From a methodological point of view

From a methodological point of view, this mix-method study
represents an effort to develop an instrument designed to measure
features of social media activities in higher education settings. The
newly detected instantiations of social media activities helped
revealing new facets of FoMO. Thus, in addition to the social
FoMO scale, designed by Przybylski et al. (2013), the new scale
enables measuring the extent to which people feared missing out
news (Mitchell & Guskin, 2013), and commercial information
(Kietzmann et al., 2011; Mangold & Faulds, 2009) as suggested
by theory. This effort could help bridging the gap between the
theoretical definitions of FoMO and social media engagement and
their operational levels. The positive correlations found between
the newly identified sub-factors in both scales may suggest that
different forms of media engagement follow different FoMO
trajectories.
This study’s main implication is to understanding the psychological
precursors to students’ social media engagements in the
classroom, which were, by definition, not requested for academic
purposes. The current work may suggest that students use media
tools during classes mainly for social activities, which are not related
to the subject matter or their learning processes. However, an
interesting avenue for future research that was not addressed in
the current study should be related to the question of how different
learning environments can affect social media engagements
and motivational outcomes. Because Millennials are described as
having a focus on social media interaction and preferring groupbased
approaches to study and social activities (McMahon &
Pospisil, 2005), the question of how social media can be incorporated
into current pedagogical applications and processes is of
importance. A current research (Tarantino, McDonough, & Hua,
2013) has indicated that by encouraging engagement with social
media, students develop connections with peers, establish a virtual
community of learners and ultimately increase their overall learning
skills. Thus, future work should evaluate the context in which
social media is being used for learning purposes and its possible
impact on learning motivations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาจาก methodological จุดของมุมมอง วิธีผสมนี้แสดงถึงความพยายามที่จะพัฒนาเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อวัดลักษณะการทำงานของกิจกรรมสังคมศึกษาการตั้งค่า ที่เพิ่งตรวจพบ instantiations ช่วยเหลือกิจกรรมสังคมเปิดเผยแง่มุมใหม่ของ FoMO ดังนั้น นอกจากสังคมมาตราส่วน FoMO การออกแบบโดย Przybylski et al. (2013), มาตราส่วนใหม่เปิดใช้งานการวัดขอบเขตที่คนกลัวขาดออกข่าว (Mitchell & Guskin, 2013), และข้อมูลทางการค้า(Kietzmann et al., 2011 Mangold & Faulds, 2009) แนะนำเป็นโดยทฤษฎี ความพยายามนี้จะช่วยให้การเชื่อมโยงช่องว่างระหว่างการคำนิยามทฤษฎี FoMO และหมั้นสังคม และระดับการปฏิบัติของพวกเขา ความสัมพันธ์ในเชิงบวกที่พบระหว่างสเกลทั้งสองปัจจัยย่อยที่ระบุใหม่อาจแนะนำที่หมั้นสื่อในรูปแบบต่าง ๆ ตาม FoMO แตกต่างกันtrajectoriesปริยายหลักของการศึกษานี้คือการทำความเข้าใจในจิตใจprecursors เพื่องานสังคมของนักเรียนในการห้องเรียน ที่ ตามข้อกำหนด ไม่มีการร้องขอสำหรับวิชาการวัตถุประสงค์ งานปัจจุบันอาจแนะนำให้ นักเรียนใช้สื่อเครื่องมือในระหว่างการเรียนส่วนใหญ่ในสังคม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องสาระหรือกระบวนการเรียนรู้ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม การอเวนิวที่น่าสนใจสำหรับการวิจัยในอนาคตที่ไม่มีอยู่ในการศึกษาปัจจุบันควรเกี่ยวข้องกับคำถามที่แตกต่างกันอย่างไรเรียนรู้สภาพแวดล้อมที่มีผลต่องานสังคมและผลที่ได้หัด เพราะ Millennials ไว้เป็นมีโฟกัสในการโต้ตอบสื่อสังคมและร่วม groupbasedแนวทางการศึกษาและกิจกรรมเพื่อสังคม (แม็กแมเฮินและPospisil, 2005) คำถามที่ว่าสังคมสามารถถูกรวมในปัจจุบันโปรแกรมประยุกต์ที่สอนและกระบวนเป็นความสำคัญ งานวิจัยปัจจุบัน (แทแรนติโน แมคโดนัฟ ดำ หัว2013) ได้ระบุว่า การส่งเสริมให้กับสังคมสื่อ นักพัฒนาเชื่อมต่อกับเพื่อน สร้างเสมือนชุมชนของผู้เรียน และเพิ่มการเรียนรู้โดยรวมในที่สุดทักษะการ ดังนั้น ในอนาคตงานควรประเมินบริบทที่มีการใช้สื่อสังคมเรียนรู้วัตถุประสงค์และเป็นไปผลกระทบในการเรียนรู้โต่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากจุดระเบียบวิธีการในมุมมองของการศึกษานี้ผสมวิธีการแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะพัฒนาเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อวัดคุณสมบัติของกิจกรรมสื่อสังคมในการตั้งค่าการศึกษาระดับสูง instantiations ตรวจพบใหม่ของกิจกรรมสื่อสังคมช่วยเผยให้เห็นแง่มุมใหม่ของFoMO ดังนั้นนอกเหนือไปจากสังคมขนาด FoMO รับการออกแบบโดย Przybylski et al, (2013) ขนาดใหม่ช่วยให้การวัดขอบเขตที่คนกลัวหายออกไปจากข่าว(Mitchell & Guskin 2013) และข้อมูลในเชิงพาณิชย์(Kietzmann et al, 2011;. Mangold & Faulds 2009) ตามที่แนะนำโดยทฤษฎี ความพยายามนี้จะช่วยให้การเชื่อมช่องว่างระหว่างคำจำกัดความทางทฤษฎีของ FoMO และความผูกพันของสื่อทางสังคมและระดับการดำเนินงานของพวกเขา ความสัมพันธ์ในเชิงบวกที่พบระหว่างที่ระบุใหม่ปัจจัยย่อยในเครื่องชั่งน้ำหนักทั้งอาจชี้ให้เห็นว่ารูปแบบของการมีส่วนร่วมของสื่อตามFoMO ที่แตกต่างกันไบร์ท. หมายหลักของการศึกษาครั้งนี้คือการทำความเข้าใจจิตวิทยาสารตั้งต้นให้กับนักเรียน'นัดหมายสื่อทางสังคมในห้องเรียนซึ่งได้โดยความหมายไม่ได้ขอให้ทางวิชาการวัตถุประสงค์ การทำงานในปัจจุบันอาจแนะนำให้นักเรียนใช้สื่อเครื่องมือในระหว่างการเรียนเป็นหลักสำหรับกิจกรรมทางสังคมซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องหรือกระบวนการเรียนรู้ของพวกเขา อย่างไรก็ตามถนนที่น่าสนใจสำหรับการวิจัยในอนาคตที่ไม่ได้อยู่ในการศึกษาในปัจจุบันควรจะเกี่ยวข้องกับคำถามของวิธีการที่แตกต่างกันในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่จะมีผลต่อการนัดหมายสื่อสังคมและผลการสร้างแรงบันดาลใจ เพราะ Millennials อธิบายว่ามีความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อสังคมและพอใจgroupbased แนวทางในการศึกษาและกิจกรรมทางสังคม (มาฮอนและPospisil 2005) คำถามของวิธีการสื่อสังคมสามารถรวมในการใช้งานการเรียนการสอนในปัจจุบันและกระบวนการที่มีความสำคัญ งานวิจัยปัจจุบัน (ยียวน, ดอนนาและหัวหิน, 2013) ได้ชี้ให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมโดยการกระตุ้นให้กับสังคมสื่อให้นักเรียนพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานสร้างเสมือนชุมชนของผู้เรียนและในที่สุดเพิ่มการเรียนรู้โดยรวมของทักษะ ดังนั้นการทำงานในอนาคตควรประเมินบริบทที่สื่อสังคมจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้และเป็นไปได้ส่งผลกระทบต่อแรงจูงใจในการเรียนรู้