Philip W. JulianDecember 2011Direct

Philip W. Julian
December 2011
Director of Dissertation: Linda Mayne, PhD
Department: Graduate Nursing Science
Despite notable efforts to present nursing as a viable career for men, the profession remains
predominately female, and the modest changes in the numbers of men has not kept pace with the
increasing demand for nursing services. In contrast to professional nursing, men comprise the
majority of direct care providers in the military health care as medics, hospital corpsmen, and
medical technicians. These men receive training and patient care experiences that would seem
valuable assets in nursing practice, yet nursing fails to attract them in large numbers. The
purpose of this qualitative study was to describe what men, currently in military health care
roles, think about nursing as a career option after military service. Focus group interviews were
conducted with 27 men engaged in direct patient care duties at 3 military health care facilities.
Thematic content analysis was used to identify concepts, patterns, and themes that emerged from
transcripts of the narrative data. The pervasive theme derived from the analysis was that
participants did not view nursing as an appealing career and perceived nurses as ―overworked,
underappreciated‖ for the education, responsibilities, duties, and liabilities they incur in the
healthcare environment. They revealed a conflicted perception about nursing, respecting many
qualities and attributes while dismissing other aspects of the occupation as unappealing.
Secondly, informants indicated they already performed most of duties required for nursing 2
practice, but lacked the credentials to employ these capabilities outside the military health care
environment. Finally, the participants considered the obstacles presented by both military
structure and schools of nursing policies as significant barriers to pursuing nursing as a career
during and after military service. Exploring the experiences of men in nursing and teaching has
significant implications for recruitment and retention in a profession with historically low
numbers of men. The information gained from the investigation enhanced the understanding
how men in military health care perceive nursing as a career option and suggested a number of
actions to encourage men to consider nursing as a career option after military service.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Julian W. ฟิลิป2554 ธันวาคมกรรมการวิทยานิพนธ์: ลินดา Mayne ดร.ภาควิชา: บัณฑิตพยาบาลศาสตร์แม้ มีความพยายามที่โดดเด่นนำพยาบาลเป็นอาชีพที่ทำงานสำหรับผู้ชาย อาชีพที่ยังคง หญิง predominately และการเปลี่ยนแปลงที่เจียมเนื้อเจียมตัวในจำนวนผู้ชายไม่ยังคงก้าวกับการ เพิ่มความต้องการบริการพยาบาล ตรงข้ามพยาบาลมืออาชีพ มนุษย์ประกอบด้วยการ ส่วนใหญ่ผู้ให้บริการโดยตรงดูแลในการดูแลสุขภาพทางทหารเป็นหน่วยกู้ชีพ พยาบาล corpsmen และ เทคนิคทางการแพทย์ คนเหล่านี้ได้รับประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย และฝึกอบรมที่จะ สินทรัพย์ที่มีคุณค่าในการปฏิบัติการพยาบาล พยาบาลยัง ไม่ดึงดูดพวกเขาในจำนวนมาก ที่ วัตถุประสงค์ของการศึกษาเชิงคุณภาพนี้มีเพื่อ อธิบายว่า ผู้ชาย อยู่ในการดูแลสุขภาพทางทหาร บทบาท คิดเกี่ยวกับการพยาบาลเป็นตัวอาชีพหลังจากการรับราชการทหาร ได้สัมภาษณ์กลุ่มโฟกัส ดำเนิน มี 27 คนในหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโดยตรงที่ 3 ทหารสุขภาพอำนวย ใช้วิเคราะห์เนื้อหาเฉพาะเรื่องการระบุแนวคิด รูปแบบ และชุดรูปแบบที่เกิดจาก ใบแสดงผลของข้อมูลบรรยาย มีรูปแบบชุมชนที่แพร่หลายที่ได้มาจากการวิเคราะห์ที่ ผู้เรียนได้ดูพยาบาลเป็นอาชีพน่าสนใจและพยาบาลรับรู้เป็น ―overworked underappreciated‖ การศึกษา ความรับผิดชอบ หน้าที่ และหนี้สินที่พวกเขาใช้ในการ สภาพแวดล้อมสุขภาพ พวกเขาเปิดเผยรับรู้ conflicted เกี่ยวกับพยาบาล เคารพมาก คุณภาพและคุณลักษณะขณะ dismissing อาชีพด้านอื่น ๆ เช่น unappealing ประการที่สอง คุณค่าระบุจะดำเนินการส่วนใหญ่ของหน้าที่ที่จำเป็นสำหรับพยาบาล 2ฝึก แต่ขาดข้อมูลประจำตัวที่ต้องใช้ความสามารถนี้ภายนอกสุขภาพทหาร สภาพแวดล้อม สุดท้าย ผู้เข้าร่วมพิจารณาอุปสรรคที่นำเสนอ โดยทหารทั้งสอง โครงสร้างและโรงเรียนของนโยบายที่เป็นอุปสรรคสำคัญให้ใฝ่หาพยาบาลเป็นอาชีพพยาบาล ระหว่าง และ หลังการรับราชการทหาร การสำรวจประสบการณ์ของมนุษย์ในการพยาบาล และการสอนได้ นัยสำคัญสำหรับการสรรหาบุคลากรและการเก็บรักษาในอาชีพกับอดีตต่ำ จำนวนคน ข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจสอบการปรับปรุงความเข้าใจ วิธีในการดูแลสุขภาพทางทหารสังเกตพยาบาลเป็นตัวเลือกอาชีพ และแนะนำจำนวน การดำเนินการเพื่อส่งเสริมให้คนพิจารณาพยาบาลเป็นตัวอาชีพหลังจากการรับราชการทหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Philip W . จูเลียน
ธันวาคม 2554
กรรมการวิทยานิพนธ์ : ลินดา เมย์น ฝ่ายบัณฑิตศึกษาพยาบาลศาสตร์เอก

แม้จะมีความพยายามเสนอเด่นพยาบาลเป็นอาชีพที่ทำงานได้สำหรับผู้ชาย อาชีพยังคง
หญิงเป็นส่วนใหญ่ และการเปลี่ยนแปลงที่เจียมเนื้อเจียมตัวในตัวเลขของมนุษย์ไม่ได้เก็บทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการบริการพยาบาล
. ในทางตรงกันข้ามกับคนประกอบด้วย
วิชาชีพพยาบาลcorpsmen โรงพยาบาลส่วนใหญ่ของผู้ให้บริการการดูแลโดยตรงในการดูแลสุขภาพ เช่น แพทย์ , ทหาร , และ
ช่างเทคนิคทางการแพทย์ คนเหล่านี้ได้รับการอบรมและดูแลผู้ป่วยประสบการณ์นั้นจะดูเหมือน
ทรัพย์สินที่มีค่าในการปฏิบัติพยาบาล แต่พยาบาลที่ล้มเหลวในการดึงดูดพวกเขาในตัวเลขขนาดใหญ่
วัตถุประสงค์ของการศึกษาเชิงคุณภาพนี้ เพื่ออธิบายสิ่งที่คน , ขณะนี้อยู่ในบทบาทการดูแล
สุขภาพทหารคิดถึงพยาบาลเป็นอาชีพที่เลือกหลังจากการรับราชการทหาร การสัมภาษณ์กลุ่ม (
1 27 คน ร่วมในหน้าที่การดูแลผู้ป่วยโดยตรงในสถานบริการ 3 ทหาร
วิเคราะห์เนื้อหาใจความเพื่อศึกษาแนวคิด รูปแบบ และรูปแบบ ที่โผล่ขึ้นมาจาก
ใบข้อมูลการเล่าเรื่อง ครอบคลุมหัวข้อที่ได้มาจากการวิเคราะห์ได้ว่า
คนไม่ได้ดูพยาบาลเป็นอาชีพที่น่าสนใจและการรับรู้พยาบาลผมอยาก overworked
underappreciated ‖เพื่อการศึกษา ความรับผิดชอบ หน้าที่ และความรับผิดชอบที่พวกเขาต้องการใน
สุขภาพสิ่งแวดล้อม พวกเขาพบขัดแย้งการรับรู้เกี่ยวกับพยาบาล เคารพคุณภาพมากมาย
และคุณลักษณะในขณะที่พัฒนาด้านอื่น ๆของอาชีพเป็นอุทธรณ์ไม่ได้
ประการที่สองและพบพวกเขาได้ปฏิบัติมากที่สุดของหน้าที่ที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติการพยาบาล 2
, แต่ขาดข้อมูลที่จะใช้ความสามารถเหล่านี้นอกดูแล
สุขภาพของทหาร ) ในที่สุด ผู้เข้าร่วม ถือเป็นอุปสรรคที่นำเสนอโดยทั้งทหาร
โครงสร้างและโรงเรียนพยาบาลเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะผลักดันนโยบายอาชีพการพยาบาล
ระหว่างและหลังจากการรับราชการทหาร การสำรวจประสบการณ์ของมนุษย์ในการพยาบาลและการสอนมี
นัยยะสําคัญสําหรับการสรรหา และการรักษาในอาชีพกับต่ำ
ในอดีตตัวเลขของมนุษย์ ข้อมูลที่ได้รับจากการสอบสวนเพิ่มความเข้าใจ
ทำไมผู้ชายในการดูแลสุขภาพทหารรับรู้พยาบาลเป็นอาชีพทางเลือกและแนะนำจำนวนของ
การกระทำที่จะให้คนพิจารณาตัวเลือกอาชีพการพยาบาลหลังการรับราชการทหาร