อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ หรือเดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติดงหินกอง มีเนื้อที่ป การแปล - อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ หรือเดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติดงหินกอง มีเนื้อที่ป ไทย วิธีการพูด

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ หรือเดิมชื่อ

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ หรือเดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติดงหินกอง มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 33 ของประเทศ ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูลบริเวณแก่งตะนะ

ซึ่งคำว่า "ตะนะ" จากการเล่าขานตามความเชื่อของชาวบ้านและประชาชนทั่วไป เดิมมาจากคำว่า "มรณะ" เนื่องจากบริเวณแก่งตะนะนี้ มีกระแสน้ำไหลที่เชี่ยวกราก และมีโขดหินใหญ่น้อยอยู่ทั่วไป ตลอดจนมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านที่สัญจรทางน้ำหรือออกจับปลา มักประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านจึงเรียกแก่งนี้ว่า "แก่งมรณะ" ตามแรงบันดาลจากสภาพของสายน้ำที่ไหลผ่านแก่งนี้ ซึ่งต่อมาเรียกว่า "แก่งตะนะ" จึงตั้งเป็นชื่ออุทยานแห่งชาติ

ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ย ๆ มียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด ความสูงประมาณ 543 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่าน ตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกประเทศลาว บริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึก อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง จึงทำให้มีปลาอาศัยอยู่ชุกชุม ตรงกลางมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นเกาะกลาง สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดง จะมีป่าดิบเฉพาะบริเวณริมห้วยใหญ่เท่านั้น สภาพพื้นที่ส่วนมากเป็นหินทรายและพื้นที่ศิลา

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ

สถานที่ท่องเที่ยว

ดอนตะนะ เป็นดอนหรือเกาะกลางที่เกิดขวางแม่น้ำมูล มีความกว้างประมาณ 450 เมตร ยาวประมาณ 700 เมตร มีสะพานแขวนทอดข้ามทั้ง 2 ด้านของเกาะ ทางตอนเหนือของดอนตะนะมีหาดทรายเหมาะแก่การพักผ่อน บนดอนตะนะยังมีป่าอยู่ทั่วไป เป็นสภาพป่าดงดิบแล้งมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นในช่วงเช้า และช่วงเย็นจะมีการทำประมงของชาวบ้านรอบ ๆ เกาะ

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ

แก่งตะนะ เป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุด กลางแก่งตะนะมีโขดหินทรายมหึมา เป็นเกาะกลางลำน้ำมูลที่เกิดจากลำน้ำมูลทั้งสองสายที่เชี่ยวกราก และจะกัดเซาะลงในแนวหินสูงประมาณ 1 เมตร ถ้าสังเกตเกาะกลางแก่งตะนะจะเห็นสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยฝรั่งเศสยังล่าอาณานิคม เพื่อใช้เป็นเครื่องชี้ร่องน้ำในการเดินเรือ บริเวณแก่งตะนะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึก ใต้ท้องน้ำเป็นหลุมหิน โขดหิน ทั้งยังมีโพรงถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง จึงทำให้มีปลามาอาศัยบริเวณแก่งตะนะชุกชุม ช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยว คือ เดือนพฤศจิกายน-มิถุนายน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะหรือเดิมชื่ออุทยานแห่งชาติดงหินกองมีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 33 ของประเทศที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูลบริเวณแก่งตะนะ ซึ่งคำว่า "ตะนะ" จากการเล่าขานตามความเชื่อของชาวบ้านและประชาชนทั่วไปเดิมมาจากคำว่า "มรณะ" เนื่องจากบริเวณแก่งตะนะนี้มีกระแสน้ำไหลที่เชี่ยวกรากและมีโขดหินใหญ่น้อยอยู่ทั่วไปตลอดจนมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่งชาวบ้านที่สัญจรทางน้ำหรือออกจับปลามักประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอยู่เป็นประจำชาวบ้านจึงเรียกแก่งนี้ว่า "แก่งมรณะ" ตามแรงบันดาลจากสภาพของสายน้ำที่ไหลผ่านแก่งนี้ซึ่งต่อมาเรียกว่า "แก่งตะนะ" จึงตั้งเป็นชื่ออุทยานแห่งชาติ ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ยๆ มียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุดความสูงประมาณ 543 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางมีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกประเทศลาวบริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึกอีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่งจึงทำให้มีปลาอาศัยอยู่ชุกชุมตรงกลางมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นเกาะกลางสภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดงจะมีป่าดิบเฉพาะบริเวณริมห้วยใหญ่เท่านั้นสภาพพื้นที่ส่วนมากเป็นหินทรายและพื้นที่ศิลา อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะสถานที่ท่องเที่ยว ดอนตะนะเป็นดอนหรือเกาะกลางที่เกิดขวางแม่น้ำมูลมีความกว้างประมาณ 450 เมตรยาวประมาณ 700 เมตรมีสะพานแขวนทอดข้ามทั้ง 2 ด้านของเกาะทางตอนเหนือของดอนตะนะมีหาดทรายเหมาะแก่การพักผ่อนบนดอนตะนะยังมีป่าอยู่ทั่วไปเป็นสภาพป่าดงดิบแล้งมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นในช่วงเช้าและช่วงเย็นจะมีการทำประมงของชาวบ้านรอบๆ เกาะอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ แก่งตะนะเป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุดกลางแก่งตะนะมีโขดหินทรายมหึมาเป็นเกาะกลางลำน้ำมูลที่เกิดจากลำน้ำมูลทั้งสองสายที่เชี่ยวกรากและจะกัดเซาะลงในแนวหินสูงประมาณ 1 เมตรถ้าสังเกตเกาะกลางแก่งตะนะจะเห็นสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยมซึ่งสร้างขึ้นในสมัยฝรั่งเศสยังล่าอาณานิคมเพื่อใช้เป็นเครื่องชี้ร่องน้ำในการเดินเรือบริเวณแก่งตะนะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึกใต้ท้องน้ำเป็นหลุมหินโขดหินทั้งยังมีโพรงถ้ำใต้น้ำหลายแห่งจึงทำให้มีปลามาอาศัยบริเวณแก่งตะนะชุกชุมช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายน-มิถุนายน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะหรือเดิมชื่ออุทยานแห่งชาติ ดงหินกองมีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ วันที่ 13 กรกฎาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 33 ของประเทศที่ทำการอุทยานฯ "ตะนะ" เดิมมาจากคำว่า "มรณะ" เนื่องจากบริเวณแก่งตะนะนี้มีกระแสน้ำ ไหลที่เชี่ยวกรากและมีโขดหินใหญ่น้อยอยู่ทั่วไปตลอดจนมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านจึงเรียกแก่งนี้ว่า "แก่งมรณะ" ซึ่งต่อมาเรียกว่า "แก่งตะนะ" ๆ มียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด ความสูงประมาณ 543 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางมีแม่น้ำ มูลและแม่น้ำโขงไหลผ่าน อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลาย แห่งจึงทำให้มีปลาอาศัยอยู่ชุกชุม สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดง มีความกว้างประมาณ 450 เมตรยาวประมาณ 700 เมตรมีสะพานแขวนทอดข้ามทั้ง 2 ด้านของเกาะ บนดอนตะนะยังมีป่าอยู่ ทั่วไป ๆ เป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุด กลางแก่งตะนะมีโขดหินทรายมหึมา และจะกัดเซาะลงในแนวหิน สูงประมาณ 1 เมตร ใต้ท้องน้ำเป็นหลุมหินโขดหิน ทั้งยังมีโพรงถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง ช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยวคือ เดือนพฤศจิกายน - มิถุนายน














การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะหรือเดิมชื่ออุทยานแห่งชาติดงหินกองมีเนื้อที่ประมาณ 50000 ไร่ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 33 ของประเทศที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูลบริเวณแก่งตะนะซึ่งคำว่า " ตะนะ " จากการเล่าขานตามความเชื่อของชาวบ้านและประชาชนทั่วไปเดิมมาจากคำว่า " มรณะ " เนื่องจากบริเวณแก่งตะนะนี้มีกระแสน้ำไหลที่เชี่ยวกรากและมีโขดหินใหญ่น้อยอยู่ทั่วไปตลอดจนมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่งชาวบ้านที่สัญจรทางน้ำหรือออกจับปลามักประสบอุบัติเหตุเ สียชีวิตอยู่เป็นประจำชาวบ้านจึงเรียกแก่งนี้ว่า " แก่งมรณะ " ตามแรงบันดาลจากสภาพของสายน้ำที่ไหลผ่านแก่งนี้ซึ่งต่อมาเรียกว่า " แก่งตะนะ " จึงตั้งเป็นชื่ออุทยานแห่งชาติภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ยจะมียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุดความสูงประมาณ 543 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางมีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกประเทศลาวบริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึกอีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่งจึงท ำให้มีปลาอาศัยอยู่ชุกชุมตรงกลางมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นเกาะกลางสภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดงจะมีป่าดิบเฉพาะบริเวณริมห้วยใหญ่เท่านั้นสภาพพื้นที่ส่วนมากเป็นหินทรายและพื้นที่ศิลาอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะสถานที่ท่องเที่ยวดอนตะนะเป็นดอนหรือเกาะกลางที่เกิดขวางแม่น้ำมูลมีความกว้างประมาณ 450 เมตรยาวประมาณ 700 เมตรมีสะพานแขวนทอดข้ามทั้ง 2 ด้านของเกาะทางตอนเหนือของดอนตะนะมีหาดทรายเหมาะแก่การพักผ่อนบนดอนตะนะยังมีป่าอยู่ทั่วไปเป็นสภาพป่าดงดิบแล้งมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นในช่วงเช้ าและช่วงเย็นจะมีการทำประมงของชาวบ้านรอบจะเกาะอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะแก่งตะนะเป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุดกลางแก่งตะนะมีโขดหินทรายมหึมาเป็นเกาะกลางลำน้ำมูลที่เกิดจากลำน้ำมูลทั้งสองสายที่เชี่ยวกรากและจะกัดเซาะลงในแนวหินสูงประมาณ 1 เมตรถ้าสังเกตเกาะกลางแก่งตะนะจะเห็นสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยมซึ่งสร้างขึ้นในสมัยฝรั่งเ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: