The cases are then sorted in descen

The cases are then sorted in descending order of staff shortage. The procedure for assigning idle nurses to cases in SD is
based on the availability of nurses who can perform the required role on the case (See the
flowchart in Appendix D). Algorithm 2 and Fig. 1 indicate how to find the best nurse to
assign to a case with a shortage. In the worst case, the ‘‘for’’ loop in Algorithm 2 has to be
executed for all cases and nurses, so its complexity is O(mn log(n)), with m being the number of
cases, and
n being the number of nurses.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรณีมีการเรียงลำดับแล้วเรียงลำดับความขาดแคลนพนักงาน ขั้นตอนสำหรับการกำหนดใช้งานพยาบาลกรณีใน SD พร้อมของพยาบาลที่สามารถดำเนินบทบาทจำเป็นในกรณีที่ใช้ (ดู ผังในภาคผนวก D) อัลกอริทึม 2 และรูปที่ 1 แสดงวิธีการค้นหาให้พยาบาลที่ดีที่สุด กำหนดให้กรณีที่มีการขาดแคลน ในกรณีเลวร้ายที่สุด วง ''สำหรับ '' ในอัลกอริทึม 2 จะต้องมี ดำเนินการสำหรับทุกกรณีและพยาบาล ดังนั้นความซับซ้อนของคือ O (mn log(n)) กับ m ที่เป็นจำนวน กรณี และn เป็นจำนวนของพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรณีที่ถูกจัดเรียงแล้วโดยเรียงลำดับจากปัญหาการขาดแคลนพนักงาน ขั้นตอนในการกำหนดพยาบาลไม่ได้ใช้งานกับกรณีใน SD จะ
ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพยาบาลที่สามารถดำเนินการในบทบาทที่จำเป็นต้องใช้ในกรณีที่ (ดู
ผังในภาคผนวก D) อัลกอริทึมที่ 2 และรูป 1 ระบุว่าเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดในการพยาบาล
กำหนดให้กรณีที่มีปัญหาการขาดแคลน ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดที่ '' สำหรับ '' วงในขั้นตอนวิธีการที่ 2 จะต้องมีการ
ดำเนินการทุกกรณีและพยาบาลเพื่อความซับซ้อนของมันเป็น O (MN เข้าสู่ระบบ (N)) กับม. เป็นจำนวนของ
กรณีและ
n เป็น จำนวนของพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรณีจะเรียงตามลำดับของการขาดแคลนพนักงาน ขั้นตอนสำหรับการใช้งานเฉพาะใน SD เป็นพยาบาลขึ้นอยู่กับความพร้อมของพยาบาลที่สามารถใช้บทบาทในคดีนี้ ( ดูผังงานในภาคผนวก D ) รูปที่ 1 แสดงขั้นตอนและวิธีการหาพยาบาลที่ดีที่สุดกำหนดให้กรณีมีการขาดแคลน ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด สำหรับ " " ห่วงในขั้นตอนวิธีที่ 2 มีเพื่อดำเนินการทุกกรณี และพยาบาล ดังนั้นความซับซ้อนของมันคือ O ( log ( n ) ) ) กับ M มีจำนวนกรณี , และn เป็นจํานวนของพยาบาล