In the past two decades, some consu

In the past two decades, some consumer behavior researchers have incorporated elements of vision, touch, audition, smell and taste in their research. Some of this research has explicitly focused on the antecedents and consequences of sensory perception, for example, the effect of verbal and visual ads on ad processing (Houston, Childers, & Heckler, 1987) or the effect of spoken versus written ads on ad recall (Unnava, Agarwal, & Haugtvedt, 1996). Some of this research also used sensory perception for mood manipulation—e.g., food tastes (Kahn & Isen, 1993) or certain types of music (Gardner, 1985). However, despite the focus on sensory perceptions within consumer behavior there lacked cohesiveness within this research stream. In summer 2008, a group of researchers who had been working on individual senses got together and created the umbrella of sensory marketing for their research (see Krishna, 2010: xii).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในสองทศวรรษที่ผ่านมา นักวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคบางคนได้รวมองค์ประกอบของวิสัยทัศน์ สัมผัส การฟัง กลิ่น และรสชาติในการวิจัยของพวกเขา บางงานวิจัยนี้ได้อย่างชัดเจนเน้น antecedents และผลกระทบของการรับรู้ทางประสาทสัมผัส เช่น ผลของวาจา และภาพโฆษณาในโฆษณา (ฮุสตัน Childers, & Heckler, 1987) ในการประมวลผล หรือผลของพูดและเขียนโฆษณาบนโฆษณาเรียกคืน (Unnava, Agarwal, & Haugtvedt, 1996) บางงานวิจัยนี้ยังใช้ประสาทรับรู้สำหรับอารมณ์ manipulation—e.g รสชาติอาหาร (คาห์นและ Isen, 1993) หรือบางชนิดของเพลง (การ์ดเนอร์ 1985) อย่างไรก็ตาม แม้จะเน้นประสาทสัมผัสภายในของผู้บริโภค มีพฤติกรรมขาดความในงานวิจัยนี้ ในช่วงฤดูร้อน 2008 กลุ่มของนักวิจัยที่ได้ทำงานในแต่ละความรู้สึกร่วมกัน และสร้างร่มของประสาทสัมผัสตลาดวิจัยของพวกเขา (ดูกฤษณะ 2010: xii)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในอดีตสองทศวรรษที่ผ่านมานักวิจัยบางพฤติกรรมของผู้บริโภคได้รวมองค์ประกอบของวิสัยทัศน์สัมผัสออดิชั่น, กลิ่นและรสชาติในการวิจัยของพวกเขา บางส่วนของงานวิจัยนี้ได้มุ่งเน้นอย่างชัดเจนเกี่ยวกับบุคคลและผลกระทบของการรับรู้ทางประสาทสัมผัสเช่นผลของการโฆษณาทางวาจาและภาพในการประมวลผลโฆษณา (ฮูสตัน, Childers และเฮคเลอร์, 1987) หรือผลของการพูดเมื่อเทียบกับโฆษณาที่เขียนเกี่ยวกับการเรียกคืนโฆษณา (Unnava, Agarwal & Haugtvedt, 1996) บางส่วนของงานวิจัยนี้ยังใช้ประสาทสัมผัสสำหรับการจัดการ-เช่นอารมณ์รสนิยมอาหาร (คาห์น & Isen, 1993) หรือบางประเภทของเพลง (การ์ดเนอร์, 1985) อย่างไรก็ตามแม้จะมุ่งเน้นไปที่การรับรู้ทางประสาทสัมผัสภายในพฤติกรรมผู้บริโภคมีขาดเอกภาพภายในกระแสการวิจัยครั้งนี้ ในช่วงฤดู​​ร้อนปี 2008 กลุ่มของนักวิจัยที่ได้รับการทำงานในความรู้สึกของแต่ละคนได้ร่วมกันและสร้างร่มของการตลาดทางประสาทสัมผัสสำหรับการวิจัยของพวกเขา (ดูกฤษณะ 2010: สิบสอง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในอดีตสองทศวรรษที่ผ่านมานักวิจัยบางพฤติกรรมของผู้บริโภคได้รวมองค์ประกอบของวิสัยทัศน์ สัมผัส ออดิชั่น กลิ่น และรสชาติ ในการวิจัยของพวกเขา บางส่วนของงานวิจัยนี้ได้อย่างชัดเจนเน้นปัจจัยที่เป็นสาเหตุและผลของการรับรู้ทางประสาทสัมผัส เช่น ผลของภาพโฆษณาและโฆษณาทางวาจาในการประมวลผล ( Houston , บุตร , และเฮคเลอร์ , 1987 ) หรือผลของการพูดและเขียนโฆษณาบนโฆษณา ( unnava กลางวัน , และ haugtvedt , 1996 ) งานวิจัยนี้ยังใช้ประสาทสัมผัสการรับรู้ อารมณ์ manipulation-e.g. รสชาติอาหาร ( คาห์น & isen , 1993 ) หรือบางประเภทของเพลง ( การ์ดเนอร์ , 1985 ) อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการรับรู้ทางประสาทสัมผัสภายใน เน้นพฤติกรรมของผู้บริโภคมีขาดเอกภาพภายในงานวิจัยนี้กระแส ในฤดูร้อนปี 2551 กลุ่มนักวิจัยที่ได้ทำงานในความรู้สึกแต่ละคนได้ร่วมกันและสร้างร่มของการตลาดและวิจัยของพวกเขา ( เห็นพระกฤษณะ , 2010 : 12 )