International transport is crucial

International transport is crucial to the development of world trade and the logistics sector contributes to a country's gross domestic product. However, transport consumes energy and inevitably produces pollutants including greenhouse gases (GHG). In the past, researchers have focused on the environmental problems associated with the production of goods in factories and in services. Industrial noise, water pollution, air pollution, and land contamination have attracted a great deal of attention and numerous articles have been devoted to these areas of cleaner production. Besides, organizations have adopted environmental management systems such as ISO 14001 to manage environmental issues. Nevertheless, industry and transport, combining with energy supply, constituted the largest growth in GHG emissions between 1970 and 2004 . The environmental externalities associated with distribution operations i.e. logistics services have still been largely overlooked even though a major contributor to the carbon footprint of a supply chain is the total energy consumed in manufacturing and logistics. In cleaner production, researchers have used life cycle approach to identify the resources used and the pollutants generated for a wide range of products manufactured in different parts of the world, transported to the point of sales, and eventually consumed and disposed by consumers since the 1990s. It was found that GHG emissions due to the logistics services ranged from a few percent to over ten percent, depending on the characteristics of goods and the mode of transport. After goods have been produced, they have to be transported from factories to purchasers who are normally not located in the same geographical location. Thus, the logistics sector plays a critical role in supporting and promoting regional and international trade flow. In some economies, such as Hong Kong and Singapore, the logistics sector is one of the economic pillars because a huge amount of manufactured products make use of the city's logistics infrastructure for distribution. Despite its importance, there is a dearth of literature on environmental assessment of the logistics sector as a whole in an economy. Hence, the main purpose of this study is to determine the environmental performance of Hong Kong's logistics sector as a whole and its subsectors i.e. air, sea, and land freight using GHG emissions. As the logistic sector contributes to 3.3 percent of Hong Kong's gross domestic product (GDP) and employs about 183 thousand people i.e. 5 percent of Hong Kong's total workforce, the economic performance of the logistics sector and its subsectors shall also be evaluated. The findings of the study will contribute to the understanding the impact of logistics services on the environmental and economic dimensions, thus providing a more comprehensive and balanced view of the logistics sector. The rest of the paper is structured as follows. The next section presents a brief review of the environmental assessment of production and transport of goods and the development of Hong Kong's logistics sector. Section 3 introduces a ‘bottom-up’ approach so that GHG emissions, environmental effectiveness, and economic performance, from different transport modes are determined, and data sources. Section 4 presents results and analysis and Section 5 concludes the findings of the study.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขนส่งระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาของการค้าโลก และภาคโลจิสติกส์รวมผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ขนส่งใช้พลังงาน และย่อมก่อให้เกิดสารมลพิษเช่นก๊าซเรือนกระจก (GHG) ในอดีต นักวิจัยได้มุ่งเน้นในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า ในโรงงาน และบริการ เสียงอุตสาหกรรม มลพิษทางน้ำ มลพิษทางอากาศ ดินปนเปื้อน และได้ดึงดูดความสนใจมาก และบทความจำนวนมากมีการทุ่มเทผลิตทำความสะอาดพื้นที่เหล่านี้ นอก องค์กรได้นำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมเช่น ISO 14001 ในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมและการขนส่ง รวมกับพลังงาน ทะลักเติบโตที่ใหญ่ที่สุดในการปล่อยก๊าซ GHG ระหว่างปี 1970 และปี 2004 Externalities สิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการกระจายการดำเนินงานเช่นบริการโลจิสติกส์ยังคงถูกส่วนใหญ่ข้ามแม้ว่าพลังงานรวมที่ใช้ในการผลิตและโลจิสติกส์เป็นผู้บริจาคสำคัญรอยเท้าคาร์บอนของห่วงโซ่อุปทาน ในการผลิตน้ำยาทำความสะอาด นักวิจัยได้ใช้วิธีวงจรการระบุทรัพยากรที่ใช้และสารมลพิษที่สร้างสำหรับหลากหลายผลิตภัณฑ์ผลิตในส่วนต่าง ๆ ของโลก ขนส่งไปยังจุดขาย และในที่สุดใช้ และตัดจำหน่าย โดยผู้บริโภคตั้งแต่ปี 1990 พบว่า การปล่อยก๊าซ GHG จากบริการโลจิสติกส์อยู่ในช่วงจากกี่เปอร์เซ็นต์กว่าสิบเปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าและวิธีการขนส่ง หลังจากที่มีการผลิตสินค้า พวกเขาต้องขนส่งจากโรงงานกับผู้ที่ไม่อยู่ในที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เดียวกัน ดังนั้น ภาคโลจิสติกส์มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน และส่งเสริมการค้าระดับภูมิภาค และนานาชาติไหล ในบางประเทศ Hong Kong และสิงคโปร์ ภาคโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในหลักเศรษฐกิจ เพราะทำให้จำนวนมากของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตใช้สำหรับการกระจายโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ของเมือง แม้ มีความสำคัญ มีวรรณคดีในการประเมินสิ่งแวดล้อมภาคโลจิสติกส์ทั้งในเศรษฐกิจการขาดแคลน ดังนั้น วัตถุประสงค์หลักของการศึกษานี้คือการ กำหนดประสิทธิภาพของ Hong Kong ภาคโลจิสติกส์ทั้งหมดและ subsectors ของสิ่งแวดล้อมเช่นอากาศ ซี และที่ดินค่าขนส่งโดยใช้การปล่อย GHG เป็นภาคโลจิสติกการจัดสรรร้อยละ 3.3 ของ Hong Kong รวมผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ (GDP) และมีพนักงานเกี่ยวกับ พัน 183 คนเช่นร้อยละ 5 ของพนักงานทั้งหมดของ Hong Kong จะยังสามารถประเมินประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของภาคโลจิสติกส์และการ subsectors ผลการวิจัยของการศึกษาจะนำไปสู่ความเข้าใจผลกระทบของบริการโลจิสติกส์ในสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจมิติ ดังนั้นให้มุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้น และสมดุลของภาคโลจิสติกส์ จัดโครงสร้างส่วนเหลือของกระดาษดังนี้ ส่วนถัดไปแสดงสรุปย่อการประเมินสิ่งแวดล้อมของการผลิตและขนส่งสินค้าและการพัฒนาภาคโลจิสติกส์ Hong Kong หมวดที่ 3 แนะนำวิธี 'สายล่าง' เพื่อให้ปล่อยก๊าซ GHG ประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม และ ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ จากโหมดการขนส่งต่าง ๆ จะถูกกำหนด และแหล่งข้อมูล 4 ส่วนแสดงผลและวิเคราะห์ และส่วนที่ 5 สรุปผลการวิจัยของการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขนส่งระหว่างประเทศมีความสำคัญต่อการพัฒนาของการค้าโลกและภาคโลจิสติกก่อให้ประเทศผลิตภัณฑ์ในประเทศขั้นต้น อย่างไรก็ตาม, การขนส่งและการใช้พลังงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ก่อให้เกิดมลพิษรวมทั้งก๊าซเรือนกระจก (GHG) ในอดีตที่ผ่านมานักวิจัยได้มุ่งเน้นไปที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าในโรงงานและในการให้บริการ เสียงอุตสาหกรรมมลพิษทางน้ำมลพิษทางอากาศและการปนเปื้อนในดินแดนมีความสนใจการจัดการที่ดีของความสนใจและบทความจำนวนมากได้รับการอุทิศเพื่อพื้นที่เหล่านี้ของการผลิตที่สะอาด นอกจากนี้องค์กรที่ได้นำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมเช่น ISO 14001 การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมและการขนส่งรวมกับการจัดหาพลังงานประกอบการเจริญเติบโตที่ใหญ่ที่สุดในปล่อยก๊าซเรือนกระจกระหว่างปี 1970 และ 2004 ภายนอกสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานการจัดจำหน่ายเช่นบริการโลจิสติกยังคงได้รับส่วนใหญ่มองข้ามแม้ว่าผู้บริจาครายใหญ่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของห่วงโซ่อุปทานพลังงานทั้งหมดที่บริโภคในการผลิตและโลจิสติก ในการผลิตที่สะอาดนักวิจัยได้ใช้วิธีวงจรชีวิตการระบุทรัพยากรที่ใช้และสารมลพิษที่สร้างขึ้นสำหรับความหลากหลายของสินค้าที่ผลิตในส่วนต่างๆของโลกที่เคลื่อนย้ายไปยังจุดขายและการบริโภคในที่สุดและกำจัดโดยผู้บริโภคตั้งแต่ปี 1990 . มันก็พบว่าปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเนื่องมาจากการให้บริการโลจิสติกตั้งแต่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์กว่าร้อยละสิบขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าและรูปแบบของการขนส่ง หลังจากที่สินค้าได้รับการผลิตที่พวกเขาจะต้องมีการขนส่งจากโรงงานให้กับผู้ซื้อที่เป็นปกติไม่ได้อยู่ในที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เดียวกัน ดังนั้นภาคโลจิสติกมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมการไหลเวียนของการค้าภูมิภาคและระหว่างประเทศ ในบางประเทศเช่นฮ่องกงและสิงคโปร์ภาคโลจิสติกเป็นหนึ่งในเสาหลักทางเศรษฐกิจเพราะเป็นจำนวนมากของสินค้าที่ผลิตใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกของเมืองสำหรับการจัดจำหน่าย แม้จะมีความสำคัญมีความขาดแคลนของหนังสือที่เกี่ยวกับการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมของภาคโลจิสติกโดยรวมในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของการศึกษาครั้งนี้คือการตรวจสอบการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของฮ่องกงภาคโลจิสติกรวมและสาขาย่อยของมันคืออากาศทะเลและการขนส่งสินค้าโดยใช้ที่ดินที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในฐานะที่เป็นภาคโลจิสติกก่อให้ร้อยละ 3.3 ของฮ่องกงผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) และมีพนักงานประมาณ 183,000 คนคือร้อยละ 5 ของฮ่องกงแรงงานรวมประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของภาคการขนส่งและสาขาย่อยนอกจากนี้ยังจะได้รับการประเมิน ผลการศึกษาดังกล่าวจะนำไปสู่​​ความเข้าใจผลกระทบของการให้บริการโลจิสติกในมิติด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจจึงให้มุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้นและมีความสมดุลของภาคโลจิสติก ส่วนที่เหลือของกระดาษที่มีโครงสร้างดังนี้ ส่วนถัดไปที่มีการทบทวนการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมของการผลิตและการขนส่งสินค้าและการพัฒนาของฮ่องกงภาคโลจิสติก ส่วนที่ 3 แนะนำวิธีการ 'ด้านล่างขึ้น' เพื่อที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมและประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจจากโหมดการขนส่งที่แตกต่างกันมีความมุ่งมั่นและแหล่งข้อมูล หมวดที่ 4 นำเสนอผลและการวิเคราะห์และมาตรา 5 สรุปผลการวิจัยของการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การขนส่งระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาของการค้าโลก และโลจิสติกส์ของประเทศ ภาคที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การขนส่ง ใช้พลังงาน และย่อมก่อให้เกิดมลพิษ รวมทั้งก๊าซเรือนกระจก ( GHG ) ในอดีต นักวิจัยได้มุ่งเน้นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม และบริการเสียง มลพิษในน้ำ อากาศ มลพิษจากอุตสาหกรรม และการปนเปื้อนที่ดินได้ดึงดูดความสนใจมากและบทความมากมายได้อุทิศให้กับพื้นที่เหล่านี้ของการผลิตที่สะอาด นอกจากนี้ องค์กรได้นำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น ISO 14001 เพื่อจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรม และการขนส่ง , การจัดหาพลังงานคือการเจริญเติบโตที่ใหญ่ที่สุดในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ระหว่างปี 1970 และปี 2004 ด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการกระจายผลกระทบภายนอกเช่นบริการโลจิสติกส์ยังถูกมองข้ามไป ทั้งๆที่เป็นผู้สนับสนุนหลักในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโซ่อุปทานคือ ผลรวมของพลังงานที่ใช้ในการผลิต และโลจิสติกส์ ในการผลิตที่สะอาดนักวิจัยได้ใช้แนวทางวัฏจักรชีวิตการระบุทรัพยากรที่ใช้ และมลพิษที่สร้างขึ้นสำหรับหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในส่วนต่างๆของโลก ไปยังจุดของการขาย และในที่สุดบริโภคและทิ้งโดยผู้บริโภคตั้งแต่ปี 1990 พบว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเนื่องจากการบริการด้านโลจิสติกส์ระหว่างไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่จะมากกว่าร้อยละสิบขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าและโหมดของการขนส่ง หลังจากสินค้าได้ถูกผลิต พวกเขาต้องถูกขนส่งจากโรงงานไปยังผู้ซื้อที่เป็นปกติไม่ได้อยู่ในที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เดียวกัน ดังนั้น ภาคโลจิสติกส์มีบทบาทในการสนับสนุน และส่งเสริมการไหลของการค้าในภูมิภาคและระหว่างประเทศ ในบางประเทศ เช่น ฮ่องกง และสิงคโปร์โลจิสติกส์ภาคเป็นหนึ่งในเสาหลักทางเศรษฐกิจ เพราะสินค้าที่ผลิตจำนวนมากใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานของเมืองโลจิสติกส์เพื่อการกระจายสินค้า แม้จะมีความสําคัญ มีความขาดแคลนของวรรณคดีในการประเมินสิ่งแวดล้อมของการขนส่งทั้งในภาคเศรษฐกิจ ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของการศึกษานี้เพื่อศึกษาสมรรถนะทางสิ่งแวดล้อมของภาคโลจิสติกส์ของฮ่องกงโดยรวมของมันเป็นอันดับแรก เช่น อากาศ ทะเล และ ขนส่ง การใช้ที่ดินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก . เป็นภาคโลจิสติกจัดสรร 3.3 ร้อยละของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( GDP ) ของฮ่องกง และมีพนักงานประมาณ 183 , 000 คน คือ 5 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมดของฮ่องกงประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของภาคขนส่งและอันดับแรกจะถูกประเมิน ผลจากการศึกษาครั้งนี้ จะนำไปสู่ความเข้าใจในผลกระทบของบริการโลจิสติกในมิติด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ จึงให้มุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้นและความสมดุลของโลจิสติกส์ภาค ส่วนที่เหลือของกระดาษมีโครงสร้างดังนี้ส่วนถัดไปเสนอทบทวนการประเมินสิ่งแวดล้อมของการผลิตและการขนส่งของสินค้าและการพัฒนาภาคโลจิสติกส์ของฮ่องกง ส่วนที่ 3 แนะนำวิธีการ ' ต้อง ' เพื่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประสิทธิผล สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ จากโหมดการขนส่งที่แตกต่างกัน มีความมุ่งมั่น และแหล่งข้อมูลมาตรา 4 และมาตรา 5 นำเสนอผลวิเคราะห์และสรุปผลการศึกษา .