทำลายหน้าต่างและเปิดประตูให้คนอื่นทำในสิ่งเดียวกันหรือวิพากษ์วิจารณ์คุณมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราใช้สำนวนนี้เพื่อบอกว่าคุณไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น ๆหากคุณมีจุดอ่อนตัวเอง ถ้าคุณโยนหินในบ้านที่ทำจากแก้ว , เกิดอะไรขึ้น ? จะทุบกระจก นี่คือคำอุปมาอยู่เบื้องหลังการแสดงออกนี้ ความคิดของกรรมยังเข้ามาในเล่น เพราะปาก้อนหินในบ้านกระจกอาจแตกต่าง และเปิดประตูให้คนอื่นทำแบบเดียวกัน หรือ ตำหนิคุณสำหรับมัน