Our taxonomy of demand-side and sup

Our taxonomy of demand-side and supply-side gaps produces six possible situations, depicted in figure 5.6, only one of which is a no-gap condition. The figure illustrates several points. First, it is important to identify the source of the gap. If the gap arises from the cost side but the right amount of service outputs are being produced, for example, then it is important not to reduce or increase service output provision while reducing cost. Alternatively, if a demand-side gap with too high a level of a particular service output produced and a supply-side gap (flows are performed inefficiently) are both present, then reducing the level of service outputs offered without also increasing efficiency will not fully close the gap. Even worse, if a demand-side gap with too low a level of service outputs provided is present with a high-cost supply-side gap, the temptation may be to cut service provision in an attempt to reduce channel costs. The result would be doubly disastrous: not only would service levels suffer even more, but efficiency on a flow-by-flow basis would not improve. Thus, if the source of the gap is not properly identified, the solution may be worse than the original problem.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราจำแนกประเภทของช่องว่าง ด้านความต้องการ และ supply-side ให้หกได้สถานการณ์ แสดงในรูปที่ 5.6 เพียงหนึ่งซึ่งมีเงื่อนไขไม่มีช่องว่าง ตัวเลขแสดงให้เห็นหลายจุด แรก มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะระบุแหล่งที่มาของช่องว่าง ถ้าช่องว่างที่เกิดขึ้นจากด้านต้นทุน แต่รายการของบริการแสดงผลมีกำลังผลิต ตัวอย่าง แล้วจะต้องไม่ลด หรือเพิ่มการจัดบริการผลผลิตลดต้นทุน หรือ ถ้าช่องว่างของความต้องการด้านมี สูงเกินระดับของผลลัพธ์การบผลิต และช่องว่าง supply-side (ขั้นตอนดำเนินการทิ้งไปอย่างสิ้นเปลือง) มีอยู่ แล้วลดระดับการแสดงผลของบริการที่เสนอ โดยยัง เพิ่มประสิทธิภาพจะไม่เต็มปิดช่องว่าง แม้เลว ถ้าช่องว่างด้านความต้องการ ด้วยระดับต่ำเกินไปของเอาท์พุตบริการให้อยู่กับช่องว่าง supply-side ราคาสูง มันอาจจะตัดบริการในความพยายามที่จะลดต้นทุนของช่อง ผลจะเป็นสองเหตุการณ์ร้าย: ไม่เพียงแต่ระดับการบริการจะประสบได้ แต่จะไม่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพตามขั้นตอนโดยขั้นตอนการ ดังนั้น ถ้าแหล่งที่มาของช่องว่างไม่ถูกต้องถูกระบุ โซลูชันได้เลวร้ายยิ่งกว่าปัญหาเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อนุกรมวิธานด้านความต้องการและช่องว่างด้านอุปทานของเราผลิตหกสถานการณ์ที่เป็นไปภาพในรูปที่ 5.6 เพียงคนเดียวที่เป็นภาวะที่ไม่มีช่องว่าง รูปที่แสดงให้เห็นถึงหลายจุด ครั้งแรกเป็นสิ่งสำคัญที่จะระบุแหล่งที่มาของช่องว่าง หากช่องว่างที่เกิดขึ้นจากทางด้านค่าใช้จ่าย แต่ในปริมาณที่เหมาะสมของผลให้มีการผลิตตัวอย่างเช่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ลดหรือเพิ่มการให้บริการในขณะที่การส่งออกลดค่าใช้จ่าย หรือถ้ามีช่องว่างด้านอุปสงค์ที่มีความสูงเกินระดับของการส่งออกบริการเฉพาะการผลิตและช่องว่างด้านอุปทาน (กระแสจะดำเนินการได้ผล) มีทั้งในปัจจุบันแล้วการลดระดับของผลบริการที่นำเสนอโดยไม่เพิ่มประสิทธิภาพจะไม่ได้อย่างเต็มที่ ปิดช่องว่าง แม้เลวถ้ามีช่องว่างด้านอุปสงค์ที่มีระดับต่ำเกินไปของเอาท์พุทให้บริการในปัจจุบันที่มีค่าใช้จ่ายสูงช่องว่างด้านอุปทานสิ่งล่อใจอาจจะตัดการให้บริการในความพยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายช่อง ผลที่ได้จะเป็นทวีคูณหายนะ: ไม่เพียง แต่จะให้บริการในระดับที่ต้องทนทุกข์ทรมานมากยิ่งขึ้น แต่มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานการไหลโดยการไหลจะไม่ปรับปรุง ดังนั้นหากแหล่งที่มาของช่องว่างที่ไม่ได้ระบุอย่างถูกต้องวิธีการแก้ปัญหาที่อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าปัญหาเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อนุกรมวิธานของด้านอุปสงค์และอุปทาน ช่องว่างด้านสร้าง 6 สถานการณ์เป็นไปได้ปรากฎในรูปที่ 5.6 เพียงหนึ่งซึ่งเป็นช่องว่าง ไม่มีเงื่อนไข รูปที่แสดงให้เห็นถึงประเด็นหลาย แรก , มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะระบุแหล่งที่มาของแก๊ป ถ้าช่องว่างที่เกิดขึ้นจากด้านต้นทุน แต่ปริมาณที่เหมาะสมของการแสดงผลบริการจะถูกผลิต ตัวอย่างเช่นมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ลดหรือเพิ่มผลผลิตการให้บริการในขณะที่การลดต้นทุน หรือถ้าต้องการช่องว่างข้างสูงเกินระดับของบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตผลผลิตและอุปทานไม่ไหลจะแสดงผล ) เป็นปัจจุบันแล้วการลดระดับของผลการบริการที่เสนอโดยยังเพิ่มประสิทธิภาพจะไม่เต็มปิดช่องว่าง แม้เลวถ้าต้องการช่องว่างข้างต่ำเกินไป ระดับของการบริการโดยให้เป็นปัจจุบันที่มีค่าใช้จ่ายสูงด้านอุปทาน ช่องว่าง ล่ออาจจะตัดการให้บริการในความพยายามที่จะลดต้นทุน ช่อง ผลจะเป็นหายนะทวีคูณ : ไม่เพียง แต่จะบริการระดับเป็นทุกข์มากขึ้น แต่ประสิทธิภาพในการไหลของกระแส โดยพื้นฐานจะไม่ปรับปรุง ดังนั้นหากแหล่งที่มาของความแตกต่างไม่ระบุได้อย่างถูกต้อง การแก้ปัญหาอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าปัญหาเดิม