when Louis was ten, his parents too

when Louis was ten, his parents took him to a school for blind
children in Paris. Louis lived at the school. He was a good student and
looked forward to the day when he could read. The school had some
books that blind people could read. These books had letters that stood
out. He had to feel each letter with his fingers. There was one sentence
on each page. just one part of a book weighed 20 pounds. A whole
book weighed 400 pounds! By age eleven, Louis had read all fourteen
books in the school. He wonted to read more, but there were no more
books. So every evening, he tried to find a way for blind people to be
able to read books. one day, Captain Charles Barbier, a French soldier,
came to speak at the school. Barbier had invented night-writing. This
system used dots for the letters of the alphabet. Soldiers could feel the
dots with their fingers and read with no light. Barbier thought night-
writing could also help blind people.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อ Louis สิบ พ่อก็พาเขาไปโรงเรียนคนตาบอดเด็กในปารีส Louis อาศัยอยู่ที่โรงเรียน เขาเป็นนักเรียนที่ดี และมองไปข้างหน้าเป็นวันที่เมื่อเขาได้อ่าน โรงเรียนมีบางหนังสือที่คนตาบอดสามารถอ่าน หนังสือเหล่านี้มีอักษรที่ยืนออก เขารู้สึกว่าแต่ละตัวอักษร ด้วยนิ้วมือของเขา มีประโยคหนึ่งในแต่ละหน้า เพียงส่วนหนึ่งของหนังสือหนัก 20 ปอนด์ ทั้งหมดหนังสือหนัก 400 ปอนด์ โดยเอ็ดอายุ Louis ได้อ่านทั้งหมดสิบสี่หนังสือในโรงเรียน เขา wonted เพื่ออ่านเพิ่มเติม แต่มีไม่มากหนังสือ ดังนั้น ทุกเย็น เขาพยายามหาวิธีที่สำหรับคนตาบอดจะสามารถอ่านหนังสือ วันหนึ่ง กัปตันชาร์ลส์ Barbier ทหารฝรั่งเศสมาพูดที่โรงเรียน Barbier ได้คิดค้นคืนเขียน นี้ระบบใช้จุดสำหรับตัวอักษรของตัวอักษร ทหารรู้สึกถึงการจุด มีนิ้วมือและอ่าน ด้วยแสงไม่ Barbier คิดคืน-เขียนยังสามารถช่วยให้คนตาบอด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อหลุยส์เป็นสิบพ่อแม่ของเขาพาเขาไปโรงเรียนคนตาบอดเด็กในกรุงปารีส หลุยส์อาศัยอยู่ที่โรงเรียน
เขาเป็นนักเรียนที่ดีและมองไปข้างหน้าเพื่อวันที่เขาได้อ่าน
โรงเรียนมีบางหนังสือที่คนตาบอดสามารถอ่าน
หนังสือเหล่านี้มีตัวอักษรที่ยืนอยู่ออก เขาจะต้องรู้สึกว่าตัวอักษรแต่ละตัวด้วยมือของเขา
มีประโยคหนึ่งคือในแต่ละหน้า เพียงส่วนหนึ่งของหนังสือชั่งน้ำหนัก£ 20 ทั้งหนังสือชั่งน้ำหนัก£ 400!
โดยอายุสิบเอ็ด,
หลุยส์ได้อ่านทั้งหมดสิบสี่หนังสือในโรงเรียน เขาเป็นนิสัยในการอ่านมากขึ้น
แต่มีไม่มากหนังสือ
ดังนั้นทุกเย็นเขาพยายามที่จะหาวิธีสำหรับคนตาบอดที่จะเป็นความสามารถในการอ่านหนังสือ วันหนึ่งกัปตันชาร์ลส์ Barbier
ทหารฝรั่งเศสมาให้ไปพูดที่โรงเรียน Barbier ได้คิดค้นคืนเขียน
ซึ่งระบบที่ใช้จุดสำหรับตัวอักษรของตัวอักษร
ทหารสามารถรู้สึกถึงจุดด้วยมือของพวกเขาและอ่านด้วยแสงไม่มี Barbier
คิดกลางคืนเขียนยังสามารถช่วยให้คนตาบอด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อหลุยส์ อายุ 10 ขวบ พ่อแม่ของเขาพาเขาไปโรงเรียนเด็กตาบอด
ในปารีส หลุยส์อยู่ที่โรงเรียน เขาเป็นนักเรียนที่ดีและ
รอคอยวันที่เขาจะอ่าน โรงเรียนมี
หนังสือที่คนตาบอดอ่านได้ หนังสือเหล่านี้มีตัวอักษรที่ยืนอยู่
. เขาต้องรู้สึกว่าตัวอักษรแต่ละตัวด้วยนิ้วของเขา มีประโยคเดียว
ในแต่ละหน้าเพียงส่วนหนึ่งของหนังสือหนัก 20 ปอนด์ หนังสือทั้งเล่ม
หนัก 400 ปอนด์ โดยอายุสิบเอ็ด หลุยส์ ได้อ่านทั้งหมดสิบสี่
หนังสือในโรงเรียน เขาปกติอ่านเพิ่มเติม แต่ไม่มีเพิ่มเติม
หนังสือ ดังนั้น ทุกๆ เย็น เขาพยายามหาทางให้คนตาบอดได้
ได้อ่านหนังสือ วันนึง กัปตันชาร์ลส์ barbier , ทหารฝรั่งเศส
มาพูดที่โรงเรียน barbier ได้คิดค้นคืนข้อความระบบนี้
ใช้จุดสำหรับตัวอักษรของตัวอักษร ทหารอาจรู้สึก
จุดด้วยมือของพวกเขาและอ่านด้วยแสง barbier คิดว่ากลางคืน -
เขียนสามารถช่วยคนตาบอด