Thailand third most unequal country

Thailand third most unequal country in world
Russia is the world’s most unequal country, with 74.5 per cent of the country's wealth controlled by 1 per cent of the people.
India is next at 58.4% and then Thailand is the third most unequal country in the world at 58%.
Wealth has grown quite a lot in Thailand despite the great inequality, from an average of $3350 in 2000 to $8391 in 2016 (see table at the bottom of the page).
Indonesia and Brazil followed with about 50% of the wealth controlled by the top 1%
GROWING INEQUALITY WORLDWIDE
Worldwide there was a trend of growing equality up until the 2008 crisis but the world has been becoming more and more unequal since that crisis Asia-Pacific wealth is now greater than North American wealth for the first time in history.
Stronger economies and booming real estate markets were the drivers behind this wealth increase.
Total global wealth rose 4% percent to $58.7 trillion with European wealth rising 4.8 percent to $13.6 trillion.
The wealth of Latin America and Africa both fell.
A whopping
1.1 billion adults in Africa or India fall into the bottom 50% of global wealth.
Together, Africa, India, and the Asia-Pacific account for 72% of the bottom billion by wealth.
WEALTH BUILDING
Japan and the U.S lead the world in wealth-building.
Brexit, the British decision to leave the EU, caused the British pound and British wealth to fall significantly.
In Southeast Asia, Singapore still leads the pack but has fallen a little: "Personal wealth per adult grew strongly in Singapore up to 2012. Since then, however, it has risen only slowly in domestic currency
units, and declined a little in terms of US dollars (USD). Despite this drop, average wealth remains
at a high level – USD 276,900 per adult in mid-2016, compared to USD 112,800 in 2000."
Indonesia has also been doing well: "Indonesia recovered well from the 1997 – 1998 Asian financial crisis, and in rupiah, wealth per adult has risen six-fold over the 2000 – 2016 period as a whole. Seen in domestic currency terms, the global financial crisis had little effect on wealth, and net worth
has risen fairly smoothly since 2008, at an average annual rate of 5.9%. However, exchange rate depreciation totaling 46% since 2011 has caused wealth per adult to decline in USD terms. Despite this setback, wealth per adult in USD has quadrupled since the year 2000."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเทศไทยสามไม่เท่ากันมากที่สุดในโลกรัสเซียเป็นประเทศไม่เท่ากันมากที่สุดในโลก ด้วยร้อยละ 74.5 ของความมั่งคั่งของประเทศที่ควบคุมโดยร้อยละ 1 ของผู้คน อินเดียเป็น 58.4% ถัดไปแล้ว ประเทศไทยเป็นประเทศสามไม่เท่ากันมากที่สุดในโลก 58% ให้มีการเติบโตค่อนข้างมากในประเทศไทยแม้จะไม่เท่าเทียมกันดี จากเฉลี่ยของ $3350 ใน 2000 $8391 2016 (ดูตารางที่ด้านล่างของหน้า) ตามด้วยอินโดนีเซียและบราซิล มีประมาณ 50% ของความมั่งคั่งที่ควบคุม โดยอันดับ 1% ความไม่เท่าเทียมกันของการเจริญเติบโตทั่วโลก ทั่วโลกมีแนวโน้มของการเติบโตความเท่าเทียมกันจนถึงวิกฤต 2008 แต่ได้รับเป็นโลกขึ้นไม่เท่ากันตั้งแต่ว่า วิกฤตเอเชีย-แปซิฟิกให้เป็นมากกว่าให้อเมริกาเหนือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจแข็งแกร่งและตลาดอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟูมีโปรแกรมควบคุมอยู่เบื้องหลังความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น ความมั่งคั่งทั่วโลกรวมเพิ่มขึ้น 4% เปอร์เซ็นต์ไป $58.7 ล้านล้านพร้อมยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 การ $13.6 ล้านล้าน ความมั่งคั่งของเมริกาและแอฟริกาทั้งสองตกลงมา มีมหันต์ที่ผู้ใหญ่ 1.1 พันล้านคนในแอฟริกาหรืออินเดียตกล่าง 50% ของความมั่งคั่งทั่วโลก ร่วมกัน แอฟริกา อินเดีย และเอเชียแปซิฟิกบัญชี 72% ของด้านล่างพันล้านโดยให้ สร้างความมั่งคั่ง ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกานำโลกในการสร้างความมั่งคั่ง มูลค่าการส่งออก การตัดสินใจออกจากยุโรป อังกฤษเกิดปอนด์อังกฤษและอังกฤษให้ตกอย่างมาก ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์ยังคงนำแพ แต่ได้ลดลงเล็กน้อย: "ความมั่งคั่งส่วนบุคคลสำหรับผู้ใหญ่เติบโตในสิงคโปร์ถึง 2012 ตั้งแต่นั้น อย่างไรก็ตาม มันได้เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เท่าในสกุลเงินในประเทศหน่วย และลดลงเล็กน้อยในแง่ของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) แม้ มีนี้เลื่อน มั่งคั่งเฉลี่ยยังคงอยู่ระดับสูง – 276,900 USD ต่อผู้ใหญ่ในกลางปี 2559 เมื่อเทียบกับ USD 112,800 ใน 2000 " อินโดนีเซียมียังการทำดี: "อินโดนีเซียหายดีจากวิกฤตการเงินปี 1997 – 1998 เอเชีย และรูเปียห์ ให้ผู้ใหญ่ได้เพิ่มขึ้นข่าวในช่วง 2000 – 2016 ทั้งหมด เห็นในข้อกำหนดสกุลเงินในประเทศ วิกฤตการเงินโลกมี ความมั่งคั่งและมูลค่าสุทธิผลเล็กเพิ่มขึ้นค่อนข้างราบรื่นตั้งแต่ 2008 เป็นอัตราต่อปีเฉลี่ย 5.9% อย่างไรก็ตาม ค่าเสื่อมราคาอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 46% ตั้งแต่ 2011 ได้ก่อให้เกิดความมั่งคั่งต่อผู้ใหญ่ในเงื่อนไขบ. เซี่ยงไฮ้ ความมั่งคั่งต่อผู้ใหญ่ในบ.มีเพิ่มตั้งแต่ปี 2000 "

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเทศไทยประเทศที่สามที่ไม่เท่ากันมากที่สุดในโลก
รัสเซียเป็นประเทศที่ไม่เท่ากันมากที่สุดในโลกที่มีร้อยละของความมั่งคั่งของประเทศที่ควบคุมโดยร้อยละ 1 ของผู้คนต่อ 74.5
อินเดียเป็นถัดไปที่ 58.4% แล้วประเทศไทยเป็นประเทศที่สามที่ไม่เท่ากันมากที่สุดในโลกที่ 58%
ความมั่งคั่งที่มีการเติบโตค่อนข้างมากในประเทศไทยแม้จะมีความไม่เท่าเทียมกันดีจากเฉลี่ย $ 3,350 ในปี 2000 เพื่อ $ 8,391 ในปี 2016 (ดูตารางที่ด้านล่างของหน้า)
อินโดนีเซียและบราซิลตามด้วยประมาณ 50% ของความมั่งคั่งควบคุมโดยด้านบน 1%
เติบโตความไม่เท่าเทียมกันทั่วโลก
ทั่วโลกมีแนวโน้มของการเจริญเติบโตความเท่าเทียมกันจนถึงปี 2008 วิกฤต แต่โลกที่ได้รับมากขึ้นและไม่เท่าเทียมกันมากขึ้นนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจมั่งคั่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกว่า คือตอนนี้ยิ่งใหญ่กว่าความมั่งคั่งในทวีปอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเฟื่องฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นไดรเวอร์ที่อยู่เบื้องหลังความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นนี้
มากมายทั่วโลกรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 4% $ 58700000000000 กับความมั่งคั่งในยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 $ 13600000000000
ความมั่งคั่งของละตินอเมริกาและแอฟริกาทั้งสองลดลง
มหันต์
1.1 พันล้านผู้ใหญ่ในแอฟริกาหรืออินเดียตกอยู่ในด้านล่าง 50% ของความมั่งคั่งทั่วโลก
ร่วมกันแอฟริกาอินเดียและบัญชีเอเชียแปซิฟิกสำหรับ 72% ของด้านล่างพันล้านบาทโดยความมั่งคั่ง
ความมั่งคั่งอาคาร
ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกานำไปสู่โลกในความมั่งคั่งอาคาร
Brexit การตัดสินใจของอังกฤษที่จะออกจากสหภาพยุโรปที่เกิดปอนด์อังกฤษและความมั่งคั่งของอังกฤษจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สิงคโปร์ยังคงนำชุด แต่ได้ลดลงเล็กน้อย "
ความมั่งคั่งส่วนบุคคลต่อผู้ใหญ่เติบโตเป็นอย่างมากในสิงคโปร์ถึงปี 2012 ตั้งแต่นั้นมา แต่มันได้เพิ่มขึ้นเพียงช้าลงในสกุลเงินในประเทศ หน่วยและลดลงเล็กน้อยในแง่ของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แม้จะมีการลดลงนี้ความมั่งคั่งเฉลี่ยยังคงอยู่
ในระดับสูง - USD 276,900 ต่อผู้ใหญ่ในช่วงกลางปี 2016 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ 112,800 ในปี 2000 "
อินโดนีเซียยังได้รับการทำดี" อินโดนีเซียกู้คืนอย่างดีจาก 1997 - 1998 วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียและ เงินรูเปียห์, ความมั่งคั่งต่อผู้ใหญ่ได้เพิ่มขึ้นหกเท่าในช่วงปี 2000 - 2016 ระยะเวลารวม การกระทำในแง่ของสกุลเงินในประเทศวิกฤตการเงินโลกมีผลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับความมั่งคั่งและมูลค่าสุทธิ
ได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมได้อย่างราบรื่นตั้งแต่ปี 2008 ในอัตราเฉลี่ยรายปีของ 5.9% อย่างไรก็ตาม ค่าเสื่อมราคาอัตราแลกเปลี่ยนจํานวน 46% ตั้งแต่ 2011 ได้ก่อให้เกิดความมั่งคั่งต่อผู้ใหญ่จะลดลงในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แม้จะปราชัยความมั่งคั่งต่อผู้ใหญ่ในสหรัฐฯได้ปากต่อปากตั้งแต่ปี 2000 "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศส่วนใหญ่ในโลกที่สามที่ไม่เท่ากันรัสเซียเป็นประเทศที่ไม่เท่าเทียมกันมากที่สุดของโลก มีร้อยละ 74.5 ของความมั่งคั่งของประเทศที่ควบคุมโดยร้อยละ 1 ของคนอินเดียต่อไปที่ 58.4 % แล้วประเทศไทยเป็นประเทศที่สามที่ไม่เท่ากันมากที่สุดในโลกที่ 58%ทรัพย์มีการเติบโตค่อนข้างมากใน ประเทศไทย แม้จะมีความยอดเยี่ยม จากค่าเฉลี่ยของ $ 0 , $ 8391 2016 ( ดูตารางที่ด้านล่างของหน้า )อินโดนีเซีย และบราซิล ตามด้วย ประมาณ 50% ของความมั่งคั่งที่ควบคุมโดย 1%การเติบโตของทั่วโลกทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตของความเสมอภาคขึ้นจนเกิดวิกฤตในปี 2008 แต่โลกมีมากขึ้นและมากขึ้นที่ไม่เท่ากันตั้งแต่วิกฤตเอเชีย แปซิฟิก รวยได้ในขณะนี้มากกว่าความมั่งคั่งอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เฟื่องฟูเป็นไดรเวอร์ที่อยู่เบื้องหลังนี้ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดทั่วโลกรวยเพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์เพื่อ $ 58.7 ล้านกับความมั่งคั่งของยุโรปเพิ่มขึ้น 4.8 ร้อยละ $ 1 ล้านล้านความมั่งคั่งของละตินอเมริกา และแอฟริกา ทั้งล้มมหันต์1.1 พันล้านผู้ใหญ่ในแอฟริกา หรือตกอินเดียลงด้านล่าง 50% ของความมั่งคั่งทั่วโลกด้วยกัน แอฟริกา อินเดีย และเอเชียแปซิฟิค สำหรับบัญชี 72% ของด้านล่าง ) และความมั่งคั่งการสร้างความมั่งคั่งญี่ปุ่นและสหรัฐเป็นผู้นำโลกในการสร้างความมั่งคั่งbrexit การตัดสินใจของอังกฤษที่จะออกจากสหภาพยุโรปทำให้ปอนด์อังกฤษและความมั่งคั่งอังกฤษลดลงอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์ยังนำฝูงแต่ได้ลดลงเล็กน้อย : " ความมั่งคั่งส่วนบุคคลต่อผู้ใหญ่ เติบโตอย่างมากในสิงคโปร์ถึง 2012 ตั้งแต่นั้นมา อย่างไรก็ตาม มันได้เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆในสกุลเงินในประเทศเท่านั้นหน่วย และลดลงเล็กน้อยในแง่ดอลลาร์ ( USD ) แม้จะมีความมั่งคั่งเฉลี่ยยังคงลดลงนี้อยู่ในระดับมาก และ 276900 USD ต่อผู้ใหญ่ใน mid-2016 เมื่อเทียบกับ USD 112800 ใน 2000 .อินโดนีเซียยังสบายดี " อินโดนีเซียฟื้นตัวดีจากปี 1997 และ 1998 วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียและในรู , ความมั่งคั่งต่อผู้ใหญ่ ได้เพิ่มขึ้น 6 พับมากกว่า 2000 – 2016 ระยะเวลาทั้ง เห็นในรูปสกุลเงินในประเทศ วิกฤตเศรษฐกิจโลกมีผลกระทบน้อยในความมั่งคั่งและมูลค่าสุทธิได้เพิ่มขึ้นค่อนข้างราบรื่น ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา อัตราโดยเฉลี่ยของ 5.9% อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนค่าเสื่อมราคารวม 46% ในปี 2554 ได้ก่อให้เกิดความมั่งคั่งต่อผู้ใหญ่ การปฏิเสธในแง่ USD ถึงจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น รวยต่อผู้ใหญ่ใน USD มี quadrupled ตั้งแต่ปี 2000 " .