AbstractObjectiveTo describe patter

Abstract
Objective
To describe patterns in sweetened beverage consumption by race/ethnicity and sex, documenting both the amount and types of sweetened beverages consumed; and to examine the association of sweetened beverage consumption with hyperactivity/inattention symptoms among middle school students in a single urban school district.

Methods
Middle school students (n = 1649; 47% Hispanic and 38% black, non-Hispanic) from 12 schools, randomly selected out of 27 district schools, completed health behavior surveys in fall 2011. Students reported quantity and types of sweetened beverages consumed in the past 24 hours and completed the 5-item Hyperactivity/Inattention subscale of the Strengths and Difficulties Questionnaire to measure symptoms.

Results
Amount and variety of reported sweetened beverage consumption (including energy drinks) were greater among boys versus girls and among black and Hispanic versus white students. Risk of hyperactivity/inattention increased by 14% for each additional sweetened beverage consumed, adjusting for age, race/ethnicity, sex, school lunch eligibility, family structure, and sugary food consumption. Students reporting consumption of energy drinks were 66% more likely to be at risk for hyperactivity/inattention after adjusting for number of drinks, other types of drinks consumed, and other potential confounders.

Conclusions
Results support recommendations to limit consumption of sweetened beverages and to avoid consumption of energy drinks among children. Interventions to reduce sweetened beverage consumption should explicitly focus on energy drinks and other emerging sweetened beverages such as sports and sweetened coffee drinks. More research is needed to understand the direction of effects and the mechanisms behind the association between sweetened beverages and hyperactivity/inattention symptoms.

Keywords
ADHD; adolescents; energy drinks; nutrition; sweetened beverages

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

AbstractObjectiveTo describe patterns in sweetened beverage consumption by race/ethnicity and sex, documenting both the amount and types of sweetened beverages consumed; and to examine the association of sweetened beverage consumption with hyperactivity/inattention symptoms among middle school students in a single urban school district.MethodsMiddle school students (n = 1649; 47% Hispanic and 38% black, non-Hispanic) from 12 schools, randomly selected out of 27 district schools, completed health behavior surveys in fall 2011. Students reported quantity and types of sweetened beverages consumed in the past 24 hours and completed the 5-item Hyperactivity/Inattention subscale of the Strengths and Difficulties Questionnaire to measure symptoms.ResultsAmount and variety of reported sweetened beverage consumption (including energy drinks) were greater among boys versus girls and among black and Hispanic versus white students. Risk of hyperactivity/inattention increased by 14% for each additional sweetened beverage consumed, adjusting for age, race/ethnicity, sex, school lunch eligibility, family structure, and sugary food consumption. Students reporting consumption of energy drinks were 66% more likely to be at risk for hyperactivity/inattention after adjusting for number of drinks, other types of drinks consumed, and other potential confounders.Conclusionsผลสนับสนุนคำแนะนำ การจำกัดปริมาณการใช้ของหวานเครื่องดื่ม และ เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มพลังงานระหว่างเด็ก การแทรกแซงเพื่อลดการบริโภคเครื่องดื่มที่หวานได้ควรเน้นอย่างชัดเจนเครื่องดื่มพลังงาน และอื่น ๆ เกิดขึ้นใสเครื่องดื่มเช่นกีฬา และใสเครื่องดื่มกาแฟ วิจัยเพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับการเข้าใจทิศทางของผลกระทบและกลไกเบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องดื่มหวานและอาการเข้าร่องเข้า รอย/inattentionคำสำคัญภาระผูกพัน วัยรุ่น เครื่องดื่มพลังงาน โภชนาการ เครื่องดื่มของหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์
เพื่ออธิบายรูปแบบในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวานโดยการแข่งขันเชื้อชาติ / และเพศเอกสารทั้งจำนวนและประเภทของเครื่องดื่มที่มีรสหวานบริโภค; และการตรวจสอบการเชื่อมโยงของการบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวานที่มีสมาธิสั้น / อาการไม่สนใจในหมู่นักเรียนโรงเรียนมัธยมในโรงเรียนเทศบาลเมืองเดียว. วิธีกลางนักเรียนโรงเรียน (n = 1649; 47% สเปนและ 38% สีดำ, ที่ไม่ใช่ฮิสแป) จาก 12 โรงเรียน สุ่มเลือกจาก 27 โรงเรียนอำเภอเสร็จสิ้นการสำรวจพฤติกรรมสุขภาพในฤดูใบไม้ร่วงปี 2011 นักเรียนรายงานปริมาณและประเภทของเครื่องดื่มที่มีรสหวานบริโภคใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและเสร็จสมบูรณ์ 5 รายการ Hyperactivity / ประมาท subscale ของจุดแข็งและความยากลำบากในการวัดแบบสอบถามอาการผลปริมาณและความหลากหลายของรายงานบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวาน (รวมเครื่องดื่มให้พลังงาน) มีมากขึ้นในหมู่เด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงและในหมู่สีดำและสเปนและโปรตุเกสเมื่อเทียบกับนักเรียนสีขาว ความเสี่ยงของสมาธิสั้น / ไม่สนใจเพิ่มขึ้น 14% สำหรับแต่ละเครื่องดื่มรสหวานที่เพิ่มการบริโภคปรับตามอายุเชื้อชาติ / เพศผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมอาหารกลางวันที่โรงเรียนโครงสร้างครอบครัวและการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาล การบริโภคการรายงานของนักศึกษาที่ได้รับเครื่องดื่มให้พลังงาน 66% มีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงสำหรับสมาธิสั้น / ไม่ตั้งใจหลังจากปรับสำหรับจำนวนของเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ของเครื่องดื่มที่บริโภคและปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น. สรุปผลการสนับสนุนคำแนะนำในการ จำกัด การบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวานและเพื่อหลีกเลี่ยง การบริโภคเครื่องดื่มให้พลังงานในหมู่เด็ก การแทรกแซงเพื่อลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวานอย่างชัดเจนควรมุ่งเน้นไปที่เครื่องดื่มให้พลังงานและเครื่องดื่มที่มีรสหวานเกิดใหม่อื่น ๆ เช่นกีฬาและเครื่องดื่มกาแฟที่มีรสหวาน จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจทิศทางของผลกระทบและกลไกที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องดื่มที่มีรสหวานและอาการสมาธิสั้น / ไม่ตั้งใจ. คำสมาธิสั้น; วัยรุ่น; เครื่องดื่มให้พลังงาน; โภชนาการ เครื่องดื่มที่มีรสหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์

เพื่ออธิบายรูปแบบในการบริโภคเครื่องดื่มรสหวานโดยเชื้อชาติ / ชาติพันธุ์และเพศ , เอกสารทั้งปริมาณและชนิดของเครื่องดื่มที่มีรสหวาน และศึกษาความสัมพันธ์ของการบริโภคเครื่องดื่มรสหวานที่มีสมาธิสั้น / ไม่ใส่ใจอาการของนักเรียนมัธยมในเขตโรงเรียนในเมืองเดียว

วิธีการ
นักเรียนมัธยม ( n = 817 ;47 % สเปนและ 38 % สีดำ ไม่ใช่ Hispanic ) จาก 12 โรงเรียน สุ่มจากตำบล 27 โรงเรียนเสร็จสิ้นการสำรวจพฤติกรรมสุขภาพในฤดูใบไม้ร่วง 2011 นักเรียนรายงานปริมาณและชนิดของเครื่องดื่มที่มีรสหวานที่ใช้ในรอบ 24 ชั่วโมงเสร็จละ / ไม่ตั้งใจ hyperactivity ( ของจุดแข็ง และแบบสอบถามเพื่อวัดปัญหาอาการ ผล

ปริมาณและความหลากหลายของรายงานการบริโภคเครื่องดื่มรสหวาน ( รวมทั้งเครื่องดื่มให้พลังงาน ) มีมากขึ้นในหมู่ชายและหญิงและระหว่างสเปนกับนักเรียนสีดำและสีขาว ความเสี่ยงของสมาธิสั้น / ไม่ตั้งใจเพิ่มขึ้น 14% สำหรับแต่ละเพิ่มเติม รสหวาน เครื่องดื่ม ที่ใช้ปรับตามอายุ , เชื้อชาติ / ชาติพันธุ์ เพศ โรงเรียนมีสิทธิ์ โครงสร้างครอบครัวและการบริโภคอาหารหวานนักเรียนรายงานการบริโภคเครื่องดื่มพลังงาน 66 % มีแนวโน้มที่จะเป็นความเสี่ยงสำหรับสมาธิสั้น / ไม่ตั้งใจหลังจากปรับสำหรับหมายเลขของเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆของการบริโภคเครื่องดื่ม และตัววัดที่มีศักยภาพอื่น ๆ .

สรุป
สนับสนุนผลข้อเสนอแนะเพื่อ จำกัด การบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวาน และหลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มพลังงานในหมู่เด็กมาตรการเพื่อลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ควรชัดเจนเน้นเครื่องดื่มให้พลังงานและอื่น ๆที่เกิดขึ้นใหม่ เครื่องดื่มที่มีรสหวาน เช่น กีฬา และ รสหวาน ดื่มกาแฟ การวิจัยมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเข้าใจทิศทางของผลและกลไกที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องดื่มที่มีรสหวานและอาการสมาธิสั้น / ไม่ตั้งใจ


สมาธิสั้นคำหลัก ; วัยรุ่น ; เครื่องดื่มพลังงานอาหาร เครื่องดื่มรสหวาน