Objective: Although mindfulness-bas

Objective: Although mindfulness-based therapy has become a popular treatment, little is known about its efficacy. Therefore, our objective was to conduct an effect size analysis of this popular intervention for anxiety and mood symptoms in clinical samples. Method: We conducted a literature search using PubMed, PsycINFO, the Cochrane Library, and manual searches. Our meta-analysis was based on 39 studies totaling 1,140 participants receiving mindfulness-based therapy for a range of conditions, including cancer, generalized anxiety disorder, depression, and other psychiatric or medical conditions. Results: Effect size estimates suggest that mindfulness-based therapy was moderately effective for improving anxiety (Hedges’s g = 0.63) and mood symptoms (Hedges’s g = 0.59) from pre- to posttreatment in the overall sample. In patients with anxiety and mood disorders, this intervention was associated with effect sizes (Hedges’s g) of 0.97 and 0.95 for improving anxiety and mood symptoms, respectively. These effect sizes were robust, were unrelated to publication year or number of treatment sessions, and were maintained over follow-up. Conclusions: These results suggest that mindfulness-based therapy is a promising intervention for treating anxiety and mood problems in clinical populations. (PsycINFO Database Record (c) 2012 APA, all rights reserved)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์: แม้ว่าตามสติบำบัดเป็น การรักษายอด น้อยเป็นที่รู้จักกันเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการ ดังนั้น วัตถุประสงค์ของเราคือการ ดำเนินการวิเคราะห์ขนาดผลแทรกแซงนี้รู้สึกวิตกกังวลและอาการอารมณ์ในตัวอย่างทางคลินิก วิธีการ: เราดำเนินการค้นหาเอกสารประกอบการใช้ PubMed, PsycINFO ขั้นไลบรารี และค้นหาด้วยตนเอง Meta-analysis ของเราเป็นไปตามการศึกษา 39 รวม 1,140 คนรับใช้สติบำบัดสำหรับช่วงของเงื่อนไข โรคมะเร็ง โรควิตกกังวลเมจแบบทั่วไป ซึมเศร้า และเงื่อนไขอื่น ๆ ทางการแพทย์ หรือจิตแพทย์ ผลลัพธ์: ผลการประเมินขนาดแนะนำว่า ใช้สติบำบัดมีประสิทธิภาพปานกลางในการปรับปรุงความวิตกกังวล (ประเมินค่าเฮดจ์ของ g = 0.63) และอาการอารมณ์ (g ของประเมินค่าเฮดจ์ =คือ 0.59) จากก่อน posttreatment ในตัวอย่างโดยรวม ในผู้ป่วยที่มีความวิตกกังวลและอารมณ์ผิดปกติ การแทรกแซงนี้ถูกเชื่อมโยงกับขนาดผล (กรัมของประเมินค่าเฮดจ์) 0.97 และ 0.95 สำหรับปรับปรุงความวิตกกังวลและอาการอารมณ์ ตามลำดับ ขนาดผลเหล่านี้มีประสิทธิภาพ ได้เห็นปีพิมพ์หรือจำนวนของเซสชันการรักษา และได้รักษาไปติดตาม บทสรุป: ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำว่า ใช้สติบำบัดแทรกแซงสัญญาสำหรับการรักษาปัญหาความวิตกกังวลและอารมณ์ในกลุ่มประชากรทางคลินิก (ระเบียนฐานข้อมูล PsycINFO (c) 2012 อาป้า สงวนลิขสิทธิ์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์: แม้ว่าการรักษาด้วยการใช้สติได้กลายเป็นที่นิยมการรักษาเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นที่รู้จักกันเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมัน ดังนั้นวัตถุประสงค์ของเราคือการดำเนินการวิเคราะห์ขนาดของผลของการแทรกแซงนี้เป็นที่นิยมสำหรับความวิตกกังวลและอาการอารมณ์ในตัวอย่างทางคลินิก วิธีการ: เราดำเนินการค้นหาโดยใช้วรรณกรรม PubMed, PsycINFO ห้องสมุด Cochrane และการค้นหาคู่มือ วิเคราะห์ข้อมูลของเราอยู่บนพื้นฐานของการศึกษา 39 จํานวน 1,140 ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยสติที่ใช้สำหรับช่วงของเงื่อนไขรวมทั้งโรคมะเร็ง, โรควิตกกังวลทั่วไปซึมเศร้าและเงื่อนไขอื่น ๆ จิตเวชหรือทางการแพทย์ ผลการศึกษา: ผลประมาณการขนาดชี้ให้เห็นว่าการรักษาด้วยสติที่ใช้มีประสิทธิภาพพอสมควรส​​ำหรับการปรับปรุงความวิตกกังวล (ชพุ่มไม้ของ = 0.63) และอาการอารมณ์ (ชพุ่มไม้ของ = 0.59) จากก่อนที่จะ posttreatment ในกลุ่มตัวอย่างโดยรวม ในผู้ป่วยที่มีความวิตกกังวลและความผิดปกติของอารมณ์การแทรกแซงนี้มีความสัมพันธ์กับขนาดของผลกระทบ (ชพุ่มไม้) ที่ 0.97 และ 0.95 สำหรับการปรับปรุงความวิตกกังวลและอาการอารมณ์ตามลำดับ ขนาดอิทธิพลเหล่านี้เป็นที่แข็งแกร่งเป็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับปีที่ตีพิมพ์หรือจำนวนของการประชุมการรักษาและยังคงสภาพการติดตาม สรุปผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าการเจริญสติตามการบำบัดคือการแทรกแซงมีแนวโน้มสำหรับการรักษาปัญหาความวิตกกังวลและอารมณ์ในประชากรทางคลินิก (PsycINFO บันทึกฐานข้อมูล (c) 2012 APA, สงวนลิขสิทธิ์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : ถึงแม้ว่าการใช้สติ ได้กลายเป็นการรักษาเป็นที่นิยม , เป็นที่รู้จักกันเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมัน . จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผลวิเคราะห์ขนาดของการแทรกแซงนี้เป็นที่นิยมสำหรับความวิตกกังวลและอาการอารมณ์ในตัวอย่างทางคลินิก วิธีการ : เราทำการค้นหาโดยใช้ psycinfo PubMed , วรรณกรรม , ห้องสมุด Cochrane และค้นหาคู่มือการวิเคราะห์อภิมานของเราอยู่บนพื้นฐานของการศึกษารวมทั้งสิ้น 39 ต่อ ผู้ที่มารับการรักษาที่ใช้สติเพื่อช่วงของเงื่อนไข รวมถึงมะเร็ง ความผิดปกติของความวิตกกังวลทั่วไป , โรคซึมเศร้า และการอื่น ๆหรือเงื่อนไขทางการแพทย์ ผลลัพธ์ : การประมาณการขนาดผลแนะนำว่าใช้สติบำบัดมีประสิทธิภาพปานกลางเพิ่มความวิตกกังวล ( เฮดจ์ G = 063 ) และอาการอารมณ์ ( เฮดจ์ G = 0.59 ) ก่อนการรักษาในตัวอย่างรวม ในผู้ป่วยที่มีความวิตกกังวลและความผิดปกติทางอารมณ์ การแทรกแซงนี้มีความสัมพันธ์กับค่าขนาดอิทธิพล ( เฮดจ์ G ) 0.97 และ 0.95 สำหรับเพิ่มความวิตกกังวลและอาการ อารมณ์ ตามลำดับ ขนาดผลเหล่านี้สามารถถูกไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งพิมพ์ปีหรือจำนวนครั้งการรักษาและรักษาผ่านการติดตาม สรุป : ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า การใช้สติ คือ การแทรกแซงของสัญญาสำหรับการรักษาปัญหาความวิตกกังวลและอารมณ์ในประชากรคลินิก ( psycinfo บันทึกฐานข้อมูล ( C ) 2012 อาภาทั้งหมดสงวนสิทธิ์ )