ปรากฏการณ์

ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" คือปรากฎการ

ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" คือปรากฎการณ์ที่ทำให้ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานประจุไฟฟ้าออกมายังโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ซึ่งประจุไฟฟ้าที่ ส่งออกมาคือสิ่งที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของ "ภูมิอากาศ" และ "ระบบธรณีวิทยา" บนโลก

แล้วปรากฏการณ์พายุสุริยะเกิดขึ้นได้อย่างไร !
การจะเกิดพายุสุริยะได้ต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ
1) ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว
2) เกิดปรากฏการณ์เรียงตัวกันเป็นระนาบในทางช้างเผือก และ
3) มีรังสีคอสมิก

จากข้อมูลขององค์การนาซ่าแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเจ้าพ่อใหญ่แห่งวงการอวกาศโลก ชี้แจงว่าทุกๆ 11 ปี ขั้วแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะกลับหัวกลับหางจากเหนือเป็นใต้ เป็นเหตุให้ "จุดดับ" บนผิวดวงอาทิตย์ออกฤทธิ์เปล่งพลังงานมหาศาลออกมาในอวกาศในลักษณะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก่อให้เกิดรังสีต่างๆได้แก่ รังสีแกมม่า และรังสีเอ็กเรย์ ซึ่งมีผลต่อโลกในสามระดับ กล่าวคือ

1.ระดับรุนแรงที่สุด (X-Class) ทำให้คลื่นวิทยุสื่อสารล้มเหลวทั้งโลกเป็นเวลานาน อุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้การติดต่อผ่านดาวเทียมและระบบคอมพิวเตอร์จะเข้าสู่ภาวะ Blackout เรียกง่ายๆว่าระบบอิเล็กโทรนิคทั้งหลายเป็นใบ้สิ้นเชิง เราๆท่านๆที่ฝากวิถีชีวิตไว้กับโลก "ออนไลน์" คงต้องทำใจกลับไปสู่ยุคไปรษณีย์จดหมายธรรมดา นักบินมือหนึ่งที่เคยชินกับการนำร่องโดยระบบคอมพิวเตอร์และจีพีเอส ก็คงต้องหันกลับมาบังคับเครื่องแบบ "ตาดู หูฟัง" ท่านที่นิยมทำธุรกรรมออนไลน์คงต้องกลับมาสู่ระบบส่งดร๊าฟทางไปรษณีย์ และที่แน่ๆการประมูลโครงก่อสร้างระดับบิ๊กๆมหาโปรเจคหมื่นล้านที่กระทรวงการคลังคุยนักคุยหนาว่า "อี อ๊อกชั่น" คงต้องกลับมาใช้วิธียื่นซองเหมือนเดิม ส่วนบรรดาผู้มีรสนิยมไฮโซชอบเล่น 3G 4G และ Facebook คงต้องระงับความอยากไว้ชั่วคราว

2.ระดับปานกลาง (m-class) เป็นอาการเดียวกับข้อแรกแต่เกิดแบบชั่วคราว เราๆท่านๆที่เป็นนักออนไลน์ และฝากชีวิตไว้กับสื่ออิเลคโทรนิค ต้องยุติความทันสมัยชั่วคราวคงไม่ถึงกับลงแดง

3. ระดับอ่อน (c-class) ไม่มีผลอะไรเลย แบบที่วัยรุ่นเรียกว่า "ชิว ชิว"


ขณะเดียวกัน เมื่อปี 2551 องค์การนาซาได้ตรวจพบ "รูรั่ว" ในสนามแม่เหล็กโลกที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยคาดไว้ และยังพบชั้นบรรยากาศของโลกที่หดตัวลงมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่เป็นเกราะป้องกันรังสีจากนอกโลกไว้
ประเด็นคือยิ่งปริมาณ "รังสีคอสมิก" เข้ามามากเท่าไหร่ จะเกิดความแปรปรวนของภูมิอากาศในโลก จะมีน้ำก่อตัวมากขึ้น ที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อปี 1978 มีนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่งเคยคาดการณ์ล่วงหน้าว่า ในช่วงเร็ว ๆ นี้ระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่กลุ่มก๊าซขนาดใหญ่ในอวกาศ ทำให้มี "รังสีคอสมิก" เข้ามาในระบบสุริยะมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศบนดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะ

สมมติฐานนี้ได้ถูกคอนเฟิร์มแล้ว เมื่อปี 2009 จากข้อมูลของดาวเทียม voyager 1 และ 2 ของนาซาที่โคจรอยู่บริเวณขอบของระบบสุริยะ จึงตั้งข้อสังเกตว่า หลายประเทศ ทั่วโลกที่กำลังมีความเคลื่อนไหว อาทิ พม่าย้ายเมืองหลวงไปที่เนปิเดา ห่างชาย ฝั่งทะเล 400 กิโลเมตร เนเธอร์แลนด์สร้างบ้านลอยน้ำ อเมริกากำลังสร้างเมืองลอยน้ำ นอรเวย์ย้ายฐานทัพทหารลงใต้ดิน รัสเซียกำลัง สร้างฐานทัพและหลุมหลบภัยใต้ดิน 5 พันแห่ง ฯลฯ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ !

สัญญาณบอกเหตุ 1-3 วัน
ย้อนกลับมาดูผลศึกษาเหตุการณ์ในอดีต พบว่าเมื่อปี 1859 พายุสุริยะเคยเกิดขึ้นทำให้ระบบสายส่งโทรเลขขัดข้อง มีเจ้าหน้าที่ถูกไฟฟ้าชอร์ตเพราะพลังงานเหล่านี้ถูกส่งผ่านจากชั้นบรรยากาศ

ถัดมายุคปัจจุบัน เริ่มจากวิกฤตอุทกภัยในภาคกลางของประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2554 ได้เกิดพายุสุริยะขึ้น เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรง โดยหน่วยงาน spaceweather.com ของสหรัฐทำนายว่า ในวันที่ 26 กันยายน จะเกิดประจุไฟฟ้ามาตกกระทบที่ขอบโลก ด้านนอก และตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ปริมาณน้ำก็เพิ่มขึ้นมากและเกิดน้ำท่วมต่อมา และในวันเดียวกันที่ประเทศสเปนยังมีภูเขาไฟระเบิดอีกด้วย

ล่าสุดกับ "น้ำท่วมภาคใต้" ปรากฏว่าตรวจพบพายุสุริยะเมื่อ 26 ธันวาคม จากนั้น 28 ธันวาคม 2554 เกิดฝนตกหนัก และวันที่ 30-31 ธันวาคม 2554 น้ำก็ท่วม ส่วนการเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ปีที่ผ่านมา ก็ตรวจพบดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้ "จุดดับ" บนดวงอาทิตย์เกิดการหดหรือขยายตัว จึงมีการตั้งข้อสังเกต หากจุดดับบนดวงอาทิตย์หดหรือขยายตัว จะสัมพันธ์กับการเกิดแผ่นดินไหวบนโลก นั่นหมายความว่า ก่อนจะเกิดปรากฏการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติ จะมีพายุสุริยะหรือการระเบิดของดวงอาทิตย์เกิดขึ้นก่อน เฉลี่ย 1-3 วัน

ระหว่างปี 2012-2015 ยังมีโอกาสที่ดวงอาทิตย์จะเกิดปฏิกิริยาพายุสุริยะได้ตลอด แต่ ไม่ขอฟันธงว่า ภัยพิบัติธรรมชาติจะเกิดขึ้นในเมืองไทยหรือประเทศอื่น แต่เชื่อว่าแนวโน้มสภาพอากาศ แปรปรวน ปัญหาน้ำท่วมยังคงมีอยู่ และมีโอกาสจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หลังจากปี 2015 ความถี่การเกิดพายุสุริยะจะลดลง จนกว่าจะผ่านไปอีก 11 ปี ที่วงรอบการเกิดพายุสุริยะถี่จะกลับมา ระหว่างนี้ คนไทยจึงไม่ควรประมาทกับภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น "สำหรับประเทศไทย ปัญหาน้ำท่วม บอกไม่ได้ ว่าเกิดที่ไหน รุนแรงเท่าใด แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่ ช่วงระหว่างปี 2012-2015 เมื่อคำนวณจากปรากฏการณ์พายุสุริยะ"
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" คือปรากฎการณ์ที่ทำให้ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานประจุไฟฟ้าออกมายังโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ซึ่งประจุไฟฟ้าที่ส่งออกมาคือสิ่งที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของ "ภูมิอากาศ" และ "ระบบธรณีวิทยา" บนโลก แล้วปรากฏการณ์พายุสุริยะเกิดขึ้นได้อย่างไร คือองค์ประกอบการจะเกิดพายุสุริยะได้ต้องมี 3 1) ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 2) และเกิดปรากฏการณ์เรียงตัวกันเป็นระนาบในทางช้างเผือก 3) มีรังสีคอสมิก จากข้อมูลขององค์การนาซ่าแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเจ้าพ่อใหญ่แห่งวงการอวกาศโลกชี้แจงว่าทุก ๆ 11 ปีขั้วแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะกลับหัวกลับหางจากเหนือเป็นใต้เป็นเหตุให้ "จุดดับ" บนผิวดวงอาทิตย์ออกฤทธิ์เปล่งพลังงานมหาศาลออกมาในอวกาศในลักษณะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก่อให้เกิดรังสีต่างๆได้แก่รังสีแกมม่าและรังสีเอ็กเรย์ซึ่งมีผลต่อโลกในสามระดับกล่าวคือ 1.ระดับรุนแรงที่สุด (X-ชั้น) ทำให้คลื่นวิทยุสื่อสารล้มเหลวทั้งโลกเป็นเวลานานอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้การติดต่อผ่านดาวเทียมและระบบคอมพิวเตอร์จะเข้าสู่ภาวะไฟดับเรียกง่ายๆว่าระบบอิเล็กโทรนิคทั้งหลายเป็นใบ้สิ้นเชิงเราๆท่านๆที่ฝากวิถีชีวิตไว้กับโลพบว่ามี "ออนไลน์" คงต้องทำใจกลับไปสู่ยุคไปรษณีย์จดหมายธรรมดานักบินมือหนึ่งที่เคยชินกับการนำร่องโดยระบบคอมพิวเตอร์และจีพีเอสก็คงต้องหันกลับมาบังคับเครื่องแบบ "ตาดูหูฟัง" ท่านที่นิยมทำธุรกรรมออนไลน์คงต้องกลับมาสู่ระบบส่งดร๊าฟทางไปรษณีย์และที่แน่ๆการประมูลโครงก่อสร้างระดับบิ๊กๆมหาโปรเจคหมื่นล้านที่กระทรวงการคลังคุยนักคุยหนาว่า "อีอ๊อกชั่น" คงต้องกลับมาใช้วิธียื่นซองเหมือนเดิมส่วนบรรดาผู้มีรสนิยมไฮโซชอบเล่น 4G ทรีจีและ Facebook คงต้องระงับความอยากไว้ชั่วคราว2.ระดับปานกลาง (ชั้น m) เป็นอาการเดียวกับข้อแรกแต่เกิดแบบชั่วคราวเราๆท่านๆที่เป็นนักออนไลน์และฝากชีวิตไว้กับสื่ออิเลคโทรนิคต้องยุติความทันสมัยชั่วคราวคงไม่ถึงกับลงแดง 3. ระดับอ่อน (ซีคลาส) ไม่มีผลอะไรเลยแบบที่วัยรุ่นเรียกว่า "ชิวชิว" ขณะเดียวกันเมื่อปี 2551 องค์การนาซาได้ตรวจพบ "รูรั่ว" ในสนามแม่เหล็กโลกที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยคาดไว้และยังพบชั้นบรรยากาศของโลกที่หดตัวลงมากเป็นประวัติการณ์ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่เป็นเกราะป้องกันรังสีจากนอกโลกไว้ ประเด็นคือยิ่งปริมาณ "รังสีคอสมิก" เข้ามามากเท่าไหร่จะเกิดความแปรปรวนของภูมิอากาศในโลกจะมีน้ำก่อตัวมากขึ้นที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อปี 1978 มีนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่งเคยคาดการณ์ล่วงหน้าว่าในช่วงเร็วๆ นี้ระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางกำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่กลุ่มก๊าซขนาดใหญ่ในอวกาศทำให้มี "รังสีคอสมิก" เข้ามาในระบบสุริยะมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศบนดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะ สมมติฐานนี้ได้ถูกคอนเฟิร์มแล้วเมื่อปี 2009 จากข้อมูลของดาวเทียมทาง 1 และ 2 ของนาซาที่โคจรอยู่บริเวณขอบของระบบสุริยะจึงตั้งข้อสังเกตว่าหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังมีความเคลื่อนไหวอาทิพม่าย้ายเมืองหลวงไปที่เนปิเดาห่างชายฝั่งทะเล 400 กิโลเมตรเนเธอร์แลนด์สร้างบ้านลอยน้ำอเมริกากำลังสร้างเมืองลอยน้ำนอรเวย์ย้ายฐานทัพทหารลงใต้ดินรัสเซียกำลังสร้างฐานทัพและหลุมหลบภัยใต้ดิน 5 พันแห่งฯลฯ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ สัญญาณบอกเหตุ 1-3 วัน ย้อนกลับมาดูผลศึกษาเหตุการณ์ในอดีตพบว่าเมื่อปีปี 1859 พายุสุริยะเคยเกิดขึ้นทำให้ระบบสายส่งโทรเลขขัดข้องมีเจ้าหน้าที่ถูกไฟฟ้าชอร์ตเพราะพลังงานเหล่านี้ถูกส่งผ่านจากชั้นบรรยากาศ ถัดมายุคปัจจุบันเริ่มจากวิกฤตอุทกภัยในภาคกลางของประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาปรากฏว่าเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2554 ได้เกิดพายุสุริยะขึ้นเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรงโดยหน่วยงาน spaceweather.com ของสหรัฐทำนายว่าในวันที่ 26 กันยายนจะเกิดประจุไฟฟ้ามาตกกระทบที่ขอบโลกด้านนอกและตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนปริมาณน้ำก็เพิ่มขึ้นมากและเกิดน้ำท่วมต่อมาและในวันเดียวกันที่ประเทศสเปนยังมีภูเขาไฟระเบิดอีกด้วย ล่าสุดกับ "น้ำท่วมภาคใต้" ปรากฏว่าตรวจพบพายุสุริยะเมื่อ 26 ธันวาคมจากนั้น 28 ธันวาคม ๒๕๕๔ เกิดฝนตกหนักและวันที่ 30-31 ธันวาคม 2554 น้ำก็ท่วมส่วนการเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ปีที่ผ่านมาก็ตรวจพบดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรงทำให้ "จุดดับ" บนดวงอาทิตย์เกิดการหดหรือขยายตัวจึงมีการตั้งข้อสังเกตหากจุดดับบนดวงอาทิตย์หดหรือขยายตัวจะสัมพันธ์กับการเกิดแผ่นดินไหวบนโลกนั่นหมายความว่าก่อนจะเกิดปรากฏการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติจะมีพายุสุริยะหรือการระเบิดของดวงอาทิตย์เกิดขึ้นก่อนเฉลี่ย 1-3 วัน ระหว่างปี 2012-2015 ยังมีโอกาสที่ดวงอาทิตย์จะเกิดปฏิกิริยาพายุสุริยะได้ตลอดแต่ไม่ขอฟันธงว่าภัยพิบัติธรรมชาติจะเกิดขึ้นในเมืองไทยหรือประเทศอื่นแต่เชื่อว่าแนวโน้มสภาพอากาศแปรปรวนปัญหาน้ำท่วมยังคงมีอยู่และมีโอกาสจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหลังจากปี 2015 ความถี่การเกิดพายุสุริยะจะลดลงจนกว่าจะผ่านไปอีก 11 ปีที่วงรอบการเกิดพายุสุริยะถี่จะกลับมาระหว่างนี้คนไทยจึงไม่ควรประมาทกับภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น "สำหรับประเทศไทยปัญหาน้ำท่วมบอกไม่ได้ว่าเกิดที่ไหนรุนแรงเท่าใดแต่ความเสี่ยงยังมีอยู่ช่วงระหว่างปี 2012-2015 เมื่อคำนวณจากปรากฏการณ์พายุสุริยะ"
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" ๆ ซึ่งประจุไฟฟ้าที่ "ภูมิอากาศ" และ "ระบบธรณีวิทยา" ! การจะเกิดพายุสุริยะได้ต้องมี 3 องค์ประกอบคือ1) ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว2) และ3) ชี้แจงว่าทุกๆ 11 ปี เป็นเหตุให้ "จุดดับ" รังสีแกมม่าและรังสีเอ็กเรย์ซึ่งมีผลต่อโลกในสามระดับกล่าวคือ1. ระดับรุนแรงที่สุด (X-Class) ความมืดมน เรา ๆ ท่าน ๆ ที่ฝากวิถีชีวิตไว้กับโลก "ออนไลน์" ก็คงต้องหันกลับมาบังคับเครื่องแบบ "ตาดูหูฟัง" "อีอ๊อกชั่น" ส่วนบรรดาผู้มีรสนิยมไฮโซชอบเล่น 3G 4G และ Facebook (มชั้น) เรา ๆ ท่าน ๆ ที่เป็นนักออนไลน์และฝากชีวิตไว้กับสื่ออิเลคโทรนิค ระดับอ่อน (C-class) ไม่มีผลอะไรเลยแบบที่วัยรุ่นเรียกว่า "ชิวชิว" ขณะเดียวกันเมื่อปี 2551 องค์การนาซาได้ตรวจพบ "รูรั่ว" ซึ่งทั้ง 2 "รังสีคอสมิก" เข้ามามากเท่าไหร่ จะมีน้ำก่อตัวมากขึ้นที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อปี 1978 ในช่วงเร็ว ๆ ทำให้มี "รังสีคอสมิก" เข้ามาในระบบสุริยะมากขึ้น เมื่อปี 2009 จากข้อมูลของดาวเทียมรอบโลก 1 และ 2 จึงตั้งข้อสังเกตว่าหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังมีความเคลื่อนไหวอาทิพม่าย้ายเมืองหลวงไปที่เนปิเดาห่างชายฝั่งทะเล 400 กิโลเมตรเนเธอร์แลนด์สร้างบ้านลอยน้ำอเมริกากำลังสร้างเมืองลอยน้ำนอรเวย์ย้ายฐานทัพทหารลงใต้ดินรัสเซีย กำลังสร้างฐานทัพและหลุมหลบภัยใต้ดิน 5 พันแห่ง ฯลฯ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่! สัญญาณบอกเหตุ 1-3 พบว่าเมื่อปี 1859 ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2554 ได้เกิดพายุสุริยะขึ้น โดยหน่วยงาน spaceweather.com ของสหรัฐทำนายว่าในวันที่ 26 กันยายน ด้านนอกและตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน "น้ำท่วมภาคใต้" ปรากฏว่าตรวจพบพายุสุริยะเมื่อ 26 ธันวาคมจากนั้น 28 ธันวาคม 2554 เกิดฝนตกหนักและวันที่ 30-31 ธันวาคม 2554 น้ำก็ท่วม 11 มีนาคม 2554 ปีที่ผ่านมา ทำให้ "จุดดับ" บนดวงอาทิตย์เกิดการหดหรือขยายตัวจึงมีการตั้งข้อสังเกต นั่นหมายความว่า เฉลี่ย 1-3 วันระหว่างปี 2012-2015 แต่ไม่ขอฟันธงว่า แต่เชื่อว่าแนวโน้มสภาพอากาศแปรปรวนปัญหาน้ำท่วมยังคงมีอยู่ หลังจากปี 2015 ความถี่การเกิดพายุสุริยะจะลดลงจนกว่าจะผ่านไปอีก 11 ปี ระหว่างนี้ "สำหรับประเทศไทยปัญหาน้ำท่วมบอกไม่ได้ว่าเกิดที่ไหนรุนแรงเท่าใด แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่ช่วงระหว่างปี 2012-2015 เมื่อคำนวณจากปรากฏการณ์พายุสุริยะ"































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ปรากฏการณ์ " พายุสุริยะ " คือปรากฎการณ์ที่ทำให้ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานประจุไฟฟ้าออกมายังโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่นจะซึ่งประจุไฟฟ้าที่ส่งออกมาคือสิ่งที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของ " ภูมิอากาศ " และ " ระบบธรณีวิทยา " บนโลก

แล้วปรากฏการณ์พายุสุริยะเกิดขึ้นได้อย่างไร !
3
1 ) การจะเกิดพายุสุริยะได้ต้องมีองค์ประกอบความดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว
2 ) เกิดปรากฏการณ์เรียงตัวกันเป็นระนาบในทางช้างเผือกและ
3

) มีรังสีคอสมิกจากข้อมูลขององค์การนาซ่าแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเจ้าพ่อใหญ่แห่งวงการอวกาศโลกชี้แจงว่าทุกๆ 11 . ขั้วแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะกลับหัวกลับหางจากเหนือเป็นใต้เป็นเหตุให้ " จุดดับ "รังสีแกมม่าและรังสีเอ็กเรย์ซึ่งมีผลต่อโลกในสามระดับกล่าวคือ

1ระดับรุนแรงที่สุด ( ข เ ซ์ คลาส ) ทำให้คลื่นวิทยุสื่อสารล้มเหลวทั้งโลกเป็นเวลานานอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้การติดต่อผ่านดาวเทียมและระบบคอมพิวเตอร์จะเข้าสู่ภาวะไฟดับเราๆท่านๆที่ฝากวิถีชีวิตไว้กับโลก " ออนไลน์ " คงต้องทำใจกลับไปสู่ยุคไปรษณีย์จดหมายธรรมดานักบินมือหนึ่งที่เคยชินกับการนำร่องโดยระบบคอมพิวเตอร์และจีพีเอสก็คงต้องหันกลับมาบังคับเครื่องแบบ " ตาดูหูฟัง "และที่แน่ๆการประมูลโครงก่อสร้างระดับบิ๊กๆมหาโปรเจคหมื่นล้านที่กระทรวงการคลังคุยนักคุยหนาว่า " อีอ๊อกชั่น " คงต้องกลับมาใช้วิธียื่นซองเหมือนเดิมส่วนบรรดาผู้มีรสนิยมไฮโซชอบเล่น 3G 4G และ Facebook

2 . ระดับปานกลาง ( หนัง ) เป็นอาการเดียวกับข้อแรกแต่เกิดแบบชั่วคราวเราๆท่านๆที่เป็นนักออนไลน์และฝากชีวิตไว้กับสื่ออิเลคโทรนิคต้องยุติความทันสมัยชั่วคราวคงไม่ถึงกับลงแดง

3ระดับอ่อน ( ซีค ) ไม่มีผลอะไรเลยแบบที่วัยรุ่นเรียกว่า " ชิวชิว

"ขณะเดียวกันเมื่อปี 2551 องค์การนาซาได้ตรวจพบ " รูรั่ว " ในสนามแม่เหล็กโลกที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยคาดไว้และยังพบชั้นบรรยากาศของโลกที่หดตัวลงมากเป็นประวัติการณ์ซึ่งทั้ง 2
ประเด็นคือยิ่งปริมาณ " รังสีคอสมิก " เข้ามามากเท่าไหร่จะเกิดความแปรปรวนของภูมิอากาศในโลกจะมีน้ำก่อตัวมากขึ้นที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อปี 1978 มีนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่งเคยคาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะนี้ระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางกำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่กลุ่มก๊าซขนาดใหญ่ในอวกาศทำให้มี " รังสีคอสมิก " เข้ามาในระบบสุริยะมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศบนดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะ

สมมติฐานนี้ได้ถูกคอนเฟิร์มแล้วเมื่อปี 2009 จากข้อมูลของดาวเทียมวอยเอจเจอร์ 1 และ 2 ของนาซาที่โคจรอยู่บริเวณขอบของระบบสุริยะจึงตั้งข้อสังเกตว่าหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังมีความเคลื่อนไหวอาทิห่างชายฝั่งทะเล 400 กิโลเมตรเนเธอร์แลนด์สร้างบ้านลอยน้ำอเมริกากำลังสร้างเมืองลอยน้ำนอรเวย์ย้ายฐานทัพทหารลงใต้ดินรัสเซียกำลังสร้างฐานทัพและหลุมหลบภัยใต้ดิน 5 พันแห่งฯลฯจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ !


สัญญาณบอกเหตุ 1-3 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าย้อนกลับมาดูผลศึกษาเหตุการณ์ในอดีตพบว่าเมื่อปี 1859 พายุสุริยะเคยเกิดขึ้นทำให้ระบบสายส่งโทรเลขขัดข้องมีเจ้าหน้าที่ถูกไฟฟ้าชอร์ตเพราะพลังงานเหล่านี้ถูกส่งผ่านจากชั้นบรรยากาศ

ถัดมายุคปัจจุบันเริ่มจากวิกฤตอุทกภัยในภาคกลางของประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาปรากฏว่าเมื่อ 22 วันที่กันยายน 2554 ได้เกิดพายุสุริยะขึ้นเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรงโดยหน่วยงาน spaceweather .คอมของสหรัฐทำนายว่าในวันที่ 26 กันยายนจะเกิดประจุไฟฟ้ามาตกกระทบที่ขอบโลกด้านนอกและตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนปริมาณน้ำก็เพิ่มขึ้นมากและเกิดน้ำท่วมต่อมา

ล่าสุดกับ " น้ำท่วมภาคใต้ " ปรากฏว่าตรวจพบพายุสุริยะเมื่อ 26 ธันวาคมจากนั้น 28 ธันวาคม 2554 เกิดฝนตกหนักและวันที่ 30-31 ธันวาคม 2554 น้ำก็ท่วมส่วนการเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ปีที่ผ่านมาทำให้ " จุดดับ " บนดวงอาทิตย์เกิดการหดหรือขยายตัวจึงมีการตั้งข้อสังเกตหากจุดดับบนดวงอาทิตย์หดหรือขยายตัวจะสัมพันธ์กับการเกิดแผ่นดินไหวบนโลกนั่นหมายความว่าก่อนจะเกิดปรากฏการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติเฉลี่ย
1-3 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า
ระหว่างปี 2012-2015 ยังมีโอกาสที่ดวงอาทิตย์จะเกิดปฏิกิริยาพายุสุริยะได้ตลอด A ไม่ขอฟันธงว่าภัยพิบัติธรรมชาติจะเกิดขึ้นในเมืองไทยหรือประเทศอื่นแต่เชื่อว่าแนวโน้มสภาพอากาศแปรปรวนปัญหาน้ำท่วมยังคงมีอยู่

อย่างไรก็ตามหลังจากปี 2015 ความถี่การเกิดพายุสุริยะจะลดลงจนกว่าจะผ่านไปอีก 11 . ที่วงรอบการเกิดพายุสุริยะถี่จะกลับมาระหว่างนี้คนไทยจึงไม่ควรประมาทกับภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น " สำหรับประเทศไทยบอกไม่ได้ว่าเกิดที่ไหนรุนแรงเท่าใดแต่ความเสี่ยงยังมีอยู่ช่วงระหว่างปี 2012-2015 เมื่อคำนวณจากปรากฏการณ์พายุสุริยะ "
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: