Put down those saucer cups and get

Put down those saucer cups and get chugging — tea is officially awesome for your health. But before loading up on Red Zinger, make sure that your “tea” is actually tea. Real tea is derived from a particular plant (Camellia sinensis) and includes only four varieties: green, black, white, and oolong. Anything else (like herbal “tea”) is an infusion of a different plant and isn’t technically tea.

But what real tea lacks in variety, it makes up for with some serious health benefits. Researchers attribute tea’s health properties to polyphenols (a type of antioxidant) and phytochemicals. Though most studies have focused on the better-known green and black teas, white and oolong also bring benefits to the table. Read on to find out why coffee’s little cousin rocks your health.

Tea can boost exercise endurance. Scientists have found that the catechins (antioxidants) in green tea extract increase the body’s ability to burn fat as fuel, which accounts for improved muscle endurance.
Drinking tea could help reduce the risk of heart attack. Tea might also help protect against cardiovascular and degenerative diseases.
The antioxidants in tea might help protect against a boatload of cancers, including breast, colon, colorectal, skin, lung, esophagus, stomach, small intestine, pancreas, liver, ovarian, prostate and oral cancers. But don’t rely solely on tea to keep a healthy body — tea is not a miracle cure, after all. While more studies than not suggest that tea has cancer-fighting benefits, the current research is mixed.
Tea helps fight free radicals. Tea is high in oxygen radical absorbance capacity (“ORAC” to its friends), which is a fancy way of saying that it helps destroy free radicals (which can damage DNA) in the body. While our bodies are designed to fight free radicals on their own, they’re not 100 percent effective — and since damage from these radical oxygen ninjas has been linked to cancer, heart disease and neurological degeneration, we’ll take all the help we can get.
Tea is hydrating to the body (even despite the caffeine!).
Drinking tea is linked with a lower risk of Parkinson’s disease. When considered with other factors like smoking, physical activity, age and body mass index, regular tea drinking was associated with a lowered risk of Parkinson’s disease in both men and women.
Tea might provide protection from ultraviolet rays. We know it’s important to limit exposure to UV rays, and we all know what it’s like to feel the burn. The good news is that green tea may act as a back-up sunscreen.
Tea could keep waist circumference in check. In one study, participants who regularly consumed hot tea had lower waist circumference and lower BMI than non-consuming participants. Scientists speculate that regular tea drinking lowers the risk of metabolic syndrome (which increases the risk of diabetes, artery disease and stroke), although it’s important to remember that correlation does not equal causation.
Regular tea drinking might also counteract some of the negative effects of smoking and might even lessen the risk of lung cancer (good news, obviously, but not a justification for cigs).
Tea could be beneficial to people with Type 2 diabetes. Studies suggest that compounds in green tea could help diabetics better process sugars.
Tea can help the body recover from radiation. One study found that tea helped protect against cellular degeneration upon exposure to radiation, while another found that tea can help skin bounce back postexposure.
Green tea has been found to improve bone mineral density and strength.
Tea might be an effective agent in the prevention and treatment of neurological diseases, especially degenerative diseases (think Alzheimer’s). While many factors influence brain health, polyphenols in green tea may help maintain the parts of the brain that regulate learning and memory.
Though most research on tea is highly positive, it’s not all definitive — so keep these caveats in mind before stocking up on gallons of the stuff:

Keep it cool. Repeatedly drinking hot beverages may boost the risk of esophageal cancer. Give tea several minutes to cool off before sipping.
The studies seem convincing, but a rat does not a human make. Chemicals in tea may react differently in the lab than they do in the human body. Tannins (and the other good stuff in green tea) may not be bioavailable for humans, meaning tea might not always benefit human health to the same degree as in lab studies suggest.
All tea drinks are not created equal. The body’s access to the good stuff in tea might be determined by the tea variety, canning and processing, and the way it was brewed.
The takeaway: at the very least, tea should be safe to consume — just not in excessive amounts. So brew up a batch of the good stuff — hot or cold — and enjoy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใส่ลงจานรองถ้วยเหล่านั้น และได้รับการตรวจหา — ชาน่ากลัวอย่างเป็นทางการสำหรับสุขภาพของคุณ แต่ก่อนที่จะโหลดขึ้นบนแดง Zinger ให้แน่ใจว่า ของคุณ "ชา ชาจริง ชาที่แท้จริงมาจากโรงงานเฉพาะ (Camellia sinensis) และมีเพียงสี่สายพันธุ์: สีเขียว สีดำ สีขาว และชาอู่หลง อะไร (เช่น "ชาสมุนไพร") เป็นการชงของพืชแตกต่างกัน และไม่ใช่เทคนิคชาแต่ชาอะไรจริงขาดหลาย มันทำให้ขึ้นกับสุขภาพบางอย่างร้ายแรง นักวิจัยกำหนดคุณสมบัติของชาสุขภาพกับโพลีฟีน (ชนิดของสารต้านอนุมูลอิสระ) และสารอาหารจากพืช แม้ว่าการศึกษาส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่สีเขียว better-known และชาดำ สีขาว และอูหลงยังนำประโยชน์ตาราง อ่านเพื่อหาทำไมลูกพี่ลูกน้องน้อยของกาแฟหินสุขภาพของคุณชาสามารถเพิ่มความอดทนออกกำลังกาย นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า catechins (สารต้านอนุมูลอิสระ) ในสารสกัดจากชาเขียวเพิ่มความสามารถของร่างกายการเผาผลาญไขมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งความอดทนของกล้ามเนื้อดีขึ้นการดื่มชาจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย ชายังอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด และความเสื่อมสารต้านอนุมูลอิสระในชาอาจช่วยป้องกัน boatload ของโรคมะเร็ง รวมทั้งเต้านม ลำไส้ใหญ่ ลำไส้ใหญ่ ผิว หนัง ปอด หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ตับอ่อน ตับ รังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และปาก แต่ไม่ใช้ชาเพื่อให้สุขภาพร่างกาย — ชาไม่รักษาความมหัศจรรย์ หลังจากทั้งหมด ในขณะที่ศึกษาเพิ่มเติมมากกว่าไม่แนะนำว่า ชามีประโยชน์มะเร็ง มีผสมการวิจัยในปัจจุบันชาช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระ ชามีสูงออกซิเจนรุนแรงค่าความจุ ("ORAC" ให้เพื่อนของมัน), ซึ่งเป็นวิธีแฟนบอกว่า มันช่วยทำลายอนุมูลอิสระ (ซึ่งสามารถทำลายดีเอ็นเอ) ในร่างกาย ในขณะที่ร่างกายของเราถูกออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับอนุมูลอิสระด้วยตนเอง พวกเขาไม่ได้มีประสิทธิภาพ 100 เปอร์เซ็นต์ — แล้วเนื่องจากความเสียหายจากนินจาออกซิเจนรุนแรงเหล่านี้มีการเชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และระบบประสาทเสื่อม เราจะให้ความช่วยเหลือทั้งหมดที่เราจะได้รับชาให้ความชุ่มชื่นให้กับร่างกาย (แม้มีคาเฟอีน)การดื่มชาถูกเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของโรค เมื่อพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่นสูบบุหรี่ กาย ดัชนีมวลร่างกายและอายุ การดื่มชาเป็นประจำถูกเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคในผู้ชายและผู้หญิงชาอาจช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี เรารู้ว่า มันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อจำกัดการสัมผัสกับรังสี และเราทุกคนรู้ใจเขียนมันเป็น ข่าวดีคือ ว่า ชาเขียวอาจทำหน้าที่เป็นครีมกันแดดสำรองชาสามารถเก็บเส้นรอบวงเอวในการตรวจสอบ ในการศึกษา ผู้ที่บริโภคชาเป็นประจำมีรอบเอวต่ำและ BMI ต่ำกว่าผู้ที่ไม่บริโภค นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า การดื่มชาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของอาการ (ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง), แม้ว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่า ความสัมพันธ์ไม่เท่าพร้อมดื่มชาเป็นประจำยังอาจรับมือกับบางส่วนของผลกระทบเชิงลบของการสูบบุหรี่ และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปอด (ข่าวดี อย่างชัดเจน แต่ไม่มีเหตุผลสำหรับ cigs)ชาอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2 ศึกษาแสดงให้เห็นว่า สารประกอบในชาเขียวจะช่วยให้ดีขึ้น กระบวนการน้ำตาลเบาหวานชาสามารถช่วยให้ร่างกายจากรังสี ศึกษาพบว่า ชาช่วยป้องกันเซลล์เสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับรังสี ในขณะที่อีกพบว่า ชาสามารถช่วยผิวเด้งหลัง postexposureชาเขียวได้พบว่ากระดูกหนาแน่นและความแข็งแรงชาอาจเป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและรักษาโรคทางระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสื่อมโรค (คิดว่า เสื่อม) ในขณะที่ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพสมอง โพลีฟีนในชาเขียวอาจช่วยรักษาส่วนของสมองที่ควบคุมหน่วยความจำและการเรียนรู้แม้ว่างานวิจัยส่วนใหญ่เกี่ยวกับชาเป็นบวกสูง มันไม่ชัดเจนทั้งหมด — เพื่อ ให้ชื่อเหล่านี้ทราบก่อนถุงขึ้นบนแกลลอนของสิ่ง:ให้เย็น การดื่มเครื่องดื่มร้อนซ้ำ ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งหลอดอาหาร ให้ชาหลายนาทีที่เย็นก่อนที่จะจิบการศึกษาดูเหมือนน่าเชื่อถือ แต่หนูไม่ทำให้เป็นมนุษย์ สารเคมีในชาอาจทำปฏิกิริยาแตกต่างกันในห้องปฏิบัติการกว่าทำในร่างกายมนุษย์ ชิม (และสิ่งดีอื่น ๆ ในชาเขียว) อาจ bioavailable สำหรับมนุษย์ ชาความหมายอาจไม่เสมอได้ประโยชน์สุขภาพของมนุษย์ในองศาเดียวกับในห้องปฏิบัติการศึกษาแนะนำเครื่องดื่มชาทั้งหมดจะสร้างเท่านั้น การเข้าถึงสิ่งดีในชาของร่างกายอาจถูกกำหนด โดยหลายชา บรรจุกระป๋อง และการประมวล ผล และวิธีมันถูกชงครูฝึกการ: อย่างน้อย ชาควรจะปลอดภัยที่จะบริโภค — ไม่เพียงในปริมาณที่มากเกินไป ดังนั้น ชงขึ้นชุดของสิ่งดี — ร้อน หรือเย็น — และเพลิดเพลินกับการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใส่ลงถ้วยจานรองเหล่านั้นและได้รับ chugging - ชาอย่างเป็นทางการที่น่ากลัวสำหรับสุขภาพของคุณ แต่ก่อนที่จะโหลดขึ้นสีแดง Zinger ให้แน่ใจว่า "ชา" ของคุณเป็นจริงชา ชาที่แท้จริงคือการที่ได้มาจากพืชโดยเฉพาะอย่างยิ่ง (Camellia sinensis) และมีเพียงสี่สายพันธุ์: สีเขียว, สีดำ, สีขาวและชาอูหลง สิ่งอื่น (เช่นสมุนไพร "ชา") เป็นยาของพืชที่แตกต่างและไม่ได้เป็นชาในทางเทคนิค.

แต่สิ่งที่ชาจริงขาดในหลากหลายมันทำให้ขึ้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพบางอย่าง นักวิจัยแอตทริบิวต์คุณสมบัติสุขภาพชาเพื่อโพลีฟีน (ชนิดของสารต้านอนุมูลอิสระ) และ phytochemicals แม้ว่าการศึกษาส่วนใหญ่ได้มุ่งเน้นไปที่ชาเขียวและสีดำที่รู้จักกันดี, สีขาวและชาอูหลงยังก่อให้เกิดประโยชน์กับตาราง อ่านต่อไปเพื่อหาว่าทำไมกาแฟลูกพี่ลูกน้องของเล็ก ๆ น้อย ๆ หินสุขภาพของคุณ.

ชาสามารถเพิ่มความอดทนการออกกำลังกาย นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า catechins (สารต้านอนุมูลอิสระ) ในสารสกัดจากชาเขียวเพิ่มความสามารถของร่างกายในการเผาผลาญไขมันเป็นเชื้อเพลิงที่บัญชีสำหรับความอดทนของกล้ามเนื้อดีขึ้น.
การดื่มชาจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวาย ชานอกจากนี้ยังอาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและความเสื่อม.
สารต้านอนุมูลอิสระในชาอาจช่วยป้องกัน boatload ของโรคมะเร็งรวมทั้งเต้านมลำไส้ใหญ่ลำไส้ใหญ่, ผิวหนังปอดหลอดอาหารกระเพาะอาหารลำไส้เล็กตับอ่อน, ตับ, รังไข่ต่อมลูกหมากและ การเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก แต่อย่าพึ่งชาเพื่อให้สุขภาพร่างกาย - ชาไม่ได้เป็นมหัศจรรย์รักษาหลังจากทั้งหมด ขณะที่การศึกษากว่าไม่ขอแนะนำชาที่มีประโยชน์ในการต้านมะเร็งที่การวิจัยในปัจจุบันมีการผสม.
ชาจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชาสูงความสามารถในการดูดซับออกซิเจนที่รุนแรง ( "ORAC" ให้เพื่อนของมัน) ซึ่งเป็นวิธีที่จินตนาการของบอกว่ามันช่วยทำลายอนุมูลอิสระ (ซึ่งสามารถสร้างความเสียหาย DNA) ในร่างกาย ในขณะที่ร่างกายของเราได้รับการออกแบบการต้านอนุมูลอิสระของตัวเองพวกเขาไม่ได้ร้อยละ 100 มีประสิทธิภาพ - และเนื่องจากความเสียหายจากการเหล่านินจาออกซิเจนที่รุนแรงได้รับการเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งโรคหัวใจและโรคความเสื่อมของระบบประสาทเราจะใช้ความช่วยเหลือทั้งหมดที่เราสามารถทำได้ ได้รับ.
ชาผิวร่างกาย (แม้แม้จะมีคาเฟอีน!).
การดื่มชาจะเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของโรคพาร์กินสัน เมื่อพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเช่นการสูบบุหรี่การออกกำลังกายอายุและดัชนีมวลกายการดื่มชาเป็นประจำมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคพาร์กินสันในทั้งชายและหญิง.
ชาอาจให้การป้องกันจากรังสีอัลตราไวโอเลต เรารู้ว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่จะ จำกัด การสัมผัสกับรังสียูวีและเราทุกคนรู้ว่าสิ่งที่มันต้องการที่จะรู้สึกการเผาไหม้ ข่าวดีก็คือว่าชาเขียวอาจทำหน้าที่เป็นครีมกันแดดสำรอง.
ชาสามารถเก็บรอบเอวในการตรวจสอบ ในการศึกษาหนึ่งที่ผู้เข้าร่วมที่บริโภคชาร้อนอย่างสม่ำเสมอมีรอบเอวลดลงและต่ำกว่าค่าดัชนีมวลกายผู้เข้าร่วมที่ไม่นาน นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าการดื่มชาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของภาวะ metabolic syndrome (ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานโรคหลอดเลือดแดงและหลอดเลือด) แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ความสัมพันธ์ที่ไม่ทำให้เกิดผลเท่ากับ.
การดื่มชาเป็นประจำนอกจากนี้ยังอาจต่อสู้กับบางส่วนของผลกระทบของ การสูบบุหรี่และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอด (ข่าวที่ดีอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้เป็นเหตุผลสำหรับ Cigs).
ชาอาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การศึกษาพบว่าสารในชาเขียวจะช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานน้ำตาลกระบวนการที่ดีกว่า.
ชาสามารถช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากการฉายรังสี ผลการศึกษาพบว่าชาช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของโทรศัพท์มือถือเมื่อสัมผัสกับรังสีในขณะที่อีกพบว่าชาสามารถช่วยให้ผิวกลับมา postexposure.
ชาเขียวได้รับพบว่าเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและความแข็งแรง.
ชาอาจจะเป็นตัวแทนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและ การรักษาโรคทางระบบประสาทโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคความเสื่อม (คิดว่าอัลไซเม) ในขณะที่หลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพสมองโพลีฟีนในชาเขียวอาจช่วยรักษาส่วนของสมองที่ควบคุมการเรียนรู้และความจำ.
แม้ว่าการวิจัยมากที่สุดในชาเป็นบวกอย่างมากก็ไม่ชัดเจนทั้งหมด - เพื่อให้คำเตือนเหล่านี้ในใจก่อนที่จะปล่อยขึ้นไปบนแกลลอน ของสิ่งนี้

ให้มันเย็น ซ้ำแล้วซ้ำอีกการดื่มเครื่องดื่มร้อนอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งหลอดอาหาร ให้ชาหลายนาทีในการดับร้อนก่อนที่จะจิบ.
การศึกษาดูเหมือนน่าเชื่อ แต่หนูไม่ได้เป็นมนุษย สารเคมีในชาอาจมีปฏิกิริยาแตกต่างกันในห้องปฏิบัติการกว่าที่พวกเขาทำในร่างกายมนุษย์ แทนนิน (และสิ่งที่ดีอื่น ๆ ในชาเขียว) อาจจะไม่ bioavailable สำหรับมนุษย์หมายชาอาจจะไม่เสมอเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์ในระดับเดียวกับการศึกษาในห้องปฏิบัติการขอแนะนำ.
เครื่องดื่มชาทั้งหมดจะไม่สร้างเท่าเทียม การเข้าถึงของร่างกายเพื่อสิ่งที่ดีในชาอาจจะถูกกำหนดโดยความหลากหลายชากระป๋องและการประมวลผลและวิธีการที่มันถูกต้ม.
Takeaway ที่: อย่างน้อยที่สุดชาควรจะปลอดภัยต่อการบริโภค - เพียงแค่ไม่ได้อยู่ในปริมาณที่มากเกินไป ดังนั้นชงขึ้นชุดของสิ่งที่ดี - ร้อนหรือเย็น - และเพลิดเพลินไปกับ